Home - SEO - รวม 78 SEO Statistics ที่น่าสนใจสำหรับปี 2023 ที่คนทำ SEO ต้องรู้!

รวม 78 SEO Statistics ที่น่าสนใจสำหรับปี 2023 ที่คนทำ SEO ต้องรู้!

สถิติที่น่าสนใจในการทำ SEO

พร้อมต้อนรับเข้าสู่ปี 2023 แล้วหรือยังครับ ?

ใครที่ยังไม่พร้อมไม่เป็นไร เรามาเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในด้าน SEO กันตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยบทความอัปเดต 78 สถิติ SEO ที่น่าสนใจสำหรับปี 2023 ที่เว็บไซต์ Ahrefs รวบรวมมาให้กันดีกว่าครับว่า มี SEO Statistics ในเรื่องไหนที่น่าสนใจบ้าง และจะมีสัญญาณอะไรที่ส่งผลกระทบต่อการทำ SEO ในปี 2023 นี้บ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ

สรุปสถิติเกี่ยวกับ SEO ที่น่าสนใจในปี 2023

ส่วนสรุปในหัวข้อนี้จะเป็น SEO Statistics ที่ทาง Ahrefs มองว่าสำคัญและเป็นสิ่งที่คนทำ SEO ควรจะรู้ โดยจะแบ่งเป็น 7 หัวข้อ ดังนี้

  1. 68% ของการเริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์ จะยังเริ่มต้นที่การใช้งานด้วย Search Engine (BrightEdge)
  2. ผู้ที่ทำการค้นหาผลลัพธ์บน Google จะทำการคลิกผลการค้นหาจากหน้าที่ 2 โดยคิดเป็น 0.63% ของการใช้งานบน Google (Backlinko)
  3. ผลลัพธ์ของการเข้าชมเว็บไซต์จาก Organic Search นั้นสูงถึง 53.3% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด (BrightEdge)
  4. 92.96% ของการเข้าใช้งาน Google จากทั่วโลก มีที่มาจาก Google Search, Google Image และ Google Maps (SparkToro)
  5. SEO สามารถสร้าง Traffic ให้มากกว่าฝั่ง Organic Traffic จาก Social Media ถึง 1,000%+ (BrightEdge)
  6. 60% ของนักการตลาดกล่าวว่า การทำ Inbound Marketing เช่น การทำ SEO, การทำเนื้อหาบล็อก ฯลฯ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายที่มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น (HubSpot)
  7. Leads ที่ได้มาจากการทำ SEO จะมีโอกาสที่ปิดการขายได้ 14.6% (HubSpot)

สถิติที่เกี่ยวกับ SEO Ranking สำหรับปี 2023

  1. 90.63% ของหน้าเว็บไซต์จะไม่ได้รับ Organic Search Traffic จาก Google (Ahrefs)
สถิติที่เกี่ยวกับ SEO Ranking สำหรับปี 2023

ที่มาภาพ: ahrefs

  1. หน้าเว็บไซต์ที่มีอันดับต้นๆ หรือเป็น Top Ranking จะได้ปริมาณ Search Traffic ในแต่ละครั้งไปประมาณ 49% เท่านั้น (Ahrefs
  2. มีหน้าเว็บไซต์เพียง 5.7% เท่านั้นที่จะติดอันดับผลการค้นหาใน 10 อันดับแรก โดยใช้เวลาภายในหนึ่งปีที่ทำการเผยแพร่หน้าเว็บไซต์นั้นๆ (Ahrefs)
  3. 7.4% ของเว็บไซต์ที่ติดอันดับ Top Ranking ไม่ได้ทำการใส่ Title tag (Ahrefs)
7.4% ของเว็บไซต์ที่ติดอันดับ Top Ranking ไม่ได้ทำการใส่ Title tag

ที่มาภาพ: ahrefs

  1. Google จะทำการเขียน Title Tags ให้กับเว็บไซต์ใหม่ (Rewrite) โดยคิดเป็น 33.4% ในแต่ละครั้ง (Ahrefs)
  2. Google มีแนวโน้มที่จะเขียน Title Tags ซ้ำกันมากขึ้นประมาณ 33% (Ahrefs)
  3. เมื่อ Google ทำการละเว้นหรือไม่เห็นว่ามีการใส่ Title Tags ก็จะดึง H1 tag มาแสดงแทนในแต่ละครั้งประมาณ 50.76% (Ahrefs)
  4. Google มีแนวโน้มที่จะเขียน Title Tags ให้ใหม่แบบที่มีความยาวเกินไปถึง 57% (Ahrefs)
  5. 25.02% ของหน้าเว็บไซต์ที่มีอันดับสูงสุดไม่ได้เขียน Meta Descriptions (Ahrefs)
  6. 40.61% ของหน้าเว็บไซต์ที่มี Meta Descriptions จะถูกตัดทอนให้ Meta Descriptions สั้นลง (Ahrefs)
  7. Google จะแสดง Meta descrtiption ที่เราเขียนเองบนผลการค้นหาในแต่ละครั้งเพียง 37.22% โดยจะแสดงเพิ่มขึ้นเป็น 40.35% หากคุณทำการค้นหาด้วย Keyword ที่เป็นคำสั้นๆ หรือ Fat Head Keyword  และจะลดลงเป็น 34.38% หากคุณทำการค้นหาด้วย Long-Tail keywords (Ahrefs)
Google จะแสดง Meta descrtiption

ที่มาภาพ: ahrefs

  1. หน้าเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 (Top Ranking) ในผลการค้นหาโดยเฉลี่ยแล้วจะติดอันดับ 1-10 แรกของคำ Keyword อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยอีกเกือบ 1,000 คำเลยทีเดียว (Ahrefs)
  2. โดยเฉลี่ยแล้วหน้าเว็บไซต์ที่อยู่ใน 10 อันดับแรกจะมีอายุ 2 ปีขึ้นไป (Ahrefs)
  3. 33% ของเว็บไซต์ผ่านเกณฑ์ Core Web Vitals (Ahrefs)

Google กล่าวว่า Backlink ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับสามอันดับแรก ดังนั้น เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีสถิติอะไรที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่สำคัญเรื่องนี้บ้าง  

  1. 66.31% ของเว็บเพจไม่มี Backlink (Ahrefs)
  2. เว็บไซต์ที่ติด Top-Ranking จะได้ Backlink ประเภท “followed” จากเว็บไซต์ใหม่ๆ ในอัตรา +5% – 14.5% ต่อเดือน (Ahrefs)
  3. ยิ่งเพจมี Backlink กลับมามากเท่าใด ก็จะได้ Organic Traffic จาก Google มากขึ้นเท่านั้น (Ahrefs)
  4. ต้นทุนเฉลี่ยในการซื้อ Backlink คือ 361.44 ดอลลาร์ (Ahrefs)
  5. ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเผยแพร่บทความในฐานะนักเขียนพิเศษ เพื่อทำการ Backlink กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ คือ 77.80 ดอลลาร์ (Ahrefs)
  6. 73.6% ของโดเมนมีการทำการแลกลิงก์ซึ่งกันและกันของเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า Reciprocal Links (Ahrefs)
  7. 43.7% ของหน้าที่ติดอันดับ Top-Ranking มีการทำ Reciprocal links ด้วย (Ahrefs)
  8. 66.5% ของ Backlink ที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมานั้นเป็นลิงก์ที่ใช้การไม่ได้แล้ว (Ahrefs)
  9. 10.6% ของ Backlink ทั้งหมดที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ 100K แรกจะเป็นลิงก์ประเภท nofollow (Ahrefs)
  10. 0.44% ของลิงก์จะใช้ “rel=ugc” และ 0.01% จะใช้ rel=“sponsored” (Ahrefs)

สถิติที่เกี่ยวกับ SEO Keywords สำหรับปี 2023

  1. 94.74% ของ Keyword ได้รับการค้นหาเพียง 10 ครั้งต่อเดือนหรือน้อยกว่า (Ahrefs)
  2. 0.0008% ของ Keyword ได้รับการค้นหามากกว่า 100,000 ครั้งต่อเดือน (Ahrefs)
สถิติที่เกี่ยวกับ SEO Keywords สำหรับปี 2023

ที่มาภาพ: ahrefs

  1. ประมาณ 8% จะใช้วลีที่เป็นคำถามในการค้นหา (Moz)
  2. 15% ของการค้นหาบน Google ทั้งหมด จะมีคำค้นหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อน (Google)
  3. 91.45% ของปริมาณการค้นหา (Search volumes)​ ใน Google Ads Keyword Planner จะเป็นตัวเลขที่ประเมินไว้สูงเกินไป (Ahrefs)
  4. Google Ads Keyword Planner จะประเมินปริมาณการค้นหา (Search volumes)​ ที่สูงเกินจริงไปประมาณ 54.28% และมีความแม่นยำประมาณ 45.22% (Ahrefs)
  5. 46.08% ของการคลิกใน Google Search Console ( GSC) จะคลิกที่คำที่เป็น hidden terms หรือหมายถึง การที่ผลการค้นหาไม่ปรากฏเป็นคำค้นหาที่ตรวจสอบได้บน GSC  (Ahrefs)
ผลการค้นหาไม่ปรากฏเป็นคำค้นหาที่ตรวจสอบได้บน GSC

ที่มาภาพ: ahrefs

สถิติที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการทำ SEO สำหรับปี 2023

  1. 74.71% ของผู้ให้บริการเกี่ยวกับการทำ SEO จะใช้วิธีการเก็บค่าบริการแบบรายเดือนกับลูกค้า (Ahrefs)
  2. โดยราคาที่นิยมในการเรียกเก็บค่าบริการคือ $501–$1,000 ต่อเดือน (Ahrefs)
  3. ส่วนการเรียกเก็บค่าบริการแบบรายชั่วโมง เรตราคาที่นิยมมากที่สุดเลยก็คือ $100–$150 ต่อชั่วโมง (Ahrefs)
  4. สำหรับเรตราคาที่คิดต่อโปรเจกต์จะนิยมคิดกันอยู่ที่ $501–$1,000 ต่อ 1 โปรเจกต์ (Ahrefs)
  5. 88.28% ของผู้ให้บริการเกี่ยวกับการทำ SEO จะคิดค่าบริการ $150 ต่อชั่วโมงหรือน้อยกว่า(Ahrefs)
  6. หากธุรกิจที่ดำเนินการมานานกว่าสองปีจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 39.4% ต่อชั่วโมง,  102.41% สำหรับผู้ติดตามรายเดือน และมากกว่า 275% สำหรับการจ้างทำ SEO แบบโปรเจกต์ (Ahrefs)
  7. บริษัทที่รับทำ Local SEO เฉพาะตลาดในประเทศของตัวเองจะคิดค่าใช้จ่ายน้อยกว่าบริษัทที่รับทำ SEO แบบ Global โดยบริษัทที่รับทำ  SEO แบบ Global จะคิดค่าบริการสูงกว่าถึง 130.74% (Ahrefs)
  8. เงินเดือนเฉลี่ยของคนทำ SEO แบบมืออาชีพในสหรัฐอเมริกา คือ 60,548 ดอลลาร์ต่อปี (Backlinko)

สถิติที่เกี่ยวกับ Search Engine สำหรับปี 2023

  1. 12.29% ของคำที่ใช้ค้นหา (Search Queries) จะมีการแสดงผลลัพธ์การค้นหาบน Featured snippets (Ahrefs)
  2. ผลการค้นหาในอันดับ 1 ในรูปแบบ Organic Search จะมี CTR เฉลี่ยอยู่ที่ 27.6% (Backlinko)
  3. ผลการค้นหา Google ที่ปรากฏในสามอันดับแรก จะได้รับยอดคลิกประมาณ 54.4% จากยอดคลิกทั้งหมด (Backlinko)
  4. ในแต่ละวันจะมีการค้นหาบน Google ประมาณ 3.5 พันล้านครั้ง (Internet Live Stats)
  5. 39% ของการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากการค้นหาที่เกี่ยวข้อง (Think With Google)
  6. การค้นหาบน Desktop 61.5% และการค้นหาบนมือถือ 34.4% ไม่ได้ทำการคลิกต่อ (SparkToro)
  7. ผู้คนใช้ Google ประมาณ 83% จากตลาดของ Search Engine ทั่วโลก (Statista)

สถิติที่เกี่ยวกับ Local SEO สำหรับปี 2023

  1. 30% ของการค้นหาบนมือถือจะเกี่ยวข้องกับสถานที่ (Think With Google)
  2. 76% ของคนที่ใช้มือถือในการเสิร์ชสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงจะเข้าไปยังสถานที่นั้นๆ ภายในหนึ่งวัน (Think With Google)
  3. 28% ของการค้นหาสถานที่ใกล้เคียงจะนำไปสู่การซื้อตามมา (Think With Google)
  4. Yelp หรือแพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารและร้านค้าของสหรัฐอเมริกาจะปรากฏขึ้นมาบนผลการค้นหา 5 อันดับแรกถึง 92% ซึ่งรวมถึงการค้นหาที่เกี่ยวกับเมืองและหมวดหมู่ธุรกิจด้วย (Fresh Chalk)
  5. สถิติของการค้นหาบนมือถือ 54% จะทำการค้นหาเวลาเปิด-ปิด และ 53% จะทำการค้นหาเส้นทางไปยังร้านค้าในพื้นที่นั้นๆ (Think With Google)
  6. ประมาณ 45% ของนักชอปทั่วโลกจะสั่งซื้อของแบบออนไลน์แล้วไปรับที่ร้าน (Think With Google)
  7. ในปี 2019 มีการค้นหาด้วยคำว่า “ซื้อได้ที่ไหน” + “ใกล้ฉัน” บนมือถือเพิ่มขึ้นว่า 200% เมื่อเทียบกับปี 2017 (Think With Google)
  8. ในปี 2019  มีการค้นหา “ร้านที่เปิดใกล้ฉัน” (เช่น “ร้านขายของชำที่เปิดใกล้ฉัน”) บนมือถือเพิ่มขึ้นกว่า 250% เมื่อเทียบกับปี 2017 (Think With Google)
  9. ในปี 2019  มีการค้นหา “ลดราคา” + “ใกล้ฉัน” (เช่น “ยางลดราคาใกล้ฉัน”) บนมือถือเพิ่มขึ้นกว่า 250%  เมื่อเทียบกับปี 2017 (Think With Google)

สถิติที่เกี่ยวกับ Video SEO สำหรับปี 2023

  1. จำนวนความคิดเห็น การดู การแชร์ และการไลก์ มีความสัมพันธ์กับอันดับ YouTube ที่สูงขึ้น (Backlinko)
  2. 68.2% ของผลลัพธ์ในหน้าแรกของ YouTube จะเป็นวิดีโอในรูปแบบ HD (Backlinko)
  3. ความยาวโดยเฉลี่ยของวิดีโอในหน้าแรกบน YouTube คือ 14 นาที 50 วินาที (Backlinko)
สถิติที่เกี่ยวกับ Video SEO สำหรับปี 2023

ที่มาภาพ: ahrefs

สถิติที่เกี่ยวกับ Mobile SEO สำหรับปี 2023

  1. 58.99% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลกจะเข้าชมผ่านโทรศัพท์มือถือ  (Statista)
  2. ภายในปี 2025 คนจะใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ตโฟนเพียงอย่างเดียวประมาณ 72.6% จากจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด (CNBC)
  3. มีการใช้งานการเสิร์ชบนมือถือมากกว่าบนเดสก์ท็อป (Think With Google)
  4. 51% ของคนใช้สมาร์ตโฟน จะค้นเจอบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผ่านการเสิร์ชบนสมาร์ตโฟน  (Think With Google)
  5. หากทำการค้นหาแบบ Local Search หรือการค้นหาร้าน สถานที่ ฯลฯ ในท้องที่นั้นๆ จะนำไปสู่การซื้อได้ประมาณ 18% แต่ถ้าค้นหาแบบ Non-local searches จะนำไปสู่การซื้อได้เพียง 7% (Think With Google)
  6. ผลการค้นหาที่อยู่ในอันดับ 1 จะได้รับยอดคลิกผ่านการค้นหาบนมือถือโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 6.74% ส่วนการค้นหาบน Deasktop จะได้ประมาณ 8.17% (SEOClarity)
  7. 56% ของนักชอปจะใช้สมาร์ตโฟนเพื่อเลือกซื้อหรือค้นหาสินค้าในขณะที่อยู่ในร้าน (Think With Google)

สถิติที่เกี่ยวกับ Voice Search สำหรับปี 2023

  1. 40% ของคำตอบที่ถูกค้นหาด้วย Voice Search จะมาจาก Featured Snippets (Backlinko)
  2. การค้นหาด้วย Voice Search โดยทั่วไปจะมีความยาวเพียง 29 คำ (Backlinko)
  3. 75% ของผลการค้นหาด้วยเสียงอยู่ใน 3 อันดับแรก สำหรับการใช้ถามคำถามเฉพาะบนการค้นหาเดสก์ท็อป (Backlinko)
  4. 58% ของผู้บริโภคใช้การค้นหาด้วยเสียง เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจในท้องถิ่นทางออนไลน์ (Search Engine Journal)
  5. โดเมนที่มีความแข็งแกร่ง (Domain Authority) จะมีโอกาสปรากฏเป็นผลลัพธ์จากการค้นหาด้วย Voice Search มากกว่าโดเมนที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ได้รับอนุญาต โดยคะแนนเฉลี่ยของโดเมนจาก Google Home (แอปพลิเคชันที่ทำงานด้วยคำสั่งเสียง) จะอยู่ที่ 76.8 (Backlinko)
  6. 48% ของผู้บริโภคใช้เสียงในการค้นหาเว็บไซต์ทั่วไป (Search Engine Land)

ทั้งหมดนี้คือ 78 สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับ SEO ที่เรานำมาฝากกันนะครับ จะเห็นว่าในแต่ละเรื่องมีนัยสำคัญที่สื่อถึงวิธีการทำ SEO ที่สามารถนำไปปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในปี 2023 นี้ด้วยเหมือนกัน ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนทำ SEO ไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความอัปเดตเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ SEO ในหัวข้อต่อๆ ไป ยังไงก็อย่าลืมติดตาม NerdOptimize ไว้นะครับ รับรองได้รับรู้ข่าวสารและเนื้อหาที่ช่วยให้ทำ SEO ได้อย่างเชี่ยวชาญมากขึ้นอย่างแน่นอน!

อ้างอิง

https://ahrefs.com/blog/seo-statistics/

ผู้เขียน

Picture of NerdOptimize Team
NerdOptimize Team
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

SEO Checker

Traffic คืออะไร มีผลต่อการทำ SEO และการตลาดออนไลน์อย่างไร?

Traffic คือ จำนวนผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ ยอด Traffic อาจนับจากการคลิกผ่าน Search Engine, Social Media หรือการยิงแอดจากช่องทางอื่น ๆ ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับ SEO

อ่านบทความ ➝
Black Hat SEO คืออะไร?

Black Hat SEO คืออะไร ? เผยเทคนิคการทำ Black Hat SEO รู้ไว้ก่อน ปลอดภัยกว่า

ปัจจุบันการทำ SEO เปรียบเสมือนการแข่งขันชิงอันดับบนเวทีออนไลน์ เว็บไซต์มากมายต่างมุ่งหวังที่จะขึ้นไปอยู่หน้าแรกของ Google ให้ได้ แต่ท่ามกลางกลยุทธ์มากมาย กลยุทธ์ “Black Hat SEO” หรือ SEO สายดำ ก็เป็นอีกด้านของการทำ

อ่านบทความ ➝
เช็คอันดับเว็บไซต์

เช็คอันดับเว็บไซต์ ทำอย่างไร? แนะนำเว็บและเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์ [อัปเดตล่าสุด]

เริ่มเช็คอันดับเว็บไซต์ เพื่อการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์คุณบน Google ด้วยเครื่องมือแบบฟรีและเสียเงิน

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top