ปัจจุบันต้องยอมรับว่ารูปแบบการทำการตลาดในช่องทางออนไลน์นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดผ่านเว็บไซต์ให้ติดอันดับหน้าแรกของ Google อย่าง SEO, การยิง Ads Facebook, การยิง Ads Instagram แต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีการตลาดออนไลน์อีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจไม่น้อยอย่างการทำ Facebook SEO ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แพ้การทำการตลาดเทคนิคอื่น ๆ
แต่ก่อนที่จะไปเริ่มทำ Facebook SEO อย่างจริงจังนั้น เรามาทำความรู้จักกันดีกว่าว่า การทำ Facebook SEO คืออะไร มีความเหมือนหรือแตกต่างกับการทำ SEO แบบปกติอย่างไรบ้าง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ขอบอกเลยว่า NerdOptimize รวบรวมทุกอย่างมาให้คุณแล้ว!
Facebook SEO คืออะไร ?
Facebook SEO คือ การทำการตลาดออนไลน์รูปแบบหนึ่ง ที่มีการปรับแต่งหน้า Facebook Page ของธุรกิจ โดยมีหลักการทำโดยทั่วไปเหมือนกับการทำ SEO ปกติ เพื่อให้หน้า Facebook Page ของธุรกิจสามารถทำอันดับในหน้าแสดงผลการค้นหา (SERP) ของ Google ได้ใน Keyword ที่คุณต้องการ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่อาจจะยังไม่มีเว็บไซต์ และต้องการเลือกใช้ Facebook Page แทนเว็บไซต์ หรือธุรกิจบางประเภทที่ต้องการใช้ Facebook Page เป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจออนไลน์แทน
การทำ Facebook SEO สามารถทำได้จริงหรือไม่ ?
สำหรับข้อสงสัยว่าการทำ Facebook SEO สามารถทำได้จริงหรือไม่นั้น จริง ๆ แล้ว Facebook สามารถ “ทำ SEO ได้” และสามารถทำ SEO ให้ติดอันดับในหน้า Google ได้เช่นเดียวกับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ติดอันดับ
สาเหตุเพราะว่า Facebook เองก็นับว่าเป็นหน้าเว็บไซต์หนึ่ง หากคุณลองเข้าไปดูที่หน้า SERP ของบาง Keyword ก็จะเห็นได้เลยว่า บาง Keyword ในอันดับ Top3 นั้นเป็น Facebook Page ที่ได้อันดับดีกว่าเว็บไซต์ด้วยซ้ำ ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า Facebook สามารถทำ SEO ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และหลาย ๆ ธุรกิจก็มีการใช้เทคนิคนี้กันอยู่ด้วย
ทำไมการทำ Facebook SEO ถึงสำคัญต่อธุรกิจของคุณ
สงสัยกันใช่ไหมว่าการทำ Facebook SEO สำคัญกับธุรกิจอย่างไรบ้าง และเมื่อทำแล้วจะส่งผลดีอย่างไรให้กับธุรกิจของคุณ มาดู 4 ข้อดีทีทำให้คุณอยากเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดนี้
Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากในไทย
ข้อแรกคือ Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากในไทย โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของ We Are Social พบว่าจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ในไทยปี 2023 พบว่าคนไทยใช้ Facebook กว่า 50 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากจำนวนยอดผู้ใช้งาน Facebook ของคนไทยที่สูงแล้ว ยังพบว่า Google นี่แหละที่เป็นเว็บไซต์ที่คนไทยเข้าใช้งานมากที่สุด
ซึ่งจากภาพรวมของสถิติผู้ใช้งานใน Facebook และ Google ในไทยที่ได้ยกมาข้างต้น ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าหากเลือกทำ Facebook SEO และมีการทำตามวิธีที่ถูกต้อง นอกจากจะทำให้ Facebook Page ธุรกิจของคุณติดอันดับได้ไม่ยากแล้ว ยังช่วยให้สินค้าและบริการของคุณให้เป็นที่รู้จัก ได้รับความสนใจ และสร้างกำไรให้กับธุรกิจได้ จากการที่ Facebook Page ของคุณติดอันดับในหน้าการค้นหาของ Keyword ต่าง ๆ
สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
การทำ Facebook SEO สามารถช่วยให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าจุดเด่นของ Facebook เป็นแอปพลิเคชันที่มีการพัฒนาลูกเล่นที่หลากหลาย ตั้งแต่แชท Messager ที่เป็นช่องทางในการสื่อสาร ช่วยให้ลูกค้าสามารถพูดคุยรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้า และบริการที่สนใจกับร้านได้อย่างง่ายดาย, การปรับแต่งหน้าเพจธุรกิจเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย, Facebook Shop ที่ออกแบบการใช้งานมาคล้ายกับเว็บไซต์ E-Commerce รวมสินค้าและบริการต่าง ๆ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เหมาะกับธุรกิจออนไลน์ ปิดการขายได้รวดเร็วทันใจ ฯลฯ
ช่วยเพิ่ม Brand Trust หรือความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
Brand Trust หรือความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องการ เพราะการมี Brand Trust ที่ดีนั้น จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่จะเพิ่ม Brand Trust ให้กับธุรกิจของคุณอยู่แล้วละก็ การทำ Facebook SEO ก็ตอบโจทย์เลยทีเดียว
หลังจากที่เราได้ทำ Facebook SEO จนทำให้ Facebook Page ติดอันดับการค้นหาบน Search Engine ของ Google แล้ว เมื่อกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการนั้นได้ค้นหาเกี่ยวกับ Keyword ต่าง ๆ และพบว่าหน้าเพจ Facebook ของเราติดอันดับในหน้าแรกนั้นก็จะส่งผลดีทำให้ธุรกิจ แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างจนเกิดและยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ช่วยเพิ่ม Reach หรือการมองเห็นโพสต์ แบบไม่ต้องยิงโฆษณา
ปกติแล้วการเพิ่ม Reach หรือจำนวนการมองเห็นของโพสต์ ธุรกิจส่วนใหญ่มักจะนิยมยิง Facebook Ads เพื่อให้คอนเทนต์ต่าง ๆ ของธุรกิจเกิดการมองเห็นจากกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น แต่การเพิ่ม Reach ด้วยการยิง Facebook Ads ในระยะยาวก็เพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจไม่น้อย เพราะฝั่งแบรนด์ก็ต้องทุ่มเงินเพื่อใช้ในการยิงโฆษณาไปเรื่อย ๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ Facebook SEO กลายเป็นเทคนิคทางการตลาดที่ช่วยเพิ่ม Reach ให้กับ Facebook Page ได้ เพราะถ้าเพจมีการติดอันดับแล้ว ก็จะมีกลุ่มเป้าหมายเข้ามา ซึ่งจะส่งผลดีทำให้คอนเทนต์ที่ทำได้รับการมองเห็นมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินยิง Ads ทุกอย่างเติบโตด้วย Organic ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว เช่น มี Engagement Rate ที่สูงขึ้น ฯลฯ
วิธีทำ Facebook SEO ให้เพจทำอันดับได้ดีที่สุด มีอะไรบ้าง ?
หลังจากที่ได้ทราบถึงความสำคัญของ Facebook SEO ต่อธุรกิจของคุณกันไปแล้ว เราก็ขอพาคุณมาเข้าใจคอนเซ็ปท์ของการทำ Facebook SEO ให้เพจของคุณติดอันดับการค้นหาบน Search Engine ได้ดีที่สุด ควรทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง ดูไปพร้อม ๆ กันเลย
หา Keyword ที่ตอบโจทย์ธุรกิจและสามารถแข่งขันทำอันดับได้
อันดับแรก หากอยากให้เพจของคุณติดอันดับการค้นหาบน Search Engine ก็ต้อง Keyword Research เพื่อหา Keyword ที่มี Search Volume ที่ตอบโจทย์กับลักษณะธุรกิจของคุณก่อน โดยในขั้นตอนนี้สามารถใช้ Keyword Research Tools ต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการหา Keyword ที่ต้องการได้ เช่น Google Keyword Planner, Keywordtool.io, Ahrefs, Ubersuggest เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น : หากคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์ และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ก็ต้องเลือกใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น อาหารแมว อาหารสุนัข เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาเกี่ยวกับ Keyword นั้นเจอหน้าเพจธุรกิจของคุณ
เปลี่ยนชื่อ Facebook Page ให้มี Keyword ในคำที่ต้องการให้ติดอันดับมากที่สุด
หลังจากที่ได้ Keyword ที่ต้องการแล้ว อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญที่จะช่วยให้ Facebook Page ของคุณติดอันดับได้ไม่ยาก คือ การเปลี่ยนชื่อเพจของคุณให้เป็นชื่อของธุรกิจ หรือชื่อสินค้าบริการที่ทำอยู่ต่อท้ายก่อน เพราะชื่อเพจก็เปรียบเสมือน Title Tag ของเว็บไซต์ ที่บอกว่ากำลังเพจของคุณนั้นทำคอนเทนต์เกี่ยวกับอะไร ซึ่งถ้าตั้งได้ดี มีความกระชับ เข้าใจง่าย เมื่อแสดงผลในหน้าค้นหาอันดับแรก ๆ User ก็อยากคลิกเข้าที่หน้าเพจของคุณมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ควรตั้งชื่อเพจให้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือหากมีหน้าร้าน แนะนำว่าควรเสริมเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Location ของร้านเข้าไปด้วย อย่าง “จีจี้ Pet Shop ร้านอาหารสัตว์ สีลม” ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยดันอันดับในการทำ Facebook SEO
เปลี่ยนชื่อ URL ของ Facebook Page ให้เกี่ยวข้องกับ Keyword หรือใช้ชื่อแบรนด์
เคล็ดลับในการทำ Facebook SEO ให้เพจติดอันดับที่ดีที่สุดเคล็ดลับต่อมา คือ การเปลี่ยนชื่อ URL ของเพจให้เกี่ยวข้องกับ Keyword โดยควรเลือกใช้ Keyword ที่ Search Volume สูง หรือเลือกใช้ชื่อแบรนด์ของแบรนด์ ที่กระชับ เข้าใจง่าย ตัวอย่างเช่น facebook.com/gigipetshopsilom
ที่เป็นแบบนี้เพราะการเปลี่ยนชื่อ URL ของ Facebook Page ก็มีผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์เช่นกัน หากนึกภาพไม่ออก การเปลี่ยนชื่อเหมือนกับการตั้งชื่อ Slug Website การตั้ง Slug URL ที่ดีก็จะช่วยให้ทั้ง Google Bot และผู้ใช้งานเข้าใจว่าหน้าเพจนี้ทำเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรอยู่ พอเป็นแบบนี้แล้วก็จะส่งผลดีต่อการติดอันดับได้
ปรับแต่งข้อมูลส่วนตัวของธุรกิจให้ครบถ้วนที่สุด
จุดสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะการปรับแต่งข้อมูลส่วนตัวของธุรกิจ เช่น Bio ส่วนแนะนำตัวเกี่ยวกับธุรกิจของคุณเบื้องต้นว่าเป็นสินค้า บริการอะไร, Location ตั้งอยู่ที่ไหน, มีช่องทางติดต่ออย่างเบอร์โทรศัพท์ อีเมล เว็บไซต์, เวลาในการเปิดทำการและปิดให้บริการอยู่ในช่วงเวลาใดบ้าง เป็นต้น
ที่เป็นแบบนี้เพราะหากมีการเพิ่มข้อมูลส่วนตัวของธุรกิจที่ครบถ้วน จะช่วยให้ผู้เข้าชม Facebook Page เข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ สินค้า บริการของเรา และในกรณีที่หากเข้าชมเพจแล้วเกิดความสนใจ ก็มีโอกาสสูงที่ผู้เข้าชมจะหลายมาเป็นลูกค้าของเราได้ในอนาคตนั่นเอง
เขียนคอนเทนต์ลง Facebook อย่างสม่ำเสมอ (และใส่ Hashtag)
ถ้าการทำ SEO ของเว็บไซต์สิ่งสำคัญที่ช่วยดันอันดับได้ คือ เรื่องของการเขียนบทความ SEO อย่างสม่ำเสมอ การทำ Facebook SEO ก็ไม่มีอะไรที่แตกต่าง เพราะถ้าคุณมีการเขียนคอนเทนต์ลงเพจอย่างสม่ำเสมอ แต่ละคอนเทนต์ที่คุณทำนั้น ก็สามารถติดอันดับการค้นหาในแต่ละ Keyword บน Search Engine ได้เหมือนกัน
ซึ่งในการจะทำให้คอนเทนต์ที่ลงใน Facebook สามารถติดอันดับ ทำ SEO ได้นั้น ก็ต้องใช้หลักการเดียวกันกับการเขียนบทความ SEO ด้วย นั่นก็คือต้องมีการกระจาย Keyword ที่ต้องการทำอันดับให้ทั่วทั้งบทความ, เขียนคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน สามารถมอบวิธีการแก้ไขปัญหาหรือตอบคำถามที่กลุ่มเป้าหมายต้องการได้
ที่สำคัญคืออย่าลืมใส่ Hashtags ใน Keyword ที่คุณต้องการทำอันดับด้วย เพราะการใส่ Hashtags จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถพบเจอกับคอนเทนต์ (และ Facebook Page) ของคุณได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ ที่คุณควรทำหากต้องการทำ Facebook SEO ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำ Backlink จากเว็บไซต์อื่น ช่วยดันอันดับให้ดีขึ้น
การทำ Link จากเว็บไซต์อื่นส่งมายัง Facebook Page ด้วยการทำ Backlink เป็นอีกหนึ่งวิธีการดันอันดับของการทำ Facebook SEO ที่มีประสิทธิภาพ เพราะการทำ Backlink จากเว็บไซต์อื่นส่งกลับมายัง Facebook Page ก็จะทำให้ Google มองว่า Facebook Page ของคุณได้รับการอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่น ก็จะช่วยให้ตัวเพจสามารถทำอันดับใน Keyword ต่าง ๆ ได้
ซึ่งส่วนนี้หลักการก็จะมีความคล้ายคลึงกับการทำ Off Page SEO ของเว็บไซต์ปกติในส่วนการทำ Backlink ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นการทำ Backlink แล้วให้ส่งลิงก์กลับมายัง URL ของ Facebook Page ของคุณก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการทำ Facebook SEO ที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้วิธีอื่น ๆ เลย
มี Call To Action ให้ชัดเจน ช่วยเปลี่ยน Traffic เป็น Conversion
หลายคนที่ทำ Facebook SEO อาจจะมองข้ามเรื่องไป เพราะคิดว่าการทำ CTA นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการดันอันดับ แต่จริง ๆ แล้วการมี CTA ที่ชัดเจน จะกระตุ้นให้ผู้เข้าชมคอนเทนต์ในหน้า Facebook Page เกิดความสนใจ เกิดการตอบสนองว่าต้องทำอะไรต่อ ที่สำคัญยังช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการติดต่อ สอบถาม หากผู้เข้าชมคอนเทนต์มในหน้า Facebook Page เกิดความสนใจต้องการซื้อสินค้า หรือบริการ
เทคนิคดี ๆ ที่เราอยากแนะนำในการทำ CTA ให้ได้ผลตอบรับที่ดี มีประสิทธิภาพ แนะนำว่าควรมีการทำ Copywriting ที่สื่อสารออกมากระชับ ชัดเจน สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี และเมื่ออ่านแล้วสามารถทราบได้ทันทีว่าจะเกิดผลลัพธ์อะไร
ตัวอย่างเช่น : สั่งซื้อเลยตอนนี้ พร้อมโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1, ลงทะเบียนเพื่อรับตัวอย่างทดลองฟรี, เฉพาะสมาชิกแฟนเพจ กดติดตามเพื่อรับข่าวสารโปรโมชันดี ๆ เป็นต้น
สรุป Facebook SEO
เรียกได้ว่าการทำ Facebook SEO เป็นหนึ่งในวิธีทำการตลาด SEO แบบใหม่ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะในปัจจุบันการทำ SEO ให้ติดอันดับในหน้า Google นั้นไม่ได้มีแค่เว็บไซต์ทั่วไปเพียงอย่างเดียว แต่หากสังเกตดี ๆ ในหน้าที่ติดอันดับก็จะพบได้ว่ามี Facebook Page หลายหน้าที่อยู่ในอันดับต้น ๆ
และเพื่อให้การทำ Facebook SEO นั้นสามารถสร้างผลประกอบการที่ยั่งยืนประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้นั้น จำเป็นจะเข้าใจถึงเทคนิคในการทำและสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญขอแนะนำว่าควรทำควบคู่กันไปกับหน้าเพจและเว็บไซต์ รับรองเลยว่า Facebook Page ของคุณติดอันดับได้อย่างแน่นอน
