Home - SEO - SEO สายเทา (Grey Hat SEO) คืออะไร ต่างจากสายขาว สายดำยังไง เสี่ยงจริงไหมต้องรู้!

SEO สายเทา (Grey Hat SEO) คืออะไร ต่างจากสายขาว สายดำยังไง เสี่ยงจริงไหมต้องรู้!

SEO สายเทา

SEO สายเทา เทคนิคการทำ SEO หรือกลโกงเพื่อให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งคำถามยอดฮิตที่คาใจใครหลายคนมานาน ถึงความแตกต่างของการทำ SEO สายเทา สายขาว และสายดำต่างกันยังไง และเลือกทำ SEO แบบไหนให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

SEO สายเทา คืออะไร ? 

SEO สายเทา คือ วิธีการทำ SEO ด้วยการใช้ประโยชน์จากกฎที่ไม่ชัดเจนอันเป็นช่องโหว่ของ Search Engine หรือ Google Algorithm เพื่อช่วยให้การดันอันดับเว็บไซต์ทำได้เร็วมากยิ่งขึ้น โดยจะต่างกับการทำ SEO สายขาวที่ใช้ SEO Tools อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเน้นพัฒนา Content ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ 

อย่างไรก็ตาม การทำ SEO สายเทา ยังไม่เข้าข่ายว่าเป็นการโกงอย่างชัดเจนเหมือน SEO สายดำ เพราะ SEO สายดำจะพยายามใช้วิธีการที่ละเมิดเงื่อนไขการจัดอันดับของ Search Engine ผ่านการฝังลิงก์ หรือกลวิธีอะไรก็ตามที่เสี่ยงต่อการถูก Google แบนถาวรนั่นเอง

SEO สายเทา VS SEO สายขาว VS SEO สายดำ ทั้ง 3 อย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร ? 

SEO สายเทา : กลยุทธ์การทำ SEO ที่เล่นกับช่องโหว่จากกฎที่ Search Engine ตั้งขึ้น โดยวิธีการทำ SEO สายเทานั้นอาจมีการลักไก่แหกกฎที่ไม่ร้ายแรงของ Search Engine อยู่บ้าง เพื่อทำให้อันดับการค้นหาหรือ Website Traffic โตขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การใช้ PBN เพื่อสแปม Backlink ที่ไม่มีคุณภาพ หรือการสร้าง Duplicated Content ที่เสี่ยงต่อการโดนลงโทษหากถูกจับได้

SEO สายขาว : กลยุทธ์การทำ SEO ตามแนวทางที่ถูกต้อง และให้ผลลัพธ์ที่มั่นคง ยั่งยืน มีประสิทธิภาพมากที่สุด เน้นการพัฒนาโครงสร้าง Site Structure ให้ตอบโจทย์ User และ Web Crawler ไปพร้อม ๆ กับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพถูกต้องตามหลัก E-E-A-T Factor แม้จะมีโอกาสติดอันดับสูง และสามารถครองอันดับบนหน้า SERP ได้นาน แต่ก็เป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้เวลาในการทำอันดับ

SEO สายดำ : กลยุทธ์การทำ SEO ที่แหกทุกกฎของ Search Engine เน้นทำอันดับให้ขึ้นไวโดยไม่สนใจ User Experience เห็นได้บ่อยกับเว็บไซต์ผิดกฎหมาย เป็นวิธีที่ไม่ยั่งยืน เห็นผลเร็วแต่ผลลัพธ์จะอยู่แค่ชั่วคราว เสี่ยงที่เว็บไซต์จะโดนแบนได้ง่าย 

ปัจจุบันการทำ SEO สายขาวยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นการพัฒนาเว็บไซต์ตามแนวทางของ Search Engine ด้วยการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ การวิเคราะห์กลุ่มคีย์เวิร์ดให้ตรงกับ Search Intent รวมไปถึงการทำ On-Page SEO และ Off-Page SEO ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องรอนานสักหน่อย แต่ความคุ้มค่าที่ได้มาจะช่วยให้เว็บไซต์ครองอันดับได้นาน และอันดับไม่ตกลงมาง่าย ๆ อย่างแน่นอน

สนใจเรื่อง Search Intent อยากรู้วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้ตรงใจ User  อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Search Intent คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO [บทความนี้มีคำตอบ]

SEO สายเทา ทำอะไรบ้าง ?

SEO สายเทาทำอะไรบ้าง เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพมากยิ่งขึ้น เรามาดู 5 ตัวอย่างการทำ SEO สายเทา ที่ไม่ได้แนะนำเพื่อให้หยิบไปทำตาม แต่แชร์ต่อเป็นความรู้สำหรับคนที่อยากรู้เรื่อง SEO ให้ลึกยิ่งขึ้น

การซื้อ Backlink จากโดเมนที่มีความน่าเชื่อถือสูง

พูดไปหลาย ๆ คนอาจจะตกใจ ว่าการซื้อ Backlink จากโดเมนที่มีความน่าเชื่อถือสูงก็เป็นกลยุทธ์ของการทำ SEO สายเทาด้วยเช่นกัน เพราะวิธีการนี้ยังคงเป็นเทคนิคที่ยังถูกใช้งานอยู่ หรือมีมาเห็นเรื่อย ๆ แม้จะดูไม่ได้ผิดอะไร แต่ต้องแจ้งให้ทราบว่า Google ไม่แนะนำให้ทำการซื้อขายลิงก์ เพราะ Google เชื่อว่าเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ จะได้รับ Backlink โดยธรรมชาติจากการแชร์เนื้อหาที่มีประโยชน์นั่นเอง เพราะฉะนั้นการซื้อขายลิงก์ก็นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ลักไก่ ที่ Google ไม่แนะนำให้ทำ

การทำ Keyword Stuffing

Keyword Stuffing คือกลยุทธ์การยัด Keyword แบบคลาสสิก โดยความหมายของการทำ Keyword Stuffing ก็ตรงตามชื่อเลยคือการพยายามยัดคีย์เวิร์ดเข้าไปในบทความจำนวนมาก ๆ ทำให้บทความเสียความเป็นธรรมชาติไป แต่แลกมากับจำนวน Keyword Density ที่เพิ่มมากขึ้น และทำให้โอกาสที่ Web Crawler จะเจอคีย์เวิร์ดทำได้ง่ายขึ้น 

ปัจจุบัน วิธีการนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว เพราะเสี่ยงต่อการติด Spam Keyword แต่ก็ใช่ว่าจะหายไปเสียทีเดียว เพราะในบางครั้งก็ยังมีคนทำเพื่อดันอันดับ เมื่ออันดับเริ่มขึ้นแล้วค่อยไปเอาคีย์เวิร์ดออก ก็เป็นกลยุทธ์ที่ยังพบเจออยู่บ้างเช่นกัน

การใช้โดเมนที่หมดอายุหรือโดเมนประมูล

การใช้โดเมนที่หมดอายุ หรือการประมูลโดเมนคุณภาพสูงเก่า ๆ มาใช้เพื่อแทรกแซงการจัดอันดับ Google ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันทั้งใน SEO สายเทาและสายดำ กล่าวคือคนทำ SEO จะส่ง IP ของโดเมนที่ประมูลมาไปซ้อนกับ IP ที่หน้าเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ไม่คุณภาพหรือค่า DR ต่ำ ทำให้ Web Crawler เข้าใจผิดคิดว่า IP ที่จับได้เป็นของเว็บไซต์นั้น ๆ ส่งผลให้ทำอันดับได้ดีขึ้นนั่นเอง

Hack เว็บไซต์อื่น

มาถึงกลยุทธ์ที่แหกกฎร้ายแรงของ Google และยังผิดกฎหมายอีกด้วยอย่างการแฮ็กเว็บไซต์ วิธีนี้พบได้บ่อยมากในกลุ่ม SEO สายดำ แต่ก็มีสายเทาบางรายที่แอบเอาไปใช้ด้วยเช่นกัน โดยวิธีคือการนำชุดโค้ดที่เขียนขึ้นไปแทรกไว้ในเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ จากนั้นเมื่อมี User คลิกเข้ามาก็จะทำการ Redirect กลับไปที่หน้าเว็บไซต์ของตัวเอง ในที่นี้อาจเป็นเว็บพนัน หรือเว็บที่ผิดกฎหมายนั่นเอง

การใช้ PBN (Private Blog Network)

การใช้ PBN จะคล้ายกับการซื้อ Backlink คุณภาพสูงในหัวข้อแรก เพียงแต่การซื้อ PBN นั้นจะเป็นการสร้างฟาร์มลิงก์ หรือบรรดาเว็บไซต์ที่ค่าโดเมนอาจจะไม่ได้สูงมาก เพื่อเน้นการสร้างลิงก์เชื่อมโยงกลับไปยังหน้าหลักในจำนวนมาก ๆ แทน ทั้งนี้ ก็เพื่อหลอกให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์ปลายทางเป็นเว็บไซต์คุณภาพสูง ที่ถูกเว็บไซต์อื่น ๆ หลายเว็บไซต์อ้างอิงถึง 

แน่นอนว่าปัจจุบัน Google Algorithm ก็มีการอัปเดตและพัฒนาการป้องกันในส่วนนี้ให้รัดกุมมากขึ้น ส่งผลให้เว็บไซต์ที่ทำ PBN อาจถูกลดการมองเห็น ส่งผลให้อันดับเว็บไซต์ตกลงไปเพราะ Google จับได้ว่าคุณกำลังโกงอยู่นั่นเอง

ทำไม SEO สายเทา ถึงเป็นวิธีที่นักทำ SEO ไม่แนะนำ

สำหรับการทำ SEO สายเทานั้นพูดกันตามตรงว่าปัจจุบันเป็นวิธีที่ SEO Specialist และบริษัทรับทำ SEO ไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากแม้การทำสายเทาจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในช่วงแรก แต่ก็เป็นกลยุทธ์ที่เห็นผลในช่วงสั้น ๆ ไม่ต่างจากการทำ SEO สายดำ ในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อ Performance ของเว็บไซต์ อันดับตกไวมากกว่าที่คิด อีกทั้งยังเสี่ยงถูก Google แบน ปิดกั้นการมองเห็น และไม่ถูกจัดอันดับบนหน้า Google ในท้ายที่สุด

เพราะฉะนั้น สำหรับใครที่อยากทำ SEO ให้ยั่งยืน มี Performance ที่ดีในระยะยาว ควรเลือกทำ SEO สายขาว และ Optimize เว็บไซต์ให้ตรงตามข้อปฏิบัติของ Google ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาวิธีเขียนบทความ SEO ที่ถูกต้อง การทำ On-Page SEO อย่างถูกวิธี พร้อมกับการศึกษาว่า Off-Page SEO คืออะไร ให้เข้าใจวิธีการทำ SEO อย่างลึกซึ้ง เพียงเท่านี้ ก็เป็นวิธีการทำ SEO ที่ดีที่สุดแล้ว

SEO สายเทา ทางลัดที่อาจพังเว็บไซต์ของคุณ

SEO สายเทา คือการทำ SEO ที่อาศัยช่องโหว่ของกฎเกณฑ์ Google เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับเร็วขึ้น แม้จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วแต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูก Google ตรวจพบและลงโทษ เช่น การโดนแบน หรืออันดับตก ทำให้ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า เพราะฉะนั้นการทำ SEO สายขาวจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะเน้นคุณภาพของเนื้อหาและประสบการณ์ผู้ใช้ ทำให้เว็บไซต์เติบโตอย่างยั่งยืนและน่าเชื่อถือมากกว่านั่นเอง

ผู้เขียน

Picture of content nerdoptimize
content nerdoptimize
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

Yoast SEO คืออะไร

Yoast SEO คืออะไร ทำความรู้จักตัวช่วยในการทำ SEO แบบละเอียด

Yoast SEO ตัวช่วยในการทำ SEO สำหรับคนทำ SEO ที่ทุกเว็บไซต์ควรติดตั้งเอาไว้ เพราะเป็น Tool หนึ่งของ WordPress ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก และนิยมใช้กันมากที่สุด แถมยังใช้งานได้ไม่ยากเหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ ครับ

อ่านบทความ ➝
Google Trends คืออะไร

Google Trends คืออะไร พร้อมวิธีใช้เพื่อหาไอเดียทำการตลาดออนไลน์

Google Trends คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง ดูวิธีการใช้ และประโยชน์ของ Google Trend เหมาะสำหรับนักการตลาด คนทำธุรกิจ และคนทำคอนเทนต์มือใหม่

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top