Landing Page คืออะไร? SEO Specialist ที่เพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์มักจะมีข้อสงสัยว่าทำไมหน้าเว็บไซต์บางหน้าต้องเรียกว่า Landing Page ทำไมเรียกว่าหน้า Page ปกติไม่ได้?
จริง ๆ แล้ว Landing Page และหน้าเว็บไซต์ปกติไม่ได้แตกต่างกันในเชิง Technical SEO แต่แตกต่างกันในเชิงการใช้งาน และที่ต้องระบุว่าเป็น Landing Page นั้นเพราะมีผลในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ โดยจุดประสงค์หลักของ Landing Page คือการเพิ่ม Conversion ให้กับเว็บไซต์ นั่นเอง
Landing Page คืออะไร ?
แลนดิ้งเพจ หรือที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษว่า Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการให้ผู้เข้าชมเว็บ “ทำอะไรบางอย่าง (Action)” โดยเฉพาะ เช่น ซื้อสินค้า, กรอกฟอร์ม, สมัครสมาชิก, ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่จุดประสงค์ส่วนใหญ่จะทำเพื่อเป็นการสร้าง Conversion จากหน้าเว็บไซต์
Landing Page Design ที่จะสามารถสร้าง Conversion สร้างยอดขายได้จริง จะต้องเรียบง่าย สื่อสารชัดเจน และมี 1 จุดประสงค์ ต่อ 1 หน้าเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าไม่ไขว้เขวไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่จุดประสงค์ของ Landing Page นั้นนั่นเอง
Landing Page แตกต่างจากเว็บไซต์ปกติอย่างไร ?
อย่างที่บอกไปว่า Landing Page และหน้าเว็บไซต์ปกติไม่ได้แตกต่างกันในเชิง Technical อีกทั้งการกำหนดความต่างของ Landing Page และหน้าเว็บไซต์ทั่วไปก็ไม่ได้เกี่ยวกับ SEO ด้วย สิ่งที่แตกต่างกันหลัก ๆ คือจุดประสงค์การใช้งาน และองค์ประกอบต่าง ๆ ในหน้าเว็บไซต์
จุดประสงค์ของ Landing Page คือการเพิ่ม Conversion องค์ประกอบในหน้า Landing Page ก็จะเน้นที่การโน้มน้าวผู้อ่านให้ทำอะไรบางอย่างตามจุดประสงค์ของหน้านั้น ๆ อย่างการกรอก Lead Form ซื้อสินค้า หรืออื่น ๆ แล้วแต่กำหนด
ส่วนหน้าเว็บไซต์ปกติ จะมีจุดประสงค์แตกต่างกันไปตามการใช้งาน แต่ที่เหมือนกันคือหน้าเว็บไซต์ปกติจะไม่ได้เน้นแค่ให้เกิด Conversion อย่างเดียว และมักจะมีองค์ประกอบอื่น ๆ เพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้งานไปที่หน้าต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลดีในเชิง SEO อีกทั้งยังทำให้ผู้ใช้งานหาหน้า Page ต่าง ๆ ได้ง่ายด้วย
อย่างเช่นหน้า Homepage นอกจากจะมีปุ่มกรอกฟอร์ม ซื้อสินค้าแล้ว ก็มักจะมีปุ่มให้กดไปดูรายละเอียดสินค้าต่าง ๆ ให้ข้อมูลแนะนำบริษัท หรือปุ่มไปที่หน้ารวมบทความด้วย
Landing Page ใช้ทำอะไรได้บ้าง และมีประโยชน์อย่างไรต่อการทำธุรกิจออนไลน์
การทำ Landing Page บนเว็บไซต์ มีประโยชน์กับธุรกิจ 3 อย่างด้วยกัน ดังนี้
เพิ่มยอดขาย (Conversion) ให้การทำธุรกิจออนไลน์ของคุณ
เพราะ Landing Page ถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าที่เป็น Target Audience ของเว็บไซต์กระทำบางอย่างที่ธุรกิจวางไว้ว่าเป็น Conversion อย่างเช่น ซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรืออื่น ๆ การทำ Landing Page จึงเป็นหนึ่งในวิธีการทำ CRO (Conversion Rate optimization) ทำให้เว็บไซต์สามารถสร้างยอดขายให้กับธุรกิจได้จริง
ช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้า/บริการได้เป็นอย่างดี
Landing Page จะทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ Landing Page จึงสามารถใช้เป็นหน้า Product เฉพาะของสินค้าหรือบริการได้
โดยข้อดีของการทำเป็น Landing Page คือเราสามารถออกแบบให้โน้มน้าวกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ให้กดซื้อได้ และยังสามารถให้รายละเอียดทั้งหมดของสินค้าหรือบริการ โดยไม่ทำให้ลูกค้าไขว้เขวไปคลิกดูส่วนอื่นของเว็บไซต์ได้ด้วย เมื่อกลุ่มเป้าหมายดูข้อมูลบน Landing Page และถูกโน้มน้าวโดยข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และข้อดีของสินค้าหรือบริการในหน้า Landing Page นั้น ก็จะเกิดการซื้อหรือที่เรียกว่า Conversion ในที่สุด
ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บ Leads ควบคู่ไปกับการยิงโฆษณา
จุดประสงค์ของ Landing Page ไม่ใช่การปิดการขายเสมอไป ธุรกิจบางประเภทอย่างธุรกิจที่ขายการบริการ หรือธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มธุรกิจ (B2B หรือ Business-to-Business) จะนับ Conversion ที่การเก็บ Leads เพื่อเก็บข้อมูลติดต่อและสื่อสารกับกลุ่มที่เป็น Leads ก่อน เพื่อให้ปิดการขายง่ายขึ้น
ธุรกิจเหล่านี้จึงสามารถใช้ Landing Page เพื่อเก็บ Leads ได้ โดยการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ อีเมล สินค้าหรือบริการที่สนใจ และอื่น ๆ ตามความจำเป็นของประเภทธุรกิจ ส่วนวิธีการเก็บข้อมูลนั้น อาจจะขอเก็บข้อมูลตรง ๆ เพื่อติดต่อกลับสำหรับผู้ที่สนใจสินค้าหรือบริการ หรืออาจจะให้กรอกข้อมูลเพื่อแลกกับสินค้าหรือบริการขั้นต้นบางอย่าง เช่น ทดลองใช้สินค้าฟรี หรือรับ newsletter ก็ได้เช่นกัน
อีกทั้งหลายธุรกิจยังนิยมใช้ Landing Page เหล่านี้ยิงโฆษณา เพื่อเพิ่มการมองเห็น เพิ่มโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามากรอกข้อมูล สร้าง Leads ที่มากขึ้นให้กับธุรกิจด้วย
การยิงโฆษณาบน Google คืออะไร? SEO, SEM แตกต่างกันอย่างไร อ่านเพิ่มได้ที่นี่: SEO กับ SEM คืออะไร? ต่างกันยังไง? ต้องทำยังไงให้มีประสิทธิภาพ
แล้วหน้า Landing Page ทำ SEO ได้ไหม? บริษัทรับทำ SEO อย่างเรา แนะนำให้ทำ SEO ในหน้า Landing Page ด้วยจะดีกว่า เพื่อเพิ่ม Traffic จาก Organic Search ซึ่งใช้งบน้อยกว่าการยิงโฆษณาอย่างเดียว แต่ Landing Page บางหน้าหากต้องการเขียนโน้มน้าวอย่างเดียว ไม่อยากเพิ่มเนื้อหาเพื่อทำ SEO ก็สามารถยิงโฆษณาเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องทำ SEO ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับแผนการตลาดของธุรกิจเลย
Landing Page แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง ?
Landing Page สามารถแยกประเภทได้ตามจุดประสงค์เป็น 4 ประเภท ดังนี้
- Lead Generation Landing Page
เป็น Landing Page ที่ออกแบบมาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้ามากรอกข้อมูลติดต่อโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์เพื่อเก็บ Leads ให้ธุรกิจติดต่อกลับไปหาลูกค้า เพื่อปิดการขายต่อไป
- Click-Through Landing Page
เป็น Landing Page ที่ให้ข้อมูล ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิด Conversion ในหน้านี้ แต่จะใช้การเขียนโน้มน้าวเพื่อให้ผู้อ่านคลิกไปต่อที่หน้าอื่น ๆ
ตัวอย่าง Click-Through Landing Page
- Sales Page
เป็นหน้าขายสินค้าหรือบริการโดยตรง Landing Page ประเภทนี้จะมีข้อมูลสินค้าอยู่ครบถ้วน พร้อมปุ่มกดสั่งซื้อที่เห็นง่าย ๆ มักถูกนำไปโฆษณาต่อ ผ่าน Google Ads หรือ Platform Social Media อื่น เช่น Facebook Ads เป็นต้น
ตัวอย่าง Sales Page
- Squeeze Page
คือ Landing Page ที่สร้างขึ้นเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิประโยชน์บางอย่าง มักจะใช้ในธุรกิจธนาคาร หรือห้างสรรพสินค้า
ตัวอย่าง Squeeze Page
แนะนำเทคนิคออกแบบ Landing Page ที่ดี ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้อย่างรวดเร็ว
การทำ Landing Page ตัวอย่างการออกแบบที่จะช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง จะต้องมีองค์ประกอบ 5 อย่างด้วยกัน
Landing Page ที่ดีต้องมีแค่ 1 วัตถุประสงค์
Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งาน ทำอะไรบางอย่าง ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ดังนั้นวัตถุประสงค์ที่ว่าควรจะมีเพียง 1 อย่าง ต่อ 1 หน้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานไข้เขวไปกด ไปดูอย่างอื่นที่ผิดจากวัตถุประสงค์ของ Landing Page นั้น
อย่างเช่น เราสร้าง Landing Page ขึ้นมา เพราะอยากให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามากรอก Leads ในหน้า Page นั้นจะต้องมีฟอร์มสำหรับกรอก Leads เพียงอย่างเดียว ไม่ควรมีจุดแนะนำสินค้า หรือแนะนำบทความใหม่ของเว็บไซต์ เพราะจะทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะกรอกฟอร์มมีน้อยลง และไปทำอย่างอื่นซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของ Landing Page
ต้องสามารถแสดงผลได้ในทุกอุปกรณ์ (Responsive Design)
ปัจจุบันอุปกรณ์ที่เข้าถึงเว็บไซต์ได้นั้นมีหลากหลายมาก ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งตู้เย็น Landing Page จึงจำเป็นต้องออกแบบให้ใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เข้ามาสามารถรับรู้การโน้มน้าวของเรา และทำ Action ที่เป็นจุดประสงค์ของ Landing Page นั้นได้ ไม่ว่าจะเข้ามาผ่านอุปกรณ์ใดก็ตาม
อีกทั้งการทำ Responsive Design แบบนี้ นอกจากจะดีกับผู้ใช้งาน จนทำให้เรามีโอกาสสร้าง Conversion ได้เพิ่มขึ้น และยังดีต่อ SEO เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งในการทำ On-Page SEO ด้วย
มีการออกแบบที่ User Friendly ใช้งานง่าย
Landing Page ที่ดีควรจะทำให้ User Friendly ให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เข้ามารับรู้ได้ว่า เราอยากสื่อสารอะไร เขาต้องทำ Action ในส่วนไหน และทำไปเพื่ออะไร
หากทุกอย่างเข้าใจง่าย สื่อสารไม่กำกวม มีตำแหน่งที่ต้องการให้ผู้ใช้งานเข้ามาทำ Action ชัดเจน ก็มีโอกาสที่ผู้ใช้งานจะทำ Action ที่เราต้องการได้มาก ทั้งยังลด Bounce Rate ได้ด้วย
โดย Landing Page Template ที่ดี แบ่งเนื้อหาเป็นสัดส่วน ควรมีลักษณะประมาณนี้
มี Call To Action (CTA) ที่ชัดเจน
Call to action (CTA) เป็นองค์ประกอบบนหน้าเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานจะใช้ทำ Action ที่เป็นจุดประสงค์ของหน้า Landing Page ไม่ว่าจะเป็นฟอร์ม ปุ่มคลิกไปชมสินค้า ปุ่มดาวน์โหลดแอปฯ หรือแอดไลน์ ส่วนเป็น Call to action ทั้งหมด
Call to action ที่ดีควรจะโดดเด่น, เขียนกำกับด้วยข้อความชวนกด กระตุ้นให้เกิด Action ในทันที อย่างเช่นเทคนิค FOMO (Fear of Missing Out) และสื่อสารอย่างชัดเจนว่าถ้าทำไปแล้วจะได้อะไร หรือควรจะเจออะไรต่อ
ตัวอย่างการทำ Call to action ที่ได้ผล เช่น ทำปุ่มที่เห็นชัด สีปุ่มตัดกับพื้นหลัง พร้อมเขียนกำกับบนปุ่มด้วยข้อความน่าสนใจ อย่าง “ซื้อเลย” “ทดลองใช้ได้ฟรี” “สมัครตอนนี้ รับสิทธิประโยชน์มากมาย” เป็นต้น
คอนเทนต์บน Landing Page ต้องครบถ้วน ช่วยในการปิดการขายได้
หากมีข้อมูลครบถ้วน กลุ่มเป้าหมายก็จะไม่ต้องหาข้อมูลในหน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์ หรือออกจากเว็บไซต์ของเราไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเราเพิ่ม ทำให้มีโอกาสเกิด Action ที่เป็นวัตถุประสงค์ของ Landing Page ได้มาก
ตัวอย่างเช่น หากเราทำ Sale Page ขึ้นมาหน้าหนึ่ง ในนั้นจะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างครบถ้วน ทั้งรายละเอียดสินค้าหรือบริการ, ราคา, ภาพประกอบ, ความเห็นจากผู้ใช้งานจริง, วิธีใช้งาน, เงื่อนไขการใช้งาน โดยมีการให้ข้อมูลเป็นลำดับ แยกสัดส่วนชัดเจน ผู้ใช้งานสามารถหาข้อมูลที่ต้องการรู้ก่อนตัดสินใจได้ง่าย ก็มีโอกาสที่ผู้ใช้งานจะกดซื้อสินค้าหรือบริการนั้นได้ในทันที
สรุป Landing Page เครื่องมือสร้างยอดขายให้เว็บไซต์
Landing Page คือส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ แม้ในบางครั้งจะไม่ได้ใช้ทำ SEO โดยตรง แต่ก็เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากกับเว็บไซต์ธุรกิจ เพราะสามารถช่วยเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้ เก็บข้อมูล Leads สร้างรายได้ให้บริษัทได้จริงจากการทำ SEO หรือ SEM
ดังนั้นทุกธุรกิจควรใส่ใจกับการทำ Landing Page ให้มาก เพราะหาก Landing Page สามารถออกแบบได้ดี สร้าง Conversion Rate ที่สูง จะสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาลทีเดียว
