การตลาดออนไลน์ที่ไม่ว่าจะเป็นการยิงแอด หรือการทำ SEO ล้วนแล้วแต่ต้องการผลลัพธ์ วัดผลได้ และแน่นอนว่าใครที่พอจะมีความรู้เรื่อง Digital Marketing กันมาบ้าง คงต้องเคยได้ยินคำว่า Conversion หรือ Conversion Rate กันอยู่แล้ว และในบทความนี้ NerdOptimize จะพาทุกคนไปมาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันว่า Conversion คืออะไร สำคัญกับธุรกิจยังไง และมีวิธีการยังไง ที่จะช่วยกระตุ้น Conversion ให้เกิดได้มากยิ่งขึ้น
Conversion คืออะไร ?
Conversion คือการโต้ตอบ หรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่ลูกค้าทำเมื่อเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการกดคลิก การสมัครแบบฟอร์ม การกดสั่งซื้อ หรือการกดจองสินค้า โดย Conversion คือหนึ่งใน Metrics ที่ธุรกิจออนไลน์ทุกธุรกิจต้องการ เพื่อวัดผลการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างชัดเจนที่สุด
สำหรับการทำ SEO การวัดค่า Conversion นั้นทำได้จากการติดตั้งเครื่องมือประเภท Conversion Tracking เช่น Google Search Console และ Google Analytics เพื่อให้ได้มาซึ่งค่า Conversion Rate ที่ใช้สำหรับทำรีพอร์ตประจำเดือน ทำให้การวัดและเพิ่ม Conversion Rate กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ธุรกิจออนไลน์จะต้องให้ความสำคัญ
Conversion สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจออนไลน์ ?
Conversion เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นคุณค่า (Value) ที่มีบทบาทต่อกลยุทธ์การตลาดหลายเทคนิค รวมถึง SEO ด้วยเช่นกัน เพราะการเกิด Conversion จะทำให้ธุรกิจมีผลตอบแทน หรือบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำการตลาด นอกจากนี้เมื่อมีการคำนวณ Conversion Rate แล้ว ยังช่วยให้ธุรกิจเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มีการตอบสนองต่อข้อเสนอหรือเนื้อหาบนเว็บไซต์อย่างไรบ้าง เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สรุป ความสำคัญของ Conversion หลัก ๆ แล้วมีดังนี้
- ช่วยให้วัดผลในการทำ SEO หรือการตลาดประเภทอื่น ๆ ได้
- เพื่อให้รู้พฤติกรรมของ User ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์
- เพื่อให้เกิดการปรับปรุง เปลี่ยนหน้าเว็บไซต์จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของ User
- เพื่อนำข้อมูล User ไปทำ Remarketing ที่มีโอกาสเปลี่ยน Visitor เป็น Costomer/Consumer
วิธีการคำนวณ Conversion Rate ทำได้อย่างไร
วิธีการคำนวณ Conversion Rate นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ดังนี้
- Conversion Rate = (Visitors/Conversion)x100
- Visitors : ผู้เข้าชมเว็บไซต์
- Conversion : กิจกรรมที่ต้องใช้เพื่อชี้วัด เช่น การคลิก
ยกตัวอย่างเช่น
มี User เข้ามายังหน้าเว็บไซต์ 500 คน (Visitors) กดคลิกซื้อสินค้า 200 คน (Conversion) = (200/500)x100 = 40%
วิธีการปรับปรุงเพิ่ม Conversion ให้กับเว็บไซต์ (Conversion Rate Optimization)
หลังจากที่ทราบกันไปแล้วว่า Conversion คืออะไร คำนวณยังไง ในหัวข้อนี้เรามาดูกันบ้างว่าวิธีการปรับปรุงเพื่อเพิ้ม Conversion ให้กับเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า Conversion Rate Optimization จะมีเทคนิคไหนที่น่าสนใจบ้าง
ออกแบบปุ่ม Call To Action ให้ดึงดูด
วิธีแรกคือวิธีที่เบสิค ทำได้ทันที มีประสิทธิภาพ และนิยมทำกันมากที่สุดคือการออกแบบ CTA หรือปุ่ม Call To Action ภายในเว็บไซต์ให้กระตุ้น User ให้อยากกดคลิกบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเพิ่ม Conversion ให้กับธุรกิจ โดยทริกที่นิยมทำกันนั้นคือ ทำแบนเนอร์รูปภาพแทรกภายในบทความ สร้างปุ่ม CTA ที่อาจจะปุ่มสั่งซื้อ ปุ่มติดต่อ ให้สีสันโดดเด่น ชัดเจน ชวนให้กด
เขียน Copywriting ให้น่าสนใจ โน้มน้าวผู้อ่านได้
Copywriting เป็นหนึ่งในเทคนิคกระตุ้นความสนใจที่ยิ่งผู้เขียนมีประสบการณ์มากแค่ไหน ยิ่งจูงใจให้เกิดการซื้อได้มากเท่านั้น เพราะภาษานั้นมีพลัง เพียงคำสั้น ๆ ก็สามารถส่งธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สร้าง Conversion ได้ไม่ยาก
โดยการออกแบบ Copywriting ที่ดี นอกจากจะทำให้สะดุดตาแล้ว ยังสามารถใช้การวิเคราะห์จาก Pain Point เพื่อสื่อสารในสิ่งที่ลูกค้ากังวล หรือคลายความสงสัยได้อีกด้วย ยกตัวอย่างกรณีของ Netflix ที่ได้สร้าง Copywriting คม ๆ อย่าง Unlimit Movie , Watch Anywhere Cancel Anytime เพียง 3 ประโยคสั้น ๆ แต่สื่อสารความเป็น Netflix ไว้ครบถ้วน ‘ดูได้ทุกที่ ทุกเวลา และยกเมื่อไหร่ก็ได้’
สร้าง Landing Page ช่วยในการปิดการขาย
ไม่เพียงเฉพาะการสร้างเนื้อหาที่จูงใจให้เกิดการคลิก แต่การออกแบบ Landing Page ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลง User หรือ Visitor ให้กลายเป็นลูกค้า นอกจากนี้ การสร้าง Landing Page ให้ออกมามี Site Structure ที่ดียังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO หรือการยิงแอด เป็นต้น
ปรับปรุง Page Speed ของเว็บไซต์เพื่อสร้าง Good Experiences
มาดูหัวข้อที่ค่อนข้างจะ Technical กันบ้างกับ Page Speed เว็บไซต์ แม้จะไม่ส่งผลต่อเนื้อหาบนเว็บไซต์โดยตรง แต่มีผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience : UX) แน่นอน เพราะเว็บไซต์ที่ดาวน์โหลดช้าอาจทำให้ User หมดความอดทนและออกจากหน้าเว็บไซต์ไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นการปรับปรุง Page Speed ให้เร็วทันใจมากยิ่งขึ้น จะช่วยเพิ่มระยะเวลาที่ลูกค้าอยู่บนหน้าเว็บไซต์ และลด Bounce Rate ลง
ต้องมี Lead Form ที่ชัดเจน หาเจอง่าย บนหน้าเว็บไซต์
บริษัทรับทำ SEO และเหล่า SEO Specialist หลายคนการันตีว่าการวาง Lead From ที่มีเลเอาต์ที่เข้าใจง่ายและข้อมูลที่ต้องกรอกมีความชัดเจน ส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มโอกาสในการเก็บข้อมูลจาก User ที่เข้ามาใช้งานบนหน้าเว็บไซต์
ลองทำ A/B Testing เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเว็บไซต์
A/B Testing เป็นกลยุทธ์ที่ใช้สำหรับการทดสอบแคมเปญทางการตลาดด้วยการออกแบบหน้าเว็บไซต์ หรือสินค้าออกมาสองเวอร์ชัน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้จริง จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียในแต่ละแคมเปญ เพื่อพัฒนาเป็นแคมเปญหลักที่ใช้งานจริง
โดยการทำ A/B Testing นั้นก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ใช้ร่วมกับการออกแบบเว็บไซต์ การทำ SEO และการยิงแอด เพื่อให้สามารถทดลองและเปรียบเทียบว่าองค์ประกอบใดบนเว็บไซต์ที่ทำงานได้ดีที่สุดในการแปลงผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้า ก่อนที่จะนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาเป็นหน้า Landing Page ที่ดีที่สุดในการกระตุ้นให้เกิด Conversion
ธุรกิจประเภทไหนที่ควรต้องโฟกัสยอด Conversion มากเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน ธุรกิจทุกประเภทต่างต้องการค่า Conversion กันหมด โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ที่จะต้องโฟกัสยอด Conversion เป็นพิเศษ เพราะค่า Conversion เปรียบเสมือนเม็ดเงิน ความก้าวหน้าทางธุรกิจ ตัวชี้วัด และข้อมูลสำหรับต่อยอดธุรกิจจากข้อมูลที่รวบรวมได้นั่นเอง
เพิ่ม Conversion ให้สูงขึ้น ด้วยการพัฒนาเว็บไซต์แบบมืออาชีพ
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน แต่ถ้าอยากเพิ่ม Conversion อย่าลืมพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ให้ดีขึ้น ตาม Google Algorithm อัปเดตกันด้วย ยิ่งในปัจจุบันที่กลยุทธ์ทางการตลาดมีหลากหลายเทคนิค และหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยเพิ่ม Conversion ได้อย่างยั่งยืนคือ Search Engine Optimization หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ SEO ใครที่อยากเพิ่ม Lead และเพิ่ม Conversion บนเว็บไซต์ในระยะยาว อย่าลืมไปศึกษาวิธีเขียนบทความ SEO หรือจะเลือกมองหาคอร์สเรียนที่รับสอน SEO เพื่อเรียนรู้เทคนิคด้าน Technical ก็ยิ่งช่วยให้คุณมีความรู้ไว้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
