Home - SEO - LSI Keywords คืออะไร ? พร้อมแนะนำ วิธีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ SEO

LSI Keywords คืออะไร ? พร้อมแนะนำ วิธีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ SEO

LSI Keywords คืออะไร

สำหรับคนที่ทำ SEO และตามเทรนด์ SEO หรืออัปเดตกฎของ Google อยู่บ่อยๆ คงจะเคยได้ยินประเภทของคำ Keyword หนึ่งอย่าง LSI Keywords มาไม่มากก็น้อยใช่ไหมครับ? โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีนี้การทำ LSI Keywords กลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากเลยทีเดียว ว่าแต่ LSI Keywords คืออะไร ช่วยทำให้ SEO ติดบน Google ได้จริงหรือไม่ รวมถึงจะใช้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากใครที่ต้องการปรับปรุงเนื้อหาเว็บไซต์ การเขียนบทความ SEO โดยใช้ LSI Keywords จะช่วยทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจและมีโอกาสดันอันดับได้ดียิ่งขึ้นครับ

วันนี้ NerdOptimize แกะสูตรการใช้ LSI Keywords มาฝากกันแล้วครับ จะมีอะไรที่ต้องรู้บ้างไปดูพร้อมๆ กันได้เลยครับ

LSI Keywords คืออะไร

LSI Keywords คืออะไร

ที่มาภาพ: seobuddy.com

LSI ย่อมาจาก Latent Semantic Indexing คือ คำที่เกี่ยวข้องกับ Keyword หลัก ไม่ใช่คำพ้องความหมาย (คำต่างๆ ที่มีความหมายเหมือนกัน เช่น โคกับวัว ควายกับกระบือ เป็นต้น) แต่เป็นคำที่จะนำมาใช้ในการอธิบายบริบทและสิ่งที่คอนเทนต์บนหน้าเพจนั้นๆ ต้องการสื่อสารจริงๆ เพื่อให้ Bot ของ Google หรือคนอ่านเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น เช่น หากคำ Keyword หลักของหน้าเว็บไซต์ คือคำว่า “บัตรเครดิต” LSI Keyword ของคำนี้จะเป็น เงิน, คะแนนเครดิต, วงเงินเครดิต, อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น นอกจากนี้ การเขียน Meta Description คือ อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยให้ LSI Keywords ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะช่วยสรุปเนื้อหาและดึงดูดผู้อ่านจากหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้ดีขึ้นครับ

Latent Semantic Indexing Keyword

ที่มาภาพ: https://backlinko.com

หรือจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่า Keyword หลักคือคำว่า Cold Brew Coffee ซึ่งเป็นกาแฟประเภทหนึ่ง LSI Keywords จึงเป็นคำแวดล้อมที่อธิบายว่า หน้าเว็บไซต์นี้จะหมายถึง Cold Brew Coffee เช่น Ice, Glass, Beans, Water เป็นต้น

Related Terms

โดย Google จะทำการสแกนหา LSI Keywords เหล่านี้บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ Google มั่นใจได้ว่า หน้านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Cold Brew Coffee ที่หมายถึง กาแฟจริงๆ

ความสำคัญของ LSI Keywords

ความสำคัญของ LSI Keywords คือ การช่วยให้ Google เข้าใจบริบทในเว็บไซต์มากขึ้น เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า LSI Keywords คือ คำแวดล้อมคำ Keyword หลักที่ช่วยให้ Google เข้าใจบริบทที่พูดถึงในเว็บไซต์แต่ละหน้าได้มากขึ้น ทำให้ลดปัญหาของผลการค้นหาที่ไม่ตรงกับ Search Intent ของคนใช้งานจากความกำกวมของเนื้อหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น การตั้ง Title tag คือ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรใส่ LSI Keywords เข้าไปอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องและทำให้ Google จัดอันดับได้ดีขึ้นครับ

ความสำคัญของ LSI Keyword

ที่มาภาพ: biq.cloud

Google จะรู้ได้อย่างไรว่า Apple ที่คนค้นหานั้นจะเป็น Apple ที่หมายถึงผลไม้ หรือ Apple ที่หมายถึง บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิต iPhone, iPad, Mac ที่เรารู้จักกันดี?

แน่นอนว่า LSI Keywords เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้ Google เห็นว่าเนื้อหาในเว็บไซต์หน้านั้นๆ เขียนอธิบายเกี่ยวกับคำค้นหา “Apple” ว่าอย่างไร เช่น ถ้าผู้คนค้นหาเกี่ยวกับ Apple ที่เป็นผลไม้ Google ก็จะทำความเข้าใจเนื้อหาจากคำที่เกี่ยวข้อง เช่น Fruit, Sweet, Healthy เป็นต้น แต่ถ้าคนต้องการหา Apple ที่หมายถึงแบรนด์  ก็จะทำความเข้าใจเนื้อหาจากคำ LSI Keywords ที่เกี่ยวข้อง เช่น iPhone, Mac, Airpods เป็นต้น

ทำไม LSI Keywords จึงสำคัญกับ SEO 

  • ช่วยในการจัดอันดับ SEO 

เนื่องจาก LSI Keywords เป็นคีย์เวิร์ดที่ช่วยทำให้ Google Algorithm เข้าใจเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น หลังจากนั้น Google ก็จะนำผลลัพธ์ที่ได้ไปแสดงผลให้ตรงกับ Search Intent ของคนที่สนใจในสิ่งที่เว็บไซต์ของคุณนำเสนอ หากคุณทำเนื้อหาที่มีคุณภาพมากพอโดยไม่ใช่วิธีการทำ SEO สายดำ แต่เน้นวิธีการทำ SEO สายขาว ก็จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นด้วย อีกทั้ง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Long tail keyword คือ คีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยครับ

  • ลดการสแปม Keyword หลัก

เวลาเขียน SEO หลายคนจะติดกับวิธีการใส่คีย์เวิร์ดลงไปเยอะๆ แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้ Google มองว่า เป็นการสแปมคีย์เวิร์ดหลักมากเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อการโดนลงโทษได้ ซึ่งการใช้ LSI Keywords เสริมในบทความ ก็จะช่วยลดจำนวนของคีย์เวิร์ดหลักลงให้อยู่ในเกณฑ์ของ Keyword Density หรือความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมได้มากขึ้น 

  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคีย์เวิร์ดอื่นๆ ในบทความ

ปกติแล้วเราจะใช้คำคีย์เวิร์ดอยู่ทั้งหมด 3 ประเภท คือ  Mass keyword, Niche keyword และ Long-tail keyword ซึ่งเป็นคำคีย์เวิร์ดที่ใช้เพื่อเรียก Traffic ให้กับเว็บไซต์ แต่นอกเหนือจากการใช้คีย์เวิร์ดทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถใช้ LSI Keywords ในการเพิ่มพลังให้กับคีย์เวิร์ดที่เป็น Niche keyword และ Long-tail keyword ได้มากขึ้นด้วย แน่นอนว่า ส่งผลทำให้คำเหล่านี้ทำอันดับบน Search Engine ได้ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

  • ช่วยให้หน้าเว็บไซต์ปรากฏขึ้นบน PAA ได้
PAA Feature Snippets

PAA หรือ People Also Ask เป็น Featured Snippets ของ Google โดยขึ้นมาเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องซึ่ง Google พิจารณาว่าเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ Keywords และถ้าเว็บไซต์ของคุณสามารถให้คำตอบที่ตรงกับสิ่งที่ Google มองหาด้วยคำคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องรวมถึงใช้ LSI Keywords อย่างถูกต้อง ก็จะมีโอกาสขึ้นอันดับด้วยฟีเจอร์นี้ได้ด้วย

LSI Keywords ช่วยปรับปรุงการจัดอันดับบน SERP ได้อย่างไร 

นอกจากในเรื่องของการเป็นคำคีย์เวิร์ดที่ช่วยทำให้ Google เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรมากขึ้น อย่างที่บอกไปในหัวข้อความสำคัญของ LSI Keywords แล้ว คำคีย์เวิร์ดแอลเอสไอ ยังมีส่วนช่วยในปรับปรุงการจัดอันดับบน SERP ในอีก 2 ด้านด้วยกันคือ

  • ช่วยทำให้เข้าใจ Search Intent ของผู้ใช้งานได้มากขึ้น 

LSI Keywords ช่วยในการนำเสนอผลการค้นหาให้ตรงกับ Search Intent ของคนมากขึ้น จากการรับรู้ถึงบริบทและเจตนาในการค้นหาคำคีย์เวิร์ดของผู้ใช้งาน

SERP และ LSI Keywords

ยกตัวอย่างเช่น คุณค้นหาคำว่า ส้ม จะเห็นว่า สิ่งที่ Google มองว่าน่าจะเป็นผลลัพธ์ที่คุณต้องการนั้นมีขึ้นมาหลากหลายแบบ ทั้งส้มที่หมายถึงชื่อคน ส้มที่หมายถึงผลไม้ ซึ่งเมื่อคุณคลิกไปยังคำค้นหาในแต่ละแบบก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันด้วย นั่นแสดงว่า Google รู้ว่า คีย์เวิร์ดไหนหมายถึงอะไร และ LSI Keywords ที่ระบุว่า เว็บไซต์หน้านี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีคำค้นหาที่ใกล้เคียงกันก็ตาม

  • ช่วยในการทำอันดับบน Related Keywords ได้
Related Keywords

Related Keywords เป็นกลุ่มคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก ซึ่งจะปรากฏอยู่ด้านล่างของหน้าที่ทำการค้นหา ดังนั้น การใช้ LSI Keywords ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword หลัก นั่นหมายถึง คุณมีโอกาสทำให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับใน Related Keywords เหล่านี้ได้มากขึ้นด้วย

วิธีค้นหา LSI Keywords

เข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของ LSI Keywords แล้ว มาดูวิธีการค้นหา LSI Keywords ทำได้ด้วยวิธีการอะไรบ้าง ดังนี้

ใช้ Google Autocomplete

วิธีค้นหา LSI Keywords

Google Autocomplete เป็นการเติมข้อความอัตโนมัติสำหรับผู้ที่ใช้ Google ซึ่งคำที่แนะนำขึ้นมาจะเป็นคำที่เป็น LSI ที่สามารถเลือกมาใช้งานได้ อย่างเช่น เราค้นหาคำว่า Google ด้านหลังก็จะมีการแนะนำคำที่เกี่ยวข้องกับคำว่า Google ขึ้นมา เช่น Google Autocomplete, Google Translate, Google Map เป็นต้น

ใช้ Google Related Searches

ใช้ Google Related Searches

Google Related Searches จะเป็นวิธีการค้นหา LSI Keywords ที่คล้ายกับการค้นหาแบบ Google Autocomplete โดยจะแสดงผลของคำค้นหาแนะนำไว้ด้านล่างของหน้าค้นหาจาก Google

ใช้ Google Snippet Descriptions

Google Snippet Descriptions

ที่มาภาพ: backlinko.com

เป็นอีกวิธีหนึ่งในการค้นหาคำและวลีที่เกี่ยวข้องโดยตรงจาก Google อาจสังเกตเห็นว่า Google จะมีการใช้ตัวหนาในส่วนของ Descriptions ในแต่ละเว็บไซต์ เช่น คุณค้นหาคำว่า PC Repair จะเห็นว่ามีตัวหนาที่เป็น LSI Keyword ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword ที่คุณค้นหาด้วยเช่น Computer Repair ขึ้นมาด้วย แสดงว่า หากเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับคำว่า PC Repair ก็ควรที่จะใส่คำว่า Computer Repair ลงไปด้วย

ใช้ Google Image Tags

Google Image Tags

หากทำการค้นหารูปภาพจาก Google จะเห็นว่า มีการแนะนำคำค้นหาเอาไว้ด้านบนเหนือบริเวณรูปภาพ นั่นคือ LSI Keywords ที่สามารถนำมาทำเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักในหน้าเว็บไซต์ได้

วิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกับการทำ On-Page SEO การใช้ LSI Keywords ก็มีหลักการทำที่ช่วยทำให้ติดอันดับ และดูเป็นธรรมชาติอยู่เช่นเดียวกัน โดยตำแหน่งที่ควรวาง LSI Keywords จะมีดังต่อไปนี้

  • Page Title (หัวเรื่อง)
Title Tag

ที่มาภาพ : scaledon.com

ใช้ LSI Keywords ร่วมกับ Keyword หลัก โดยแนะนำให้เขียน Keyword หลัก ไว้คำแรกๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่โดนตัดออกเวลาแสดงผล แต่ทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะเขียนให้มีความยาวที่พอดี โดยควรจะอยู่ที่ประมาณ 50-60 ตัวอักษร

  • Meta Description (คำอธิบาย)
Search Result

ที่มาภาพ: sitechecker.pro

การใช้ LSI Keywords ใน Meta Description จะช่วยทำให้ Google รู้ว่าเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์นั้นเกี่ยวกับอะไร โดยเขียนอธิบายให้กระชับ สั้น และเข้าใจง่าย โดยกระจายคำ Keyword อย่างเหมาะสม ไม่สแปมจนเหมือนยัดเยียดคีย์เวิร์ดมากจนเกินไป

  • Headings (หัวข้อย่อย)
SEO Content Structure

ที่มาภาพ: fivebestmarketing

สำหรับการใช้ LSI Keywords ในหัวข้อ (Heading) สามารถใช้ในการทำหัวข้อย่อยของเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ได้ และควรที่จะเรียงหัวข้อตามลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย ยกตัวอย่างเช่น คำคีย์เวิร์ดหลักคือ จากัวร์ แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงพันธุ์ของเสือ แต่หมายถึงยี่ห้อรถยนต์ ก็อาจจะต้องใส่ LSI Keyword ในหัวข้อเข้าไปด้วย เช่น 

  1. เครื่องยนต์ของรถจากัวร์เป็นอย่างไร
  2. ทำความรู้จักกับ รถยนต์ จากัวร์ คืออะไร
  3. จากัวร์มือสอง ราคาเท่าไหร่
  • Content (เนื้อหา)
LSI Keywords Content

ที่มาภาพ: seopressor.com

นอกจากจะมีประโยชน์ในด้านการทำ SEO แล้ว LSI Keywords ยังมีประโยชน์ในด้านการทำให้เนื้อหาดูสมบูรณ์มากขึ้นสำหรับคนอ่านหรือคนที่กำลังค้นหาข้อมูล อีกทั้งยังช่วยลดการเขียนคำคีย์เวิร์ดหลักแบบซ้ำๆ ซึ่งทำให้หน้าเว็บไซต์นั้นดูน่าเบื่อ ดูไม่น่าเชื่อถือ และอ่านไม่รู้เรื่องสำหรับผู้ใช้งาน รวมถึงช่วยทำให้ลดการสแปมคีย์เวิร์ดหลักได้มากขึ้นด้วย

  • Alt Text (ข้อความอธิบายภาพ)
ALT Text lsi keywords

หากคุณทำการเขียน Alt Text หรือ Alternative Text ของรูปภาพที่ใช้ในเว็บไซต์ด้วย Keyword หลักซ้ำๆ อาจถูกมองว่าเป็นสแปมได้ ดังนั้น การใช้ LSI Keywords จะช่วยทำให้ลดอัตราการใช้คำเดิมๆ ซ้ำๆ ลง แถมยังมีโอกาสช่วยทำให้รูปภาพติดคำ Keyword อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แน่นอนว่า ส่งผลต่อ Traffic ของเว็บไซต์ได้ด้วย

  • Anchor text (ลิงก์ตัวอักษร)
Anchor text

ตัวอย่างการทำ Anchor text

Anchor text เป็นการทำลิงก์ตัวอักษรที่สามารถกดคลิกเพื่อไปหน้าถัดไปหรือหน้าที่ต้องการได้ ซึ่งถ้าคุณมีบทความที่เกี่ยวข้องกันก็สามารถทำ Anchor text ด้วยคำ LSI Keywords ลงไป เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาบนเว็บไซต์เข้าหากันก็ได้

  • ปรับปรุงบทความเก่าๆ 

นอกจากการเขียนบทความใหม่แล้ว ยังสามารถปรับปรุงบทความเก่าๆ ด้วยการเพิ่ม LSI Keywords ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักเดิมลงไปได้ เพราะคำ LSI Keywords ที่เคยใส่ไว้อาจจะเป็นคำที่ใช้กันตามกระแส ซึ่งมีคนใช้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่พอเวลาผ่านไปอาจไม่มีคนใช้คำนั้นแล้ว เช่น คุณเขียนบทความเกี่ยวกับ ศัพท์วัยรุ่น คำที่เป็น LSI Keywords ก็ต้องเป็นคำฮิตในช่วงนั้นๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณก็ต้องเข้าไปอัปเดตคำเหล่านั้นให้เป็นคำในปัจจุบัน หรืออาจจะเพิ่มปี เช่น ปี 2022 เพื่อระบุว่า เป็นศัพท์วัยรุ่นในช่วงใดเพิ่มเติม

ควรใช้กี่คำ 

สำหรับในเรื่องของจำนวนในการใช้ LSI Keywords นั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับเรื่องของคุณภาพในการนำมาใช้ เนื่องจาก LSI Keywords ไม่ใช่คำ Keyword ที่ใช้แทนที่ตำแหน่ง Keyword หลักที่คุณใช้ แต่ทำหน้าที่แค่เสริมบริบทให้กับคำ Keyword หลัก ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นั้นๆ ดีขึ้น ดังนั้น จึงควรเน้นการใช้ LSI Keywords ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียด และต้องเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับ Keyword หลักเท่านั้น 
ซึ่ง LSIGraph ได้แนะนำวิธีการใช้ LSI Keywords ที่พบว่า ให้รักษาอัตราส่วน 2 ต่อ 1 สำหรับ Keyword หลัก และวางเอาไว้ในย่อหน้าเดียวกันกับ Keyword หลัก เพื่อช่วยสนับสนุนและสร้างบริบทที่ทำให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้น

เครื่องมือสำหรับวิจัยคีย์เวิร์ด

นอกจากการค้นหาด้วยฟีเจอร์จาก Google ในหัวข้อก่อนหน้านี้ ยังสามารถใช้เครื่องมือสำหรับวิจัยคีย์เวิร์ดเพื่อค้นหา LSI Keywords ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะขอแนะนำ Tools ที่นิยมใช้กันอยู่แล้ว เผื่อใครอยากจะทดลองเข้าไปใช้หาคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมดูนะครับ

Google Keyword Planner

Google Keyword Planner for LSI Keywords

Google Keyword Planner คือ เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดที่ใช้สำหรับการทำโฆษณาบน Google Ads แต่ก็สามารถเข้าไปใช้งานเพื่อนำมาวางแผนการทำ Keyword Research ได้ด้วยเช่นกัน (ส่วนวิธีการใช้งานแบบละเอียด ผมเคยเขียนรีวิวเอาไว้แล้ว สามารถเข้าไปอ่านและลองทำตามได้เลยครับที่ สอนใช้ Google keyword planner เครื่องมือหา Keyword ฟรี ใช้ง่าย)

LSIGraph

LSI Graph

ที่มาภาพ: lsigraph.com

LSIGraph คือเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหา LSI Keyword โดยแบบฟรีจะใช้ได้วันละ 8 ครั้ง โดยจะมีเมตริกต่างๆ ที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์และเลือกคำคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมที่สุดให้ดูด้วย เช่น Volume, Trend เป็นต้น

สรุป

LSI Keywords คือ ประเภทของคีย์เวิร์ดที่มีบทบาทสำคัญสำหรับการทำ SEO เพราะเป็นคำที่ช่วยทำให้ทั้งคนอ่านและ Bot ของ Search Engine เข้าใจบริบทของสิ่งที่เว็บไซต์นำเสนอมากขึ้น และช่วยในการจัดอันดับอีกด้วย 

ดังนั้น นอกจากจะทำ Keyword Research ที่เป็น Mass keyword, Niche keyword หรือ Long-tail keyword แล้ว SEO คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์การค้นหา LSI Keywords ก็เป็นคีย์เวิร์ดอีกประเภทที่ไม่ควรลืมใส่ลงไปบนหน้าเว็บไซต์ ยังไงก็ลองหยิบเอาความรู้และวิธีการทำ LSI Keywords ที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับธุรกิจของคุณไปใช้ดูนะครับ รับรองว่า ช่วยดันอันดับให้กับการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณอย่างแน่นอน ทางเรารับทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสามารถใส่ LSI Keywords ลงในเนื้อหาได้อย่างเหมาะสม และดันอันดับเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้นครับ

อ้างอิง

https://backlinko.com/hub/seo/lsi

https://www.similarweb.com/corp/blog/marketing/seo/lsi-keywords/

https://ahrefs.com/blog/lsi-keywords

https://www.semrush.com/blog/lsi-keywords/

https://wedevs.com/blog/420674/semantic-seo-best-practices/

ผู้เขียน

Picture of tan
tan
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

SEO Specialist

รู้จักสายงาน SEO Specialist คืออะไร อาชีพนี้ทำอะไรบ้าง?

SEO Specialist คือ SEO Expert หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถติดอันดับการค้นหาได้อย่างง่ายดาย

อ่านบทความ ➝
Content Pillar

Content Pillar กลยุทธ์สร้างคอนเทนต์ นำเสนอเนื้อหาถูกใจทั้ง User และ Algorithm

Content Pillar คือ หัวข้อหรือประเด็นหลักที่แบรนด์ต้องการเสนอให้กับเป้าหมาย เพื่อความเข้าใจง่าย และสามารถรับข้อมูลที่ตรงต่อความต้องการได้สะดวก

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top