Keyword density คืออะไร
Keyword density คือ เป็นศัพท์ทางเทคนิค ที่ถูกนักทำ SEO ตั้งขึ้นมาครับ ซึ่งความหมายของมัน ก็คือ การกระจายตัวของ Keyword บนหน้าเว็บไซต์ นั่นเองครับ การวางแผนการกระจายตัวของ Keyword อย่างเหมาะสมเริ่มต้นจากกระบวนการ Keyword research คือ การค้นหาและวิเคราะห์คำที่ผู้ใช้งานค้นหาเพื่อใช้ในการปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายครับ
Keyword density มีผลต่อ SEO อย่างไร
ปัจจุบันนี้ กระบวนการทำงานของ Google จะแบ่งเป็นแบบนี้ครับ
- Code Html
- User Signals
Code Html
Google จะมองภาพรวมผ่าน Tags Code ของเราครับ ว่าโครงสร้างของเนื้อหานั้น ๆ เกี่ยวข้องกับอะไร โดยผมจะยกตัวอย่างโครงสร้างให้ดูดังนี้ครับ เช่น Title tag คือ ส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่สำคัญใน Code Html ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจได้ว่า หน้าเว็บของเรามีหัวข้อหรือเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอะไร การใช้ title tag ให้เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการจัดอันดับบน Search Engine ได้ครับ
การปรับ Keyword density ให้เหมาะสมใน บทความ SEO จะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับการใช้ long tail keyword คือเทคนิคที่เพิ่มโอกาสการเข้าถึงผู้ค้นหาที่ใช้คำเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
เพราะว่าถ้าใส่เยอะเกินไป Google ก็จะมองว่าเนื้อหาเป็นสแปม แต่ถ้าใส่น้อยเกินไป ก็จะทำให้ น้ำหนักใน Keyword นั้นไม่พอ นั่นเองครับ
ดังนั้น การใส่ Keyword density แบบมาตรฐาน ควรใส่ประมาณ 1-2 % ของเนื้อหาโดยรวมทั้งหมดครับ
หรือ ใส่กระจาย ให้อ่านได้แบบธรรมชาติมากที่สุด
ส่วนโปรแกรมที่เอาไว้ใช้สำหรับนับค่า Keyword Density จะมีชื่อว่า SEO Quake ซึ่งเป็น addon extension บนเว็บเบราเซอร์ หรือหากใครต้องการติดตั้งสามารถกดคลิ๊กได้จากตรงนี้ครับ SEO Quake
หลังจากนั้น หลังจากที่ Google ทราบโครงสร้างโดยรวมแล้ว ซึ่งรู้แล้วแน่ ๆ ว่า บทความนี้เกี่ยวกับอะไร แต่ ก็ยังมีอีกส่วนนึง ที่ Google อยากรู้ว่า บทความนี้มีประโยชน์กับผู้ใช้งานหรือไม่ นั่นก็คือ การนำบทความไปให้ User ทดสอบนั่นเองครับ จะเป็น ฝั่งของ User Signals นั่นเอง
User Signals
หลังจากที่ Google รู้โครงสร้างบทความแล้ว ก็จะ เอามาให้ User มาตัดสินใจครับ โดยจะวัดจากค่าดังนี้
- Ctr : หัวข้อบทความน่าสนใจ น่าดึงดูดหรือไม่
- Time on Page: จำนวน คนอยู่ในหน้าเว็บ นานหรือไม่ ยิ่งอยู่นาน ก็แสดงว่า เนื้อหามีประโยชน์ ใช้งานได้จริง แต่ถ้าเข้าแล้วออกเลย แสดงว่า เนื้อหาเขียนไม่ดี หรือ ไม่มีประโยชน์เลย
อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับ CTR เพิ่มเติมได้ที่นี่ : CTR คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และจะเพิ่ม CTR ได้อย่างไร
ซึ่งถ้าเราทำให้ Google เข้าใจว่า เนื้อหาเราเกี่ยวข้องกับอะไร และทำให้ User ได้ประโยชน์สูงสุด เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณติดอันดับสูง ๆ บน Search Engine ได้แล้วล่ะครับ
ในกรณีไหนที่ทำแล้วไม่ขึ้น หรือ เจอ Keyword ที่มีการแข่งขันสูง ก็อาจจะต้องใช้ เทคนิคทางด้าน Backlink หรือการทำ PBN เข้ามาช่วย หากใครสงสัย หรือหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ คลิ๊กลิ้งก์ข้างล่างได้เลยครับ
- เรียนรู้วิธีการสร้าง Backlink ที่นักทำ SEO นิยมทำกันมากที่สุด
- PBN คืออะไร ทำอย่างไร มีข้อดี ข้อควรระวังอะไรบ้าง แนะนำให้อ่านบทความนี้
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Keyword density และการทำ SEO หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจว่า SEO คืออะไร และสำคัญต่อการสร้างอันดับใน Search Engine อย่างไร การใช้แนวคิด lsi ซึ่ง lsi คือ เทคนิคที่ช่วยขยายคำความหมายใกล้เคียงของ Keyword ในบทความ ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเพิ่มความเกี่ยวข้องและช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้นด้วยครับ ก็หวังว่าบทความนี้คงจะทำให้ใครหลายคนหายสงสัยได้นะครับ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนครับ ไว้พบกันบทความหน้าครับ
สำหรับท่านไหนที่สนใจปรึกษาบริการ รับทำ SEO สามารถปรึกษาได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับใครที่สนใจเรียน SEO ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคการทำ และคุมงาน SEO ด้วยตัวเองได้ คลิกดูรายละเอียดคอร์สได้เลยนะครับ.