ว่ากันว่าในแต่ละวันจะมีผู้ใช้งานที่เข้ามาค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการใน Google มากกว่า 7.2 พันล้านครั้ง หรือราว ๆ 85,000 ครั้งต่อวินาที การติดอันดับ Seach Engine บน Google จึงเป็นที่ต้องการของทุกธุรกิจในโลกดิจิทัลอย่างเลี่ยงไม่ได้ และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ตำแหน่ง SEO Specialist เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ปัจจุบัน และเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจอาชีพนี้อย่างแท้จริง
สำหรับใครที่ต้องการเข้าสู่สายงานนี้อย่างจริงจัง วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ SEO Specialist ไปพร้อม ๆ กัน ว่านอกจาก Search Engine ที่ต้องให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งแล้ว หน้าที่และความสำคัญของ SEO Specialist ที่ดีควรเป็นอย่างไรบ้าง? ก่อนจะไปถึงรายละเอียดอื่น ๆ เรามาเริ่มจากการทำความรู้จักกับ SEO กันก่อนดีกว่า
SEO Specialist คืออะไร?
“SEO” หรือ “Search Engine Optimization” คือ การวิเคราะห์การตลาดออนไลน์เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาบนหน้าแรกของ Google โดยการใช้ Search Engine มาเป็นองค์ประกอบและเน้นการเข้าถึงแบบ Traffic Oraganic คือการได้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาทเดียว ดังนั้น “SEO Speacialist” ย่อมหมายถึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นอย่างดี ซึ่ง SEO Specialist ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งในสายอาชีพ Digital Marketing โดยเรามีหัวใจหลักในการทำงานคือการทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจนั้นๆ มีอัตราการเติบโตจาก Traffic Organic ด้วยการใช้ Search Engine มาประกอบการทำการตลาดให้ได้มากที่สุด
หากอยากทำความรู้จักกับ SEO ให้มากขึ้น สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย !
SEO คืออะไร ? รวมทุกอย่างที่คุณต้องรู้ของการทำ SEO https://nerdoptimize.com/seo/what-is-seo/
หน้าที่และความรับผิดชอบของ SEO Specialist
ในแต่ละวัน SEO Specialist อย่างเราต้องทำอะไรบ้าง? สำหรับหน้าที่ความรับผิดชอบหลักที่ SEO Specialist อย่างเราต้องคำนึงถึงเลยคือ ‘ทำอย่างไรเว็บไซต์จึงจะติดอันดับ 1 ในหน้าแรกของ Google Search ?’ แล้วทำอย่างไรเราจึงจะสามารถไปถึงเป้าหมายสูงสุดได้
SEO Specialist ต้องรู้จักการวางแผนเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ให้มี Seach Engine ที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวกรวดเร็ว โดยเราพยายามศึกษา Search Engine Bot ให้สามารถเข้าใจเว็บไซต์ของเราได้ง่ายที่สุด นอกจากนี้การจะทำให้บอท (Bot) ของ Search Engine สามารถเข้าใจเว็บไซต์ของเราได้ง่ายนั้น ต้องอาศัยการทำเนื้อหาภายในเว็บไซต์ (Content) ที่ตรงจุดเพื่อเพิ่ม Organic Traffic ให้กับเว็บไซต์ ยิ่งจำนวน Organic Traffic มากขึ้น หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์เติบโตมากขึ้นเท่าไร นั่นหมายความว่าเราก็ใกล้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของ SEO Specialist มากขึ้นเท่านั้น
ลักษณะงานในแต่ละวันของ SEO Specialist จะเน้นไปที่การ Research Keyword การวิเคราะห์คู่แข่ง การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ให้มีระเบียบ และการวางแผนและประเมิน Performance ใน Organic Chanel โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของ SEO Specialist สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
On Page Optimization
คือการปรับปรุงภาพลักษณ์และเนื้อหาภายในเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับ Search Engine เพื่อเพิ่มอันดับใน Search Engine Result Pages (SERPs) ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ คือการปรับปรุงหัวข้อของบทความในเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่บน Google search ในบรรทัดแรก (Title Tag) หรือการเขียนคำอธิบายเนื้อหาอย่างย่อ (Meta Tag) ให้สั้น กะทัดรัด ชัดเจน รวมไปถึงการสร้างเนื้อหา (Content) ในเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์กับ Search Engine และสอดคล้องกับธุรกิจของเว็บไซต์นั้น ๆ เป็นต้น
Off Page Optimization
คือการกระทำการใด ๆ ที่อยู่ภายนอกเว็บไซต์ แต่จะส่งผลให้เว็บไซต์ของเรามีอันดับ Search Engine ที่สูงขึ้น เช่นสร้างกลยุทธ์ที่ทำให้เว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ (Link Building) หรือการเพิ่ม Social Media Engagement ให้มีผู้เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของเรามากขึ้น
Technical SEO
เป็นการปรับปรุงโครงสร้างเบื้องหลังของเว็บไซต์เพื่อที่จะให้ Googlebot เข้ามา เก็บ Data ของเว็บไซต์ (Crawling) และ นำไปจัดเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล (Indexing) เพื่อนำมาจัดอันดับ (Ranking) และทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับ Seach Engine ได้ ยกตัวอย่างเช่นการทำ Sitemaps หรือแผนผังเว็บไซต์ และการทำ Schema Markup เพื่อให้ Search Engine สามารถเข้าใจได้มากขึ้นว่าข้อมูลในหน้านั้นเกี่ยวกับอะไร เป็นประเภทอะไร รวมไปถึงการทำเว็บให้โหลดได้รวดเร็วและ Responsive รองรับได้ทุกอุปกรณ์เพื่อสร้าง Mobile Friendly ให้ผู้ใช้งานผ่านโทรศัพท์เข้าถึงเว็บได้ง่ายพอๆ กับการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์
เครื่องมือที่ใช้ในแต่ละวันของ SEO Specialist
ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบของ SEO Specialist ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น เป็นการทำงานที่ต้องมี Data มาสนับสนุนการตัดสินใจอยู่เสมอ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือเพื่อช่วยทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องที่ SEO Specialist จะใช้ในแต่ละวัน ยกตัวอย่างมาเบื้องต้น ได้แก่ Google Search Console, Ahrefs และ Ubersuggest
Google Search Console
เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่จะช่วยให้ SEO Specialist อย่างเราสามารถตรวจสอบคุณภาพและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ได้อย่างละเอียดยิบ นอกจากนี้ยังสามารถดูรายงาน Organic Traffic ของเว็บได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถวัดผลการทำ SEO ได้ดียิ่งขึ้น เพราะจะให้ข้อมูล Insight ของเว็บไซต์ได้อย่างแม่นยำ
Ahrefs
เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ SEO Specialist นิยมที่สุด เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ วางแผน ติดตามผล รวมไปถึงการวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อให้เราสามารถติดอันดับบน Google Search Engine ได้ รวมทั้งยังมีข้อมูล Insight ที่บางอย่างแม้แต่ Google Search Console ก็ให้ไม่ได้!
Ubersuggest
เป็นเครื่องมือที่ถูกทำขึ้นโดย Neil Patel มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ “คีย์เวิร์ด (Keyword)” รวมไปถึงการวิเคราะห์เว็บไซต์ของเราและคู่แข่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำคอนเทนต์ของเว็บไซต์เราให้น่าสนใจและติดอันดับ SEO ได้
SEO Specialist กับทักษะสำคัญที่ควรมี
สำหรับงาน SEO Specialist นั้น การใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้ดีเยี่ยม เป็นเพียง Hard Skill ที่อาจจะสามารถฝึกเพิ่มเติมได้เรื่อย ๆ แต่การที่จะเป็น SEO Specialist ที่ดีนั้น Soft Skill ที่แข็งแกร่งก็มีส่วนช่วยในการทำงานสายอาชีพนี้ไม่แพ้กัน ดังนั้นความสามารถในการใช้เครื่องมืออย่างเดียวคงจะไม่พอ สำหรับสายงานนี้ยังจะต้องอาศัยทักษะหลายอย่างควบคู่กันไปเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด แล้วทักษะที่จำเป็นสำหรับ SEO Specialist อย่างเรามีอะไรบ้างนะ วันนี้เราจะไปหาคำตอบพร้อมกัน
ทักษะการวิเคราะห์
แน่นอนว่าทักษะการวิเคราะห์นั้นจำเป็นกับ Digital Marketing แทบทุกสายงาน โดยเฉพาะการเป็น SEO Specialist และคุณคงไม่สามารถเป็น SEO Expert ได้หากปราศจากการวิเคราะห์ที่ดีเป็นแน่ เพราะในสายอาชีพนี้จำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ Keyword ที่จำเป็น การวิเคราะห์แคมเปญและคู่แข่งเพื่อหากลยุทธ์ใหม่ ๆ มาฟาดฟันกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
การรู้และเข้าใจ WordPress , HTML , CSS เบื้องต้น
SEO Specialist จำเป็นต้องทำงานกับเว็บไซต์ตลอดเวลา การรู้และเข้าใจ WordPress , HTML , CSS เบื้องต้น ย่อมเป็นทักษะที่จำเป็นต่อเหล่า SEO Expert อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะคุณอาจต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการทำความเข้าใจกับโค้ดง่าย ๆ บ้าง เพื่อปรับปรุงให้เว็บไซต์ถูกหลัก
Search Engine Principal มากขึ้น (แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิด ! SEO Specialist ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็น แค่พอเข้าใจบ้างเพื่อใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์เบื้องต้น ก็เพียงพอแล้ว)
การติดตามเทรนด์อยู่เสมอ
ขนาดโลกของเรายังมีการหมุนและเปลี่ยนแปลงไปอยู่ทุกวัน ก็คงไม่ต่างกันกับโลกดิจิทัลเท่าไหร่นัก การเป็น SEO Specialist ที่ดีจำเป็นจะต้องตาม Core Algorithm Update หรือ การออกกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่จะคัดกรองเว็บไซต์ เพื่อนำมาจัดอันดับและนำไปแสดงผลลัพธ์บนหน้า SERPs โดยจะมีการอัปเดตให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งการอัปเดต Algorithm ในบางครั้งอาจส่งผลต่อเว็บไซต์ที่คุณดูแลอยู่ ดังนั้นการตามเทรนด์ให้ทันก็ไม่ต่างอะไรกับการเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่อาจะเกิดขึ้นให้ทันท่วงที
ทักษะการสื่อสาร
หากเราทำงานด้วยเครื่องมือทั้งหมดได้ แต่ไม่มีการทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยมก็อาจทำให้การทำงานของคุณต้องประสบพบเจอกับปัญหาที่แก้ไม่ตกก็เป็นได้ เพราะลูกค้าของ SEO Specialist มีความหลากหลายค่อนข้างมาก การสื่อสารที่ดีและการทำความเข้าใจต่อธุรกิจของลูกค้าจึงเป็นทักษะที่สำคัญที่จะอธิบายให้ได้ว่าทำไมลูกค้าเหล่านั้นจึงควรจ่ายเงินให้กับแพลนของคุณ และแพลนเหล่านั้นสามารถตอบโจทย์ธุรกิจของพวกเขาได้อย่างไร เพราะคงไม่มีใครที่จะรู้จัก Google ได้ดีไปกว่าคุณอีกแล้ว !
อยากเป็น SEO Specialist ควรเริ่มอย่างไรดี
จริง ๆ แล้ว ศาสตร์ของการเป็น SEO Expert ไม่ได้เป็นศาสตร์ที่มีสอนในโรงเรียนหรือมหาลัยทั่วไป ดังนั้นไม่ว่าคุณจะจบจากสาขาใด ก็มีสิทธิ์เป็น SEO Specialist ที่ดีได้เพียงแค่ไม่หยุดมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกทักษะที่คุณได้เรียนรู้ในมหาลัย ไม่ว่าจะเป็น บัญชี บริหาร การตลาด รวมไปถึงการโฆษณา การวิเคราะห์ ทักษะทั้งหมดนี้สามารถปรับใช้กับ SEO Specialist ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าหากอยากรู้จักการทำ SEO เบื้องต้นเพื่อจะเริ่มเข้าสู่สายอาชีพนี้อย่างเต็มตัว เราขอแนะนำให้ลองศึกษาด้วยตนเองได้ที่ https://academy.hubspot.com/courses/seo-training
ทำไมถึงควรเป็น SEO Specialist
แล้วทำไมเราถึงควรเป็น SEO Specialist กันนะ? มีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้สายงานนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าคนทั่วโลกแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก Google และในประเทศไทยเอง คนไทยเราใช้ Google ในการค้นหาสิ่งต่าง ๆ มากถึง 3,000,000 ครั้งต่อวัน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมธุรกิจต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมจึงให้ความสำคัญกับการเป็นอันดับหนึ่งในการค้นหาบน Google และก็เห็นจะมีเพียงอาชีพ SEO Specialist เท่านั้นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักธุรกิจเหล่านี้ ด้วยการนำพาเว็บไซต์ของเขาเข้าไปติดอันดับการค้นหาบน Google เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้กับธุรกิจได้ดีที่สุด
เป็นสายงานที่ต้องการในตลาด
อย่างที่เกริ่นไปแล้วข้างต้นว่าสายงานนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อ Digital Marketing ในปัจจุบัน นักธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมเริ่มเข้ามาลงทุนกับช่องทาง Search Engine มากขึ้นเพื่อที่จะได้ Organic Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ แล้วเจ้าของธุรกิจเหล่านั้นจะลงทุนกับใครเล่าจึงจะคุ้มค่าหากไม่ใช่ SEO Expert อย่างตำแหน่ง SEO Specialist ที่มีความสามารถที่จะต่อยอดให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้างและตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างตรงจุด SEO Specialist นี่แหละ จะทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นที่รู้จักมากขึ้นในชั่วข้ามคืน
ได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ
นอกจากความต้องการของตลาดแล้ว SEO Specialist ถือเป็นงานที่ต้องพบเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า Algorithm ของ Search Engine ทุกบริษัทนั้นเป็น Top Secret ที่จะเอามาเปิดเผยที่ไหนไม่ได้ ในหลาย ๆ ครั้ง SEO Specialist จึงจำเป็นที่จะศึกษาทดลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ ตลอดเวลา เหมือนบริษัท SEO อย่าง NerdOptimize ของเราที่มีการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ผลลัพธ์และพัฒนาเพื่อต่อยอดจากการทำ SEO อยู่เสมอ
ได้ใช้ทักษะที่หลากหลาย
SEO Specialist เป็นสายอาชีพที่ฟังดูเหมือนจะง่ายก็ง่าย จะยากก็ยาก เพราะสิ่งที่เหล่า SEO Specialist ต้องเผชิญอยู่ทุกวันคือความท้าทายของโจทย์ใหม่ ๆ เนื่องจากการที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ Search Engine ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน รวมไปถึงทักษะที่หลากหลายทั้งการคิด วิเคราะห์ สื่อสาร ถ้าหากเราบริหารทักษะทั้งหมดนี้ไม่ดี ก็อาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาและทำให้เราไม่สามารถไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ตามแพลนได้
บทสรุป SEO Specialist
สุดท้ายนี้สำหรับใครที่กำลังสนใจหรือต้องการจะเปลี่ยนสายเข้าสู่ SEO Specialist โดยสมบูรณ์ขอแนะนำให้ลองศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและทดลองเรียนคอร์สเกี่ยวกับการทำ SEO ดูก่อนว่าตรงกับที่เราต้องการหรือไม่ เพราะการจะเป็น SEO Specialist นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายไปเสียทั้งหมด การจะเป็น SEO Specialist ที่ดีจำเป็นต้องอาศัยทักษะหลากหลายทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ประกอบกัน SEO Specialist เหมาะกับคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนา คอยติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ บนโลกดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับ NerdOptimize ของเราที่มีการวิเคราะห์ผลลัพธ์และไม่หยุดที่จะเรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอดให้ธุรกิจอยู่เสมอ