Home - SEO - 15 AI Tools มาแรงในปี 2025 ใช้งานง่าย ช่วยงานไว ได้งานเร็ว!

15 AI Tools มาแรงในปี 2025 ใช้งานง่าย ช่วยงานไว ได้งานเร็ว!

AI Tools

ทุกวันนี้ ธุรกิจและผู้คนในหลากหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักการตลาด ครีเอเตอร์ ไปจนถึงเจ้าของกิจการ ต่างเริ่มหันมาใช้ AI Tools เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ สร้างคอนเทนต์บนโซเชียล สรุปรายงาน หรือออกแบบภาพประกอบ AI ได้เข้ามาช่วยลดเวลา ลดต้นทุน และช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับงานที่สำคัญได้มากขึ้น 

บทความนี้ NerdOptimize จะพาคุณไปรู้จักกับ AI Tools ที่น่าสนใจและใช้งานง่าย ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณให้ “ฉลาดขึ้น” ทันยุค ทันเกม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะมี AI Tools ตัวไหนน่าใช้บ้าง มาดูกัน!

AI Tools ตัวช่วยเขียนบทความ & โพสต์ Content Writing

1. ChatGPT

chatgpt

AI Tools สำหรับเขียนบทความตัวแรกที่ใครหลาย ๆ คนต้องรู้จัก ChatGPT คือผู้ช่วยเขียนคอนเทนต์ที่รวดเร็ว คิดคำเก่ง และพร้อมทำงาน 24 ชั่วโมง ด้วยความสามารถในการสื่อสารได้หลายสไตล์ และสร้างโพสต์ที่น่าสนใจได้ในไม่กี่วินาที ไม่ว่าจะโพสต์ขายของ แชร์ความรู้ หรือเขียนบทความยาว ๆ ก็สามารถใช้เป็นตัวช่วยตั้งแต่ร่างเนื้อหา จัดโครงสร้าง ไปจนถึงเกลาภาษาให้ดูมืออาชีพได้ เรียกได้ว่าช่วยเบาแรงของคนทำงานคอนเทนต์ไปได้เยอะ 

จุดเด่น 

  • ใช้งานง่าย แค่ป้อนพรอมต์ด้วยภาษาพูดที่เข้าใจง่าย ก็พร้อมทำงานสร้างสรรค์งานเขียนดี ๆ ให้คุณได้ทันที
  • ตัวฟรีใช้งานได้ดี เหมาะสำหรับทำคอนเทนต์หรือโพสต์เฟซบุ๊กเท่าไหร่
  • ChatGPT สามารถตอบคำถามและให้ข้อมูลที่หลากหลายได้ โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก
  • ChatGPT มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากการแชทกับผู้ใช้งาน ทำให้สามารถตอบคำถามและสร้างเนื้อหาได้แม่นยำและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ราคา

  • ฟรี (Free) เข้าถึงโมเดลพื้นฐาน เช่น GPT‑4o mini บางครั้งจำกัดการใช้งานในช่วงที่มีคนใช้เยอะ
  • ChatGPT Plus ราคา $20/เดือน ใช้งานโมเดล GPT‑4o เต็มรูปแบบ
  • ChatGPT Pro ราคา $200/เดือน โมเดลระดับสูงเช่น o1 (o1, o1‑mini, GPT‑4o) พร้อม “o1 Pro Mode” สำหรับงานเชิงลึก มีฟีเจอร์ Advanced Voice, Deep Research (120 ครั้ง/เดือน)
  • ChatGPT Team ราคา $25/ผู้ใช้/เดือน (รายปี) สำหรับทีมขนาดเล็ก (สูงสุด 149 คน) ได้พื้นที่ทำงานร่วมกัน เครื่องมือจัดการสมาชิก และ API สำหรับสร้างแอปใน GPT Store
  • ChatGPT Enterprise ราคา ประมาณ $60/ผู้ใช้/เดือน (สัญญาขั้นต่ำ 150 คน) เหมาะกับองค์กรใหญ่ มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับองค์กร, SSO, การวิเคราะห์, API เครดิต และการสนับสนุนเชิงองค์กร

2. Jasper AI

Jasper AI

AI Tools สำหรับสายคอนเทนต์ระดับมืออาชีพที่โดดเด่นด้านการเขียนเชิงสร้างแบรนด์ Jasper AI ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยนักเขียนและนักการตลาดให้สามารถผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโพสต์ขายของ บล็อกบทความ หรือข้อความโฆษณา Jasper ก็พร้อมช่วยจัดสไตล์ภาษาตามแบรนด์ และให้เนื้อหาที่น่าสนใจแบบไม่ซ้ำใคร เหมาะกับทีมมาร์เก็ตติ้งหรือ Content Creator ที่ต้องการผู้ช่วยและเสริมคุณภาพในงานเขียน

จุดเด่น

  • มีโหมด “Brand Voice” ที่ช่วยรักษาโทนภาษาของแบรนด์ให้คงที่
  • รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย (แต่อาจต้องช่วยปรับเล็กน้อย)
  • มีเทมเพลตให้เลือกใช้งานมากกว่า 50 รูปแบบ เช่น Blog, Ads, Caption
  • เหมาะกับสายเขียนมืออาชีพที่เน้นคุณภาพและคุมโทนแบรนด์

ราคา

  • Creator: $49/เดือน (รายเดือน) หรือ $39/เดือน (รายปี)
  • Pro: $69/เดือน (รายเดือน) หรือ $59/เดือน (รายปี)

3. Copy.ai

Copy.ai

อีกหนึ่ง AI Tools ยอดนิยมของสาย Social Media เพราะ Copy.ai เน้นความรวดเร็วและใช้งานง่ายเป็นพิเศษ แค่พิมพ์หัวข้อที่ต้องการ ก็สามารถสร้างโพสต์เฟซบุ๊ก คำโปรโมต หรือแม้แต่ไอเดียคอนเทนต์ให้ได้ภายในไม่กี่วินาที โดยเฉพาะคนที่ต้องผลิตเนื้อหาแบบรายวันหรือไอเดียบล็อกที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เครื่องมือนี้ถือว่าเป็นเพื่อนคู่คิดที่ใครหลายคนแนะนำ

จุดเด่น

  • มีเทมเพลตให้เลือกใช้งานเยอะ ตั้งแต่ Facebook Post, Email, Product Description
  • ช่วยคิดไอเดียคอนเทนต์ได้แบบหลากหลาย
  • ใช้งานง่ายมาก เหมาะกับมือใหม่และสายโซเชียล
  • ประหยัดเวลาได้เยอะเมื่อเทียบกับการเริ่มเขียนจากศูนย์

ราคา

  • ใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานฟรี (จำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน)
  • รายเดือน $49/เดือน ใช้งานได้ไม่จำกัดคำในแชท
  • Advanced / Team ราคา $249/เดือน รองรับสูงสุดประมาณ 5–20 ผู้ใช้งาน มี Workflow Builder และ template มากกว่า 30 ชนิด

4. Gemini

Gemini

Gemini คือ AI Tools ที่เป็นผู้ช่วยจาก Google พัฒนาโดยใช้โมเดลภาษาระดับสูง ซึ่งสามารถเข้าใจคำสั่งภาษาไทยได้ดีและตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นของ Gemini คือความสามารถในการผสานข้อมูลจาก Google Search และฟีเจอร์อัจฉริยะจาก Google Workspace เช่น Docs, Gmail, Sheets ได้อย่างลงตัว เหมาะมากสำหรับนักเขียนที่ต้องการข้อมูลแม่นยำ เขียนไว และผูกโยงกับเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

จุดเด่น

  • เขียนบทความ โพสต์ หรือสรุปเนื้อหาได้เร็ว และเข้าใจเนื้อหาซับซ้อนได้ดี
  • เชื่อมต่อกับ Google Docs และ Gmail ได้โดยตรง พิมพ์คำสั่งแล้วให้ AI เขียนอีเมลหรือรายงานใน Docs ได้เลย
  • สามารถอ้างอิงข้อมูลจากเว็บหรือ Google Search ได้แบบเรียลไทม์ (ในบางเวอร์ชัน)
  • รองรับภาษาไทย ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งนักเขียน นักเรียน หรือเจ้าของแบรนด์

ราคา

  • ฟรี: ใช้งานได้ผ่าน gemini.google.com หรือแอป Gemini (Android/iOS) พร้อมความสามารถพื้นฐาน
  • Gemini Advanced (Google One AI Premium Plan): $19.99/เดือน (ประมาณ 700 บาท/เดือน)

5. Notion AI

Notion AI

Notion AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือจดบันทึกอีกต่อไป แต่เป็นผู้ช่วยวางแผนงานคอนเทนต์แบบ All-in-One สำหรับคนที่ใช้งาน Notion อยู่แล้ว การเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปจะช่วยเร่งกระบวนการคิด วิเคราะห์ และเขียนคอนเทนต์ได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการสรุปเนื้อหา ร่างโพสต์ วางไอเดียคอนเทนต์ หรือแม้แต่เขียนบทความจากหัวข้อที่กำหนด ก็สามารถทำได้ในคลิกเดียว

จุดเด่น

  • ทำงานร่วมกับระบบวางแผนงานของ Notion ได้อย่างลงตัว
  • ช่วยสรุป เรียบเรียง หรือขยายความเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ
  • ใช้สำหรับจัดการโปรเจกต์ + คอนเทนต์ในที่เดียว
  • เหมาะกับ Content Writer ที่ต้องการ “คิด เขียน วางแผน” ในที่เดียว

ราคา

  • Freeplan + AI ราคา $10 ต่อผู้ใช้งาน/เดือน ตัวนี้จะใช้ฟีเจอร์ทั่วไปและเสริมการใช้งาน AI ให้ใช้งาน
  • Plus Plan ราคา $8/เดือน เสริมการทำงานของ AI ขยายฟีเจอร์การทำงานในปริมาณที่มากขึ้น 

AI Toolsช่วยวิเคราะห์ / สรุปงาน

1. Claude

Claude

Claude คือ AI ที่ได้รับความนิยมสูงในสายงานวิเคราะห์และการเขียนเชิงตรรกะ จุดเด่นของ Claude คือความสามารถในการ “อ่านเอกสารยาวมาก ๆ ได้แบบไม่สะดุด” เหมาะกับการสรุปรายงาน วิจัย หรือเอกสารทางธุรกิจ ตัวโมเดลของ Claude ได้รับการออกแบบให้สุภาพ ปลอดภัย และเข้าใจเจตนาได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการผู้ช่วย AI ที่ “คิดตาม” ได้แบบคน

จุดเด่น

  • รองรับการอ่านไฟล์ PDF, Word และการสรุปเนื้อหายาว ๆ อย่างแม่นยำ
  • มีความเข้าใจภาษาไทยดีขึ้นเรื่อย ๆ
  • โต้ตอบเป็นธรรมชาติ คล้ายกับการคุยกับผู้ช่วยมืออาชีพ
  • ดีเยี่ยมสำหรับงานวิเคราะห์ รายงาน และงานเขียนเชิงลึก

ราคา

  • ใช้งานได้ฟรี ฟีเจอร์พื้นฐาน แต่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนข้อความที่สามารถส่งได้ต่อวัน
  • Claude Pro ราคา $20 ต่อเดือน ใช้งานได้มากกว่าแบบฟรี 5 เท่า
  • Claude Team ราคา $30 ต่อคนต่อเดือน สำหรับทีมที่มีสมาชิกอย่างน้อย 5 คน

2. Perplexity

Perplexity คือ AI ที่ออกแบบมาเพื่อการ “ค้นหา + วิเคราะห์ + สรุป” ข้อมูลจากเว็บแบบเรียลไทม์ จุดเด่นคือการให้คำตอบที่อ้างอิงแหล่งข้อมูลจริง และสามารถสืบค้นข้อมูลใหม่ ๆ ได้แม่นยำ เหมาะกับคนที่ต้องทำรีเสิร์ช ค้นคว้า หรือเขียนบทความจากแหล่งอ้างอิง

จุดเด่น

  • สรุปข้อมูลจากเว็บ พร้อมให้ลิงก์อ้างอิงแหล่งที่มา
  • ใช้ GPT-4 และ Claude ร่วมกันเพื่อการวิเคราะห์ที่แม่นยำ
  • มีฟีเจอร์ “Copilot” ที่ช่วยค้นและเรียบเรียงในขั้นตอนเดียว
  • ดีสำหรับนักเขียนที่ต้องหาข้อมูลอัปเดตแบบไม่มั่ว

ราคา

  • แบบใช้ฟรี สามารถใช้ GPT-3.5/Claude ได้ พร้อมลิงก์อ้างอิง
  • Perplexity Pro ราคา $20/เดือน (ปลดล็อก GPT-4, Claude 3 Opus, เพิ่มความเร็ว)

3. Fireflies.ai

Fireflies.ai

Fireflies.ai คือผู้ช่วยจดบันทึกและสรุปการประชุมแบบอัตโนมัติ ที่สามารถฟังเสียงประชุมจาก Zoom, Google Meet หรือ Microsoft Teams แล้วแปลงเป็นบันทึกย่อทันที พร้อมสรุปใจความสำคัญให้ในไม่กี่นาที เหมาะกับคนที่ประชุมบ่อย ไม่อยากเสียเวลาจดเอง

จุดเด่น

  • เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มประชุมยอดนิยมได้อัตโนมัติ
  • แปลงเสียงเป็นข้อความ + สรุปใจความแบบเข้าใจง่าย
  • รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยในระดับพื้นฐาน
  • ช่วยลดภาระการจดบันทึก และเพิ่มความแม่นยำในรายงานประชุม

ราคา

  • ฟรี จำกัดจำนวนการประชุม/ระยะเวลา
  • Pro เริ่มต้น $10/เดือน (ปลดล็อกการใช้งานไม่จำกัด, Export ข้อมูล)

4. Otter.ai

Otter.ai

Otter.ai เป็น AI จดบันทึกเสียงยอดนิยมในกลุ่มธุรกิจและการศึกษา เพราะสามารถจดจำเสียงผู้พูดหลายคนได้ และแปลงเป็นข้อความที่สามารถแก้ไข แชร์ หรือสรุปได้ทันที มีฟีเจอร์ real-time transcript เหมาะกับการใช้ในห้องเรียน เวิร์กช็อป หรือการสัมภาษณ์

จุดเด่น

  • ถอดเสียงแบบเรียลไทม์ พร้อมแยกเสียงผู้พูดได้
  • สรุปหัวข้อและไฮไลต์คำพูดสำคัญให้อัตโนมัติ
  • มีแอปใช้งานทั้งบนมือถือและเบราว์เซอร์
  • เหมาะกับนักข่าว นักศึกษา หรือสาย HR

ราคา

  • ฟรี ถอดเสียงได้ 300 นาที/เดือน
  • Pro เริ่มต้น $10/เดือน (สูงสุด 1,200 นาที/เดือน + export, summary)

5. Mem.ai

Mem.ai

Mem.ai เป็น AI ผู้ช่วยจัดการความรู้และบันทึกไอเดียอย่างชาญฉลาด จุดเด่นคือความสามารถในการ “เรียนรู้สไตล์การคิดของผู้ใช้” แล้วเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้อัตโนมัติ ใช้เขียน สรุป หรือวางแผนคอนเทนต์ระยะยาวได้ดีมาก เหมาะกับนักคิด นักเขียน หรือใครที่ชอบเก็บไอเดียแต่ไม่ชอบจัดระเบียบเอง

จุดเด่น

  • รวบรวมไอเดีย บันทึก และสรุปได้ในที่เดียว
  • มีระบบ Smart Search ที่ช่วยค้นหาความรู้จาก note เดิม ๆ
  • ใช้ร่วมกับงานเขียน วางแผนคอนเทนต์ หรือบันทึกประชุมได้ดี
  • เชื่อมต่อกับ Notion, Calendar และ Google Docs ได้

ราคา

  • ฟรี สำหรับผู้ใช้ทั่วไป (จำกัดบางฟีเจอร์)
  • Pro เริ่มต้น ~$10/เดือน (เพิ่ม AI power, custom templates, workspace tools)

AI Tools ผู้ช่วยสร้างสรรค์ภาพและวิดีโอ

1. Midjourney

Midjourney

Midjourney เป็นหนึ่งใน AI สร้างภาพที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยสไตล์ภาพที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม และเหมือนงานศิลป์ระดับมืออาชีพ เหมาะสำหรับนักออกแบบ ครีเอเตอร์ และนักเขียนที่ต้องการภาพประกอบที่แตกต่างจากภาพ stock ทั่วไป โดยการใช้งานจะผ่าน Discord ซึ่งอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเล็กน้อย

จุดเด่น

  • สร้างภาพสวยระดับ “อาร์ต” เหมาะกับงานดีไซน์/แฟชั่น/หนังสือ
  • ปรับคำสั่ง (Prompt) ได้ละเอียด เช่น สไตล์ภาพ, องค์ประกอบ, แสงเงา
  • มีคอมมูนิตี้บน Discord ช่วยกันแชร์ไอเดียและคำสั่ง
  • ภาพมีคุณภาพสูงและนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้

ราคา

  • เริ่มต้น $10/เดือน (Basic Plan – สร้างภาพแบบจำกัดจำนวน)
  • $30–60/เดือน (Fast Mode ไม่จำกัดเวลา/จำนวนภาพมากขึ้น)

2. DALL·E

DALL·E

DALL·E เป็น AI สร้างภาพที่ใช้งานได้ง่ายผ่าน ChatGPT (โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Plus ขึ้นไป) จุดเด่นคือการสร้างภาพจากคำบรรยายภาษาไทยก็ทำได้ และสามารถแก้ไขเฉพาะจุดในภาพ (Inpainting) ได้ด้วย เหมาะกับนักเขียน ครีเอเตอร์ และนักการตลาดที่ต้องการภาพประกอบแนวคิดโดยไม่ต้องลงดีเทลมาก

จุดเด่น

  • ใช้งานง่าย ผ่าน ChatGPT เลย ไม่ต้องสมัครแยก
  • รองรับคำสั่งภาษาไทย
  • มีฟีเจอร์แก้ไขภาพเฉพาะจุด (เช่น ลบ เปลี่ยน หรือเพิ่มวัตถุในภาพ)
  • สไตล์ภาพหลากหลาย เหมาะทั้งงานอาร์ตและงานโฆษณา

ราคา

  • ฟรี (บางภาพในแผน ChatGPT Plus)
  • รวมอยู่ใน ChatGPT Plus – $20/เดือน (ใช้ DALL·E แบบไม่จำกัดจำนวนคำสั่งทั่วไป)

3. Runway ML

Runway ML

Runway ML เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่เชี่ยวชาญด้านวิดีโอ โดยเฉพาะฟีเจอร์ Text to Video ที่สามารถเปลี่ยนคำบรรยายให้เป็นคลิปวิดีโอได้ จุดเด่นคือใช้งานผ่านเว็บได้เลย ไม่ต้องเขียนโค้ด เหมาะกับนักตัดต่อ นักโฆษณา หรือสายคอนเทนต์วิดีโอที่อยากเพิ่มความสร้างสรรค์โดยไม่ต้องลงทุนกล้องหรือโปรดักชันแพง ๆ

จุดเด่น

  • Text to Video – สร้างวิดีโอจากข้อความแบบอัตโนมัติ
  • มีฟีเจอร์ลบพื้นหลัง, เพิ่มเอฟเฟกต์, ตัดต่อแบบอัจฉริยะ
  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีพื้นฐานตัดต่อ
  • เหมาะกับสาย TikTok, YouTube Shorts หรือโฆษณาสั้น ๆ

ราคา

  • ใช้งานได้บางฟีเจอร์ มีลายน้ำ
  • Standard Plan: $15/เดือน (ลบลายน้ำ, เพิ่มคุณภาพภาพ/วิดีโอ)
  • Pro: $35+/เดือน (เข้าถึงฟีเจอร์ AI Gen-2, video editing เต็มระบบ)

4. Pika Labs

Pika Labs

Pika Labs เป็น AI สร้างวิดีโอจากข้อความที่กำลังมาแรง ด้วยความสามารถในการสร้างคลิปวิดีโอสั้น ๆ แบบ 3D หรือแอนิเมชันโดยใช้เพียงคำบรรยาย Pika เหมาะมากกับสายครีเอทีฟ แอนิเมเตอร์ หรือแม้แต่ Influencer ที่อยากได้วิดีโอแหวกแนวโดยไม่ต้องลงทุนทำเอง

จุดเด่น

  • สร้างวิดีโอ 3D / แอนิเมชันจากข้อความภาษาอังกฤษ
  • มีตัวอย่างงานให้เลือกแบบสำเร็จรูป
  • ใช้งานผ่านเว็บไซต์ง่าย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
  • เหมาะกับคลิปไวรัล, โฆษณา, หรือโพสต์สร้าง Engagement

ราคา

  • ฟรี: ทดลองใช้งาน (จำกัดคุณภาพ และจำนวน render)
  • Pro Plan: เริ่มต้น ~$10–$20/เดือน (ปลดล็อกคุณภาพสูงและจำนวน render มากขึ้น)

5. Canva AI

Canva AI

Canva AI เป็นตัวเลือกที่สะดวกและครบสำหรับคนที่อยากสร้างภาพ + ออกแบบคอนเทนต์ในที่เดียว ด้วยฟีเจอร์ Magic Design ที่ช่วยออกแบบสไลด์ โพสต์ หรืออินโฟกราฟิกจากคำสั่งง่าย ๆ และ Text to Image ที่เปลี่ยนข้อความให้กลายเป็นภาพประกอบแบบรวดเร็ว เหมาะมากสำหรับนักการตลาด นักเรียน หรือเจ้าของธุรกิจที่อยากได้ “งานไวแต่ดูดี”

จุดเด่น

  • สร้างภาพจากข้อความได้ (Text to Image)
  • ใช้ Magic Design เพื่อออกแบบสไลด์ โปสเตอร์ โลโก้ ฯลฯ อัตโนมัติ
  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทักษะด้านดีไซน์มากก็ทำได้
  • รวมเครื่องมือ AI อื่น ๆ เช่น Magic Write (เขียนข้อความอัตโนมัติ)

ราคา

  • ฟรี: เข้าถึงเครื่องมือพื้นฐาน + AI บางฟีเจอร์
  • Canva Pro: เริ่มต้น ~139 บาท/เดือน (หรือ ~12.99 USD/เดือน)
  • รวม Text to Image, Magic Write, Background Remover ฯลฯ

อย่าทำงานคนเดียว! ใช้ AI Tools เป็นผู้ช่วยงานของคุณในปี 2025

การมี AI Tools เข้ามาช่วยเสริมการทำงานไม่ใช่แค่ “เทรนด์” แต่เป็น “ทางเลือกที่จำเป็น” ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียน ครีเอเตอร์ นักการตลาด หรือเจ้าของธุรกิจ เครื่องมือ AI ที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถช่วยคุณเขียน คิด วิเคราะห์ สร้างภาพ ตัดต่อวิดีโอ หรือแม้แต่ใช้ AI Marketing เพื่อวางแผนการตลาด เก็บข้อมูล ไปจนถึงวางแผนโปรเจกต์ได้แบบอัตโนมัติ ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และเปิดโอกาสให้คุณได้โฟกัสกับงานที่สำคัญจริง ๆ

อยากรู้เกี่ยวกับ AI มากขึ้น อ่านเพิ่มเติมได้ที่ AI คืออะไร? รู้จักปัญญาประดิษฐ์ เครื่องมือเปลี่ยนเกมธุรกิจยุคดิจิทัล 

ผู้เขียน

Picture of ไอซ์ - ศิริพงษ์ กลิ่นขจร
ไอซ์ - ศิริพงษ์ กลิ่นขจร

ผู้บริหารและนักการตลาดสาย SEO ที่เชี่ยวชาญเรื่อง Marketing Strategy สนใจเกี่ยวกับ Search Engine & AI Algorithms เป็นพิเศษ และเชื่อเสมอว่าทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้ด้วย Data

LinkedIn
Picture of ไอซ์ - ศิริพงษ์ กลิ่นขจร
ไอซ์ - ศิริพงษ์ กลิ่นขจร

ผู้บริหารและนักการตลาดสาย SEO ที่เชี่ยวชาญเรื่อง Marketing Strategy สนใจเกี่ยวกับ Search Engine & AI Algorithms เป็นพิเศษ และเชื่อเสมอว่าทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้ด้วย Data

LinkedIn

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

คู่สี

10 เว็บไซต์จับคู่สี ที่นักออกแบบต้องรู้จัก ช่วยออกแบบเว็บไซต์ให้สวยจนคนต้องคลิก!

การจับคู่สีไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และรสนิยมเข้าไว้ด้วยกัน NerdOptimize จะมาแชร์เว็บจับคู่สีที่ดีและฟรีให้กับคุณ!

อ่านบทความ ➝
KOL คือ

KOL คืออะไร ต่างจาก Influencer อย่างไร อธิบายครบในบทความเดียว

KOL คือ บุคคลที่มีอิทธิพลและความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top