Home - News - 30 เกร็ดความรู้ได้ที่จากงาน SEO Mastery Summit Saigon 2024

30 เกร็ดความรู้ได้ที่จากงาน SEO Mastery Summit Saigon 2024

ต้องเติมความรู้ SEO กันบ้างแล้วครับ ล่าสุดผมได้ไปดูงาน SEO Mastery Summit เพื่อดูว่านักทำ SEO ที่ต่างประเทศเขามีเทคนิคอย่างไรกัน และแตกต่างกับประเทศไทยที่ทำกันอยู่เยอะไหม

ในงานนี้ก็จะมีทั้ง Digital Nomads, SEO Agency, Corporate Marketing ที่เข้ามาอัพเดทความรู้กันในงานครับ

สำหรับบทความนี้ผมจะมาสรุปเกร็ดความรู้ที่เก็บมาได้จากงาน SEO Mastery Summit นี้จะครับโดยจะ ไล่เนื้อหาตาม Speaker แต่ละท่านที่ขึ้นมาแชร์เนื้อหาเลยครับ

1.การทำ International SEO Structures มี 4 แบบคือ!!

Section แรกของงานคือหัวข้อ International SEO ของ Diary of a SEO มาแชร์เรื่องการทำ เว็บหลายภาษา ซึ่ง Section นี้เหมาะมากกับใครที่กำลังจะปรับเว็บให้เป็นหลายภาษาครับ 

  1. Country Code Top Level Domain (ccTLD) ex. Amazon.ca
  2. Subdomain ex. uk.trip.com, th.trip.com
  3. Subdirectory ex. apple.com/th , traveloka.com/th
  4. Parameters ex. example.com/?land=en-en

การเลือกว่าจะทำแบบไหน ขึ้นอยู่กับว่าเรา focus เรื่องไหนและ Website เรามีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง

2.Subdirectory จะ Consolidated authority มาด้วย

สำหรับการทำ International SEO, หรือว่าการทำ Blog ในเว็บไซต์ นั้นถ้าไม่ติดเรื่องข้อจำกัดของ Website ทางทีมจะแนะนำว่าเลือก Subdirectory จะดีที่สุดครับ เพราะว่าแบบนี้จะมีค่า Authority เดิมมาด้วยทำให้การทำอันดับง่ายกว่ามากๆครับ

ตัวอย่างเช่น

  • website.com/blog
  • website.com/th/blog
  • website.com/en/blog

3.เราสามารถใช้ ChatGPT ในการช่วยทำ SEO ได้เพียงไม่กี่ Step

Step by Step ที่ทาง Julian Goldie ใช้มีเทคนิคประมาณนี้ครับ ในการช่วยให้ Traffic โตขึ้น

  1. หา Topical Maps
  2. ทำ Content Outline
  3. ใช้ AI เขียน Content
  4. Create Quality Checklist ในการตรวจสอบบทความทุกตัว (แนะนำว่าเราควรมี Onpage Checklist 1 ชุด และใช้ตัวนั้นในการตรวจสอบบทความทั้งหมดก่อนทำการ Public Website)
  5. ทำ Content ที่มีคุณภาพมากๆ + Case Study เยอะๆ จน Content ตัวนั้นได้รับ Backlink เข้ามาเองอย่างอัตโนมัติ (เทคนิค Linkable Assets จะมีอธิบายช่วงท้ายบทความครับ)

4.ใช้ Generative AI หา Topical Maps เพื่อวางโครงสร้าง

ตรงส่วนนี้ดีมากๆครับ คือบางครั้งเราไม่มี idea เรายังเข้าใจกลุ่ม Keywords นั้นอย่างถ่องแท้ การใช้ Gen AI มาช่วยจะดีมาก แนะนำดู Video ของ Julian Goldie คลิปนี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=xD5MgyFXaIM

5.ใช้ ChatGPT หรือ Gemini ทำ Content Outline

วิธีคือเราสามารถ Scrape Heading tag, Title มาได้โดยใช้ AI Tools เหล่านี้และเราก็สั่งให้มัน เอาหัวข้อทั้งหมดที่ต้องการมาวิเคราะห์ต่อว่าควรมีหัวข้ออะไรเพิ่มบ้าง ทำให้เราได้ Content Outline ที่ครอบคลุมกว่าคู่แข่งที่ติดอันดับที่ดีแล้ว

เทคนิคที่ Julian Goldie แนะนำมานั้นค่อนข้างดีมากๆและทางทีมเคยทดลองใช้เทคนิคนี้เหมือนกันในการ Optimize บทความที่อันดับตก โดยเขียน prompt design อย่างง่ายประมาณนี้ครับ
https://chat.openai.com/share/2a248783-d5a7-4501-9db5-13892a4495ab

6.Content ที่ใช้ AI เขียนมีคุณภาพถ้าใช้งานเป็น

ในมุมมองผมส่วนตัวแล้วคิดว่าควรใช้ AI มาช่วยนั้นในต่างประเทศ “อาจจะ” ใช้ได้ดีมากๆ เพราะว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่คนใช้เยอะ AI มี Data มากพอที่จะมาใช้คำที่ดีได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมมองว่าการการเลือกใช้ Generative AI มาช่วยเขียนนั้นการเขียน Prompts ที่ดียังคงจำเป็นมากๆ ยิ่งบรีฟงานละเอียดยิ่งได้ ข้อมูลกบับมาดีขึ้นเท่านั้น หรือ ถ้าใครอยากลอง Tools ที่ทาง Julian Goldie แนะนำก็ได้นะครับชื่อว่า 

ส่วนตัวผมก็จะเอามาใช้กับ PBN ของตัวเองเหมือนกันครับ แต่ขอย้ำอย่างนึงเลยคือ Prompts หรือ บรีฟคุณต้องดีจริงๆนะครับถึงสามารถใช้งานได้ดี

7.Future of Search

ตอนนี้ส่วนใหญ่แล้ว User จะเน้น Search ใน Google, Bring เป็นหลักอยู่ใช่ไหมครับ ในงาน SEO Summit ก็ได้มี Section Mastermind ในการพูดคุยเรื่องนี้กัน ผมได้พูดคุยกับ Vaibhav Sharda , Simon Bacher, Gigi Wong ก็ได้ Idea นึงมาที่น่าสนใจคือ User ตอนนี้มีโอกาสที่จะย้ายไป AI Search มากขึ้น เช่น Simon Bacher เขาทำบริษัทเกี่ยวกับ App สอนภาษา ling-app.com เขาได้ทดลองถาม ChatGPT ว่า ช่วยแนะนำ App สอนภาษาให้หน่อย ปรากฎว่ามีชื่อเขาขึ้นอันดับต้นๆ ทีนี้เขาก็สบายเลยครับ 555

ลองนึกภาพนะครับ ว่าถ้า Google Search เลือกเอาเว็บเราขึ้นอันดับต้นๆแล้วและ Generative AI ก็ยังเลือกบริษัทของเรามาแนะนำอีก เพียงเท่านี้การทำการตลาดของเราก็ตอบโจทย์ทุก Touchpoint ของลูกค้าแล้ว

ซึ่งผมก็ได้ทดลองทำนะครับว่า best seo agency in thailand ปรากฎว่ายังไม่มี NerdOptimize ผมก็ทำการป้อนข้อมูลบอกมันเลยครับว่า ไม่ใช่ NerdOptimize คือ 1 ใน best seo agency in thailand ซิ 5555

8.ลองใช้ Outsource ต่างประเทศ

ผมได้ Idea นึงมาจาก Vaibhav Sharda เขาแชร์ว่าถ้าคุณอยากทำ Website หรือ Developer ลอง Outsource ที่ต่างประเทศดูเช่น India, Pakistan คุณจะได้ราคาถูกแบละดีมาก แถมคนเหล่านี้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องด้วย ถ้าเราบรีฟงานดี จะช่วยให้เราลด Cost ได้เยอะมากๆครับ 

ซึ่งมีเคสลูกค้า Nerd เหมือนกันที่ใช้ Outsource จาก India และก็ไม่มีปัญหาในการทำงานด้วย ทีม Nerd ทำ Recommend SEO Audit ไปเขาสามารถปรับให้ได้ทุกจุดเลยอย่างไม่มีปัญหา

9.การทำ SEO ในบาง Keywords ไม่จำเป็นต้องมี Backlink ก็ได้

ผมค่อนข้างชอบสไลด์นี้ของคุณ Szymon Słowik เขาบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อ Link แล้วทำ Content ที่มีคุณภาพไปเรื่อยๆได้นะ แต่ถ้าคุณมองในมุมธุรกิจ การที่คุณติดอันดับช้ากว่าคู่แข่งมี Traffic น้อยกว่าคู่แข่งเป็นเรื่องใหญ่กว่าดังนั้นการซื้อ Backlink เพื่อให้ได้อันดับที่ดีขึ้นนั้นจำเป็นมากๆในมิติของธุรกิจ

10. Backlink Service มีจำนวนเยอะมากและช่วยเราทำงานได้เยอะมาก

สำหรับการเลือกใช้ Backlink Service นั้นเราสามารถหาได้จาก Google เลยมีหลายเจ้ามากๆ ซึ่งแต่ละเจ้าก็เหมือนร้านค้าที่มีสินค้าแตกต่างกัน พวก Backlink Service เหล่านี้เขาจะทำการรวบรวม Backlink ในโลกมาให้ เรามีหน้าที่เพียงเข้าไป filter แล้วดูว่า website ไหนเหมาะกับเราบ้างเท่านั้นครับ

ถ้า Backlink Service ที่คุณ Szymon Słowik แนะนำจะมี

ทั้ง 3 เว็บผมของไปเล่นมาดูแล้ว มีหลายเว็บที่น่าสนใจเลยครับ เว็บของไทยหลายๆเจ้าที่มี Traffic และไม่เคยเห็นก็อยู่ในนี้เยอะเลยครับ

เทคนิคเล็กๆที่ผมใช้คือ ใช้พวก Backlink Service หา Website แล้วผมจะติดต่อเขาไปโดยตรงบางครั้งเขาอาจจะให้ราคาที่ถูกกว่าครับ

11. ก่อนเลือกซื้อ Backlink ควรดู Links IN/OUT Ratio ด้วย

เทคนิคนี้ค่อนข้างดีในการวิเคราะห์ Website นั้นๆเลยครับ คือปกติแล้วเราจะดูว่า Website นั้นๆได้รับ Backlink มามากน้อยแค่ไหน ค่า UR/DR ดีไหมใช่ไหมครับ 

แต่เทคนิคนี้คืออยากให้เราวิเคราะห์ด้วย Link ขาออกหรือ Outbound Link มีจำนวนเท่าไหร่และสัดส่วนสมเหตุสมผลไหมก่อนที่จะเลือกซื้อ Backlink ครับ วิธีการดู Outbound Link ใน Ahrefs แนะนำ https://ahrefs.com/academy/how-to-use-ahrefs/site-explorer/outgoing-links ครับ

อ้อ Dashboard ที่มี Data นี้มาจาก whitepress.com นะครับ ลองไปหา Domain ในนี้ได้

12. การทำ Backlink ที่ดีบทความที่อยู่ใน Backlink ควรติดอันดับด้วย

จากรูปด้านบนเป็น Case study ที่ดีมากๆครับ คือ Website ลูกค้าติดที่ 1 และ Website อื่นใน Top 10 ก็เป็น Website ที่เขาสร้างและทำ Backlink กลับมาที่ Website ลูกค้า

แบบนี้จะส่งผลให้ Website ลูกค้ามีโอกาสติดอันดับ 1 อย่างยาวๆได้เลยครับ เพราะว่า Backlink ที่ได้มานั้นเป็น Backlink ที่มีคุณภาพมากๆคนสามารถติดอันดับใน Money Keywords ได้เลย

13. หา Backlink จากเว็บที่เกี่ยวข้องไม่ได้ลองเทคนิคนี้

Backlink ที่ดีที่สุดคือการได้ Backlink จากเว็บที่เกี่ยวข้องใช่ไหมครับ แต่จริงๆแล้ว ถ้าเราหาไม่ได้จริงๆ หรือ เราสู้ราคาไม่ไหว เราสามารถใช้เทคนิคนี้ได้คือ ทำบทความที่เกี่ยวข้องกับ Website นั้นแล้วค่อยๆ หาประมาณ 1-2 paragraph โยงเข้า Product ของคุณโดยการเขียน Copywriting ให้น่าสนใจเพื่อโน้มน้าวให้ User ทำการคลิก 

เทคนิคแบบนี้ก็สามารถช่วยให้เราทำ Backlink จากเว็บที่ไม่เกี่ยวข้องและชี้ Backlink หาเราได้แล้วครับ

*Key ของเทคนิคนี้คือต้องเขียนโน้มน้าวให้ User มีโอกาสคลิกสูงจะช่วยให้คะแนน Backlink สูงขึ้นตามได้ครับ

14. เช็ค Ratio Baclink ที่เข้ามาใน Website เรา

ตรงส่วนนี้ผมก็พึ่งมาสังเกตุเหมือนกันครับ คือบางครั้งเรามี Page ที่ต้องการดันอันดับมันมากๆและเราก็มุ่งชี้ Backlink ไปหา Page นั้นอย่างเดียว ทำให้ Home Page ของเรามี Backlink น้อยมาก

ผมอยากให้ทุกท่านลองเช็ค Ratio ในเว็บของเราดูด้วยนะครับ บางครั้งที่เราอันดับยังไม่ดี เพราะว่าเรามุ่งแต่ Keyword ใน Keyword นึงมากเกินไปเลยส่งผลให้กระทบทั้ง Website ถ้าแนะนำคือกระจาย Backlink เข้ามาที่ Home Page มากขึ้นและให้สัดส่วน Home Page มี Backlink เข้ามากที่สุดครับ 

ซึ่งถ้าเรามองตามธรรมชาติ Website ที่ Ratio ไปอยู่ใน Page อื่นเยอะกว่า Home Page ก็คือเว็บแปลกๆจริงไหมครับ และในกรณีนี้อาจจะทำให้อันดับของคุณยังไม่มาซักทีก็ได้ครับ

15. SEO Agency เริ่มมีการปรับตัวไปเป็น Expert ในแต่ละ Niche

ในต่างประเทศมี SEO Agency ค่อนข้างเยอะมาก และตอนนี้หลายๆเจ้าเริ่มปรับตัวหรือแยก Business Unit เพื่อให้ตัวเองเป็น Export ในด้านนั้นๆ แล้วอย่างเช่น Hennessey Digital ที่ในช่วงแรกเขาวางตัวเป็น Export ในด้าน Law Firm SEO และพอเริ่มมีชื่อเสียงค่อยขยับขยายมาเป็น Digital Agency เต็มตัว

ในมุมมองผมคิดว่าการทำตัวเองเป็น Export ในเรื่องนั้นๆแบบเฉพาะเจาะจงเลยเป็นเรื่องที่ดีมากถ้าตลาดของเราใหญ่พอ ผมคิดว่าถ้าในตลาดไทยตอนนี้ยังเป็นตลาดที่เล็กไปในการทำตัวเองให้เป็น Export ใน Niche นั้นๆ เพราะถ้าคุณเป็นแบบนั้นจะเจอคำถามว่า ถ้าคุณรับ 2 เจ้าแล้วคุณจะให้ใครเป็นที่ 1 ละ หรืออีกแนวทางคือตกลงกันเลยว่าลูกค้าเจ้าที่ทำกลุ่ม Keywords นี้ อีกเจ้านึงทำกลุ่ม Keywords นึงเพื่อให้แฟร์ต่อลูกค้าทั้งคู่ครับ

16. การทำงาน SEO จะสมบูรณ์ได้โครงสร้างทีมต้องดีด้วย

Section นี้คุณ Kherk Roldan แชร์มาได้เห็นภาพมากๆในการวางโครงสร้างทีมในการทำ SEO เพราะว่า SEO ในการทำงานจริงนั้นมี Detail ค่อนข้างหลายส่วนมากๆ และเราคนเดียวก็ไม่สามารถจัดการงานหรือทำงานทั้งหมดได้ 

ซึ่งมันก็จริงครับ ตอนนี้น้องๆในทีม SEO ของผมทำ SEO เก่งกว่าผมมากๆเพราะเขาดูหน้างาน ผมมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

ถ้าเป็นแบบรูปด้านบนแต่ละวัน CEO จะมีหน้าที่แก้ปัญหาให้กับลูกค้า คุณจะไม่สามารถไปคิดงานต่อหรือทำงานในส่วนอื่นๆได้เลย

จริงแล้วโครงสร้างของทีม Nerd ใกล้เคียงกับทางคุณ Kherk Roldan แนะนำมาเลยครับ (แสดงว่าโครงสร้างของ Nerd เริ่มเป็นสัดเป็นส่วนแล้ว^^) แต่อาจจะมีบางส่วนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหน้างานครับ

17. SOP สำคัญมากในการทำ SEO

การทำ SEO มันมี Deatil เยอะมาก และบางอย่างก็เป็นเคสที่เกิดบ่อยๆกับหน้างานด้วย ซึ่งน้องๆในทีมก็ต้องทำอยู่เรื่อยๆ ถ้าเราไม่มี SOP จะส่งผลให้การส่งมอบงานหรือการทำงานมีโอกาสตกหล่นได้สูงมากๆ

ผมขอยกตัวอย่างทีม Nerd ที่ทำอยู่คือเราใช้ทีม Content ค่อนข้างเยอะในการเขียนบทความให้กับลูกค้า ทีม Project Manager, SEO ของเราก็จะมีเป็น Checklist ให้นักเขียนตรวจสอบก่อนส่งงานก่อน เพื่อให้งานที่ส่งมอบมามีการเก็บรายละเอียดต่างๆอย่างครบถ้วนแล้วครับ

18. Digital PR Campaign

ในต่างประเทศจะมีการทำ HARO (Help A Reporter Out) Concept คือช่วยนักข่าวนำเสนอข่าวที่น่าสนใจ ซึ่งในไทยผมยังเจอน้อยมากๆในเคสนี้นอกจากเราจะรู้จักกันนักข่าวส่วนตัวแล้วเราหาข่าวที่น่าสนใจไปให้เขาลงเรื่อยๆ 

ในหัวข้อนี้ผมเลยอยากเขียนแนะนำแนวทางให้ทีม SEO และทีม PR ใน Corporate ครับ คือปกติแล้ว 2 ทีมนี้จะไม่ได้ทำงานร่วมกันและมี KPI ที่แตกต่างกัน 

ทีม PR ก็จะมี KPI ในการโปรโมทออกสื่อต่างๆให้เยอะที่สุด, ทีม SEO ก็อยากได้อันดับที่ดี มี Traffic มากขึ้น Conversion มากขึ้น

แต่รู้ไหมครับถ้า 2 ทีมนี้ทำงานร่วมกันได้จะส่งผลให้ทีม SEO มี Performance ดีขึ้นมากๆ ผมขอยกเคสประมาณนี้ครับ ถ้าทีม PR ต้องการโปรโมทสินค้าใหม่บางครั้งเขาจะเขียนข่าวแล้วให้สื่อไปโปรโมทจำนวนเยอะๆ แต่ปัญหาคือบางครั้งการโปรโมทไม่มี Backlink กลับมา หรือ Backlink ที่กลับมา Anchor Text ไม่ถูกต้อง เพียงแค่ 2 ทีมนี้ Work งานร่วมกันสร้าง SOP หรือให้ทีม SEO ดูก่อนให้สื่อ Public ข่าวเพียงเท่านี้เราก็จะได้ทั้ง 2 เด้งเลยครับ คือ ได้ PR และ Backlink

คำถามถัดมาคือแล้วการที่ทีม PR เอาเนื้อหาในลงหลาย Website ด้วยเนื้อหาเดียวกันจะดีต่อ SEO ไหมในมุมมองผม ถ้าสามารถปรับเนื้อหาให้ไม่เหมือนกันได้ จะดีมากๆ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ได้ Backlink กลับมาก็เพียงพอแล้วครับ

19. Ratio Page Index / No-Index

ควรตรวจสอบ Ratio Page Index / No-Index ของ Website เราด้วยเพราะว่า Bot ที่ Google ส่งมาแต่ละครั้งจะมี Crawl Budget ที่ให้มาจำกัด ดังนั้นแนวทางคือเราควรทำ Website เราให้ Clean ที่สุด ทุกหน้าที่เปิด Index คือหน้าที่เราวิเคราะห์แล้วว่าหน้านี้จำเป็นถึงค่อยเปิด index

20. Domain หมดอายุยังใช้ได้อยู่?

หัวข้อนี้คุณ Koray Tugberk แชร์ได้น่าสนใจคือ จากการทดสอบของเขาหลายต่อหลายครั้งพบว่า โดนเมนเก่าที่หมดอายุไปแล้ว สามารถเอามาทำอันดับได้เลยทันที ซึ่งแนวทางก็มีหลากหลายเลย ซึ่งที่นิยมกันจะมีอยู่ 2 แบบคือ เอาเว็บนั้นมาปั้นทำ Website ใหม่ กับ เอา Website นั้นมาทำ Redirect 301 ใส่เว็บที่เราต้องการ เพื่อให้ค่า Authority ถูกส่งไปที่ Website ใหม่และทำให้ทำอันดับได้ง่ายขึ้น

21. วาง Funnel Keywords

จริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็น SEO หรือศาสตร์การตลาดทุกๆที่ผมว่ามีพูดถึงเรื่องนี้แน่นอนเรื่องการวาง Marketing Funnel ซึ่งเรื่องนี้จากประสบการณ์ผมคิดว่าสำคัญมากๆเพราะว่าในบาง Keywords ที่เป็นกลุ่ม Conversion ดันเป็นคำที่มีการแข่งขันไม่สูงถึงแม้ว่า Search Volume จะต่ำแต่ถ้าเราทำติดอันดับที่ดีมีโอกาสที่ได้ Conversion Rate ที่สูงมากๆได้ 

ดังนั้นแนวทางที่ผมอยากแนะนำคือเราควรหา Keywords ที่อยู่ใน Funnel Conversion, Consideration ให้ได้ เพียงเท่านี้เราก็มีโอกาสได้ยอดขายมาได้อย่างง่ายแล้ว

22. วิเคราะห์ User Journey

ผมเชื่อมากๆเลยว่าหลาย Website ที่ติดตั้ง Heatmap แล้ว Data ที่ได้มานั้นจะใกล้เคียงแบบนี้เลยครับ สำหรับ Tools ที่ผมแนะนำตอนนี้คือ Microsoft Clarity เป็น Tools ฟรี สามารถดู Headmap ได้เหมือนกับ Hotjar เลยครับ

เมื่อเรารู้แบบนี้แล้วก็ควรจะจัดการอะไรบางอย่างในบริเวณที่ User Drop Off อย่างเช่นมีการทำ Call to action ดีๆไว้บริเวณนั้น อย่างเคสที่ผมเคยทำให้ลูกค้าเป็น simple use case เลยคือถ้าเรารู้ว่า User ชอบ Drop Off ตรงไหน เราก็แค่เอา Banner ไปแปะในบริเวณนั้นเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ Conversion เพิ่มขึ้นแล้วครับ

23. Backlink Tier2 ยังคงจำเป็น

บางครั้งการทำ Guest Post, DPR, Niche Edit จากเว็บที่ดีแล้วอาจจะยังไม่เพียงพอ เราต้องวิเคราะห์ว่า Backlink ที่เรามีอยู่นั้นตัวไหนบ้างที่มีโอกาสติดอันดับใน Keywords ที่เราต้องการบ้าง พอเราวิเคราะห์ออกมาแล้ว เราสามารถใช้ Backlink Tier2 มาช่วยดันอันดับได้ และยิ่ง Tier1 อันดับดีขึ้นมากเท่าไหร่ Money Site หรือ Website ของเราก็จะมีโอกาสอันดับดีขึ้นเท่านั้น

24. Visitor to Lead

เราเสียเงินเสียเวลามหาศาลในการพา User เข้ามาที่ Website และ mindset แรกที่นักการตลาดต้องคำนึงถึงเลยคือ เราจะทำอย่างไรให้ Visitor หรือ User คนนี้แปลงมาเป็น Lead เราให้ได้ ในต่างประเทศส่วนใหญ่แล้วเป็นการ Drop Email แล้วก็จะมีการทำ Nuturing Lead โดยการส่ง Email ไปเรื่อยๆ 

แต่ในประเทศไทยอาจจะไม่เหมาะในบางธุรกิจ ซึ่งในไทยเราอาจจะใช้ Line ในการเป็น Lead ก็ได้นะครับ เช่น Add Line เพื่อมารับส่วนลด, รับ Coupon code แล้วเราค่อยทำการ Broadcast กระตุ้นเขาไปเรื่อยๆก็ได้ครับ

Workshop : Link Building

ที่งาน SEO Mastery Summit ผมได้ลง Workshop Link Building กับคุณ Karl Kangur หัวข้อด้านล่างนี้จะมาแชร์เทคนิคที่ได้จาก Workshop นี้ให้ครับ

25. Link แบบไหนยังได้ผลอยู่ตอนนี้

Tier S 

  • 301 Redirects
  • PR News
  • Editorial, Advertorial
  • Linkable Assets

Tier อื่นๆ

  • PBN (Private blog network)
  • HARO (Help a Reporter Out)
  • Broken Link Building
  • Guest Post
  • Link Exchanges
  • Link Pyramid
  • Tiered Link Building
  • Niche Edits

26. เทคนิคการทำ 301 Redirects

การ 301 Redirects ยังคงได้ผลอยู่ เทคนิคคือเราต้องหา Domain ที่มีค่า authority สูง ex. เคยมี Traffic, มีค่า UR, DR ที่สูง, เคยได้รับ Backlink จากเว็บไซด์ดังๆ

วิธีการ Redirect ไม่ใช่เอาจาก Page จากเว็บเดิมมา Redirect 301 ใส่หน้า Home Money site เราแต่ควรจะดูด้วยว่า Content เก่าของ Page นั้นคืออะไร วิธีง่ายๆคือเข้าไปดูใน Ahrefs ว่ามี Backlink แบบไหนเคยชี้มาบ้าง หรือเข้าไปดูที่ https://archive.org/

27. เทคนิคการทำ Niche Edits

ส่วนตัวผมชอบเทคนิคนี้มากๆ Concept ของการทำ Niche Edits คือการที่เราไปติดต่อบทความที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เขาแก้ไข Link มาที่เว็บไซต์เรา ลองนึกภาพนะครับ ถ้าเรามีซัก 3-4 บทความที่ติดอันดับอยู่แล้ว Bot เข้ามาเก็บเรื่อยๆอยู่แล้ว มีการ edit แล้วเชื่อมโยกลิ้งค์มาหาเรา อันดับแรกเลยคือเราจะได้ Backlink ทันที, บทความเหล่านั้นที่ชี้ Link มาเป็นบทความที่มีคุณภาพแน่นอน เพราะติดอันดับอยู่ ซึ่งตอนนี้ Service นี้ในไทยยังน้อยมากๆแต่ในต่างประเทศยังเป็นที่นิยมเจ้าที่ผมทดลองเล่นแล้วค่อนข้างดีคือ https://sirlinksalot.co/ ครับ

28. เทคนิคการทำ Rental Backlinks

เทคนิคนี้ผมฟังมาในงานแล้วน่าสนใจครับคือ การเช่า Link เป็นอีกเทคนิคนึงที่น่าสนใจ เพราะว่าถ้าเราซื้อ Link อาจจะใช้งบประมาณจำนวนมากในการทำ แต่ถ้าเราสามารถเช่าได้เช่น 3 เดือน 6 เดือน อาจจะช่วยลด Cost ในส่วนนี้ได้ รวมถึงบาง Link ที่เป็น Link ที่ดีมากๆ เราก็ไม่สามารถไปทำ Link ในเว็บเขาได้ เขาก็จะปล่อยแต่ให้เช่า Link เท่านั้นครับ

29. เทคนิคการทำ Linkable Assets

เทคนิคนี้คือการสร้าง Content ที่มีคุณภาพสูง เพื่อดึงดูดให้คนมาทำ Backlink ให้เรา ไม่ว่าจะเป็นการทำ infographics, Video, อื่นๆ อย่างเช่นบทความ “50 ที่เที่ยวกรุงเทพ 2024” และข้อดีอีกอย่างนึงของ Content ประเภทนี้คือ สามารถใช้ระยะยาวได้เป็น Evergreen Content ด้วย เพราะว่าถ้าผ่านไปเป็นปี 2025 เราก็ทำการ Edit เนื้อหาแล้วใส่ปี 2025 ไปแทน เมื่อเราทำ Content ดีเราก็ยิ่งได้ Backlink เข้ามาเยอะในบทความ ก็จะช่วยให้ Website เรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย

30. Backlink ยังคงสำคัญมากๆ

ในต่างประเทศหลายๆ Keywords แข่งขันกันด้วย Backlink เป็นหลักเพราะเขามองว่า Content ใครๆก็สามารถทำได้ เราสามารถไปจ้างในประเทศที่ค่าเงินถูกๆให้เขียน Content ที่ดีได้ไม่ยาก ดังนั้นเขาเลยมองว่า Backlink ยังคงสำคัญมากๆ และในงาน seomasterysummit ก็มีเจ้าที่เป็น Backlink Service เข้ามาเยอะมาก 

มีแก็กอย่างนึงในห้องที่เขาพูดกันคือ Google บอกว่า Backlink ไม่ใช่ Top3 Factor และ Top 3 Factors นั้นคือ

และข้อดีอย่างนึงในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน จากมุมมองทีม Nerd คิดว่าในประเทศไทยนั้นการแข่งขัน SEO ยังไม่สูงมากในหลายๆ อุตสาหกรรม ทำให้เราสามารถไปทำอันดับได้ไม่ยากนัก แต่ในอนาคตทางทีมมองว่าอาจจะเป็นสงครามเงินในการแยกซื้อ Backlink ก็ได้

และนี่ก็เป็นส่วนนึงของงานที่ทางผมได้นำมาแชร์ให้กับเพื่อนๆ นะครับ ทุกท่านครับ ผมอยากนำเสนออย่างนึงคือ NerdOptimize เรากำลังจะมีงาน SEOMATE เป็นงาน Meetup เล็กๆของพวกเรา ซึ่งผมและทีมจะเอาเนื้อหาที่ไปดูงาน Conference มาแชร์ให้กับเพื่อนๆ ถ้าใครสนใจ สามารถ Add line มาเพื่อลงทะเบียนจองตั๋วกันได้นะครับ https://lin.ee/EButljX

ผู้เขียน

Picture of tan
tan
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

Similarweb คืออะไร

Similarweb คืออะไร เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่ช่วยให้ ‘รู้เขา รู้เรา’ มากยิ่งขึ้น

รู้จักกับ Similarweb เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์สำหรับคนทำ SEO ที่อยากดันอันดับให้ดีมากขึ้นทำให้เรารู้จักคู่แข่ง ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย ดูวิธีการใช้งานและประโยชน์ที่นี่

อ่านบทความ ➝
การตลาดออนไลน์ Paid Owned Earned

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คืออะไร? อัปเดตล่าสุด 2024

การตลาดออนไลน์ คืออะไร บทความนี้อธิบายทุกมุมของการทำการตลาดออนไลน์ Paid Owned Earn Channel คืออะไร ถ้าอยากเริ่มทำการตลาดออนไลน์ต้องทำยังไง

อ่านบทความ ➝
SEO Audit คืออะไร แนะนำเทคนิคและวิธีปรับอันดับบน Search Engine ให้ดีขึ้น

SEO Audit คืออะไร แนะนำเทคนิคและวิธีปรับอันดับบน Search Engine ให้ดีขึ้น

SEO Audit คือ เทคนิคการเพิ่มอันดับให้กับหน้าเว็บไซต์ให้ดีขึ้น โดยใช้หลักการทำ SEO ในการทำ Site Audit เพื่อปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์จนถูกใจ Google

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top