Home - SEO - DA/PA คืออะไร เรียนรู้วิธีการตรวจสอบ และทำให้ DA/PA ดีต่อ SEO

DA/PA คืออะไร เรียนรู้วิธีการตรวจสอบ และทำให้ DA/PA ดีต่อ SEO

เรารู้จักเมตริกสำหรับวัด Performance ในการทำ SEO หลายตัวด้วยกัน เช่น Organic Traffic, Search Volume, Keyword Rankings ฯลฯ แต่สำหรับ SEO มือใหม่หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินหรือยังไม่คุ้นชินกับอีกหนึ่งเมตริกสำคัญที่เราจะนำมาเสนอในบทความนี้ นั่นคือ DA/PA ที่เป็นเมตริกสำหรับนำมาใช้เพื่อเป็นการระบุถึงคุณภาพของเว็บไซต์ 

ว่าแต่ DA/PA คืออะไร สำคัญกับการทำ SEO อย่างไรบ้าง รวมถึงจะทำให้ค่า DA/PA นี้ช่วยผลักดันให้เว็บไซต์มีคุณภาพดีและเป็นที่ถูกใจ Search Engine อย่าง Google ได้อย่างไรบ้าง ลองไปดูคำตอบที่ NerdOptimize รวบรวมมาให้ ในบทความนี้เลยครับ!

หากยังไม่เข้าใจว่า SEO คืออะไร สามารถเข้ามาอ่านได้เพิ่มเติมได้ครับ

DA คืออะไร PA คืออะไร

ที่มาภาพ: bamahadigital.com

DA คืออะไร ?

DA หรือ Domain Authority คือ คะแนนความน่าเชื่อถือและความนิยมที่ใช้ในการวัดคุณภาพของโดเมน (Domain) ถูกคิดค้นขึ้นโดย MOZ บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ด้าน Digital Marketing ซึ่งนำมาใช้เพื่อเป็นเกณฑ์ในการวัดผลลัพธ์โดเมนของเว็บไซต์ต่างๆ ว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน โดยคะแนนจะไล่ตั้งแต่ 1 – 100 (ถ้ายิ่งได้คะแนนสูงแสดงว่า โดเมนของเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง) สำหรับที่มาของคะแนนจะมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุเว็บไซต์ จำนวน Backlink, ความนิยมของเว็บไซต์, การปรากฏโดเมนบน SERP เปรียบเทียบกับเว็บไซต์คู่แข่งที่มี Keyword เดียวกัน เป็นต้น

PA คืออะไร ?

PA หรือ Page Authority คือ คะแนนความนิยมและความน่าเชื่อถือของหน้าเพจใดหน้าเพจหนึ่ง แทนที่จะเป็นการให้คะแนนทั้งโดเมนเหมือนกับค่า DA มีคะแนนไล่ตั้งแต่ 1 – 100 ถ้ามีคะแนนสูงเท่ากับหน้านั้นมีค่า PA ดี และแต่ละหน้าจะมีการให้คะแนน PA ที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น จำนวน Internal Link, จำนวน Backlink, จำนวนโดเมนที่เชื่อมมายังเพจนั้นๆ, คุณภาพของ Backlink ที่ส่งกลับมายังเพจหน้านั้นๆ เป็นต้น 

วิธีตรวจสอบค่า DA/PA

สำหรับการตรวจสอบค่า DA/PA นั้นสามารถทำได้โดยการใช้ SEO Tool ในการตรวจสอบได้เลย ยกตัวอย่างเครื่องมือที่สามารถใช้เพื่อตรวจสอบค่า DA/PA ได้ เช่น การใช้ MOZ

วิธีตรวจสอบค่า DA PA
  1. ให้เข้าไปที่ https://moz.com/domain-analysis
  2. หลังจากนั้นให้นำ URL ใส่เข้าไปในช่องเสิร์ช
  3. ทำการกด Analyze domain
  4. เมื่อผลลัพธ์ขึ้นมาส่วนแรกจะเห็นค่า DA หรือ Domain Authority อย่างของ NerdOptimize จะมีค่า DA อยู่ที่ 22
ส่วน PA หรือ Page Authority จะมีคะแนนแยกในแต่ละหน้าของแต่ละ URL
  1. ส่วน PA หรือ Page Authority จะมีคะแนนแยกในแต่ละหน้าของแต่ละ URL แยกเป็นผลลัพธ์ให้เห็นเฉพาะในแต่ละหน้าเพจเลย

ควรทำอย่างไรดีหากค่า DA/PA ต่ำ ?

  1. ทำการตรวจสอบคู่แข่งก่อนว่ามีค่า DA/PA เท่าไหร่ เพื่อเช็กว่า DA/PA ของเว็บไซต์คุณนั้นต่ำจริงหรือไม่ อันดับแรกให้เข้าไปที่ MOZ Keyword Explorer
  2. หลังจากนั้นให้ทำการค้นหา Keyword ที่ต้องการทำอันดับ เช่น คุณทำเว็บไซต์ด้านการตลาดออนไลน์ คุณก็อาจจะโฟกัสที่คำว่า ทำ SEO แล้วก็เลือกประเทศและภาษา และคลิก Analyze
ควรทำอย่างไรดีหากค่า DA PA ต่ำ
  1. หลังจากนั้นจะปรากฏผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่ทำการค้นหาขึ้นมา หากคุณต้องการตรวจสอบค่า DA/PA ของคู่แข่งให้ดูเฉพาะในฝั่ง SERP Analysis จะเห็นรายชื่อเว็บไซต์ที่ใช้ Keyword คล้ายกัน ซึ่งจะมีค่า DA/PA ของแต่ละเว็บไซต์ขึ้นมาด้วย
ในการเลือกคู่แข่งนั้นจะต้องดูขนาดของเว็บไซต์ ค่า DA ที่ใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของคุณ
  1. ในการเลือกคู่แข่งนั้นจะต้องดูขนาดของเว็บไซต์ ค่า DA ที่ใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของคุณ และปัจจัยอื่นๆ โดยปัจจัยอื่นๆ ที่ว่านี้ มีหลายอย่าง เช่น Backlink ดูว่าเว็บไซต์คู่แข่งได้ Backlink ที่มีคุณภาพมาก-น้อยแค่ไหน, คุณภาพของคอนเทนต์ว่า คู่แข่งเขียนคอนเทนต์เป็นอย่างไร มีโอกาสที่จะชนะได้หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยต่างๆ ควรจะมีความใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะทำการแข่งขันได้ด้วย
  2. ตรวจสอบในฝั่งเว็บไซต์ของคุณเองด้วยว่า มีจุดไหนที่สามารถทำ SEO Audit ได้บ้าง และทำการแก้ไขให้ดีขึ้น 

วิธีเพิ่มค่า DA/PA 

สำหรับวิธีการเพิ่มค่า DA/PA ให้เพิ่มมากขึ้น สามารถทำได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น

  • การทำ Backlink ที่มีคุณภาพกลับมายังเว็บไซต์ของคุณ โดยควรที่จะเลือกเว็บไซต์ที่มีค่า DA/PA สูง และควรเป็น Backlink ที่มาจากเว็บที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณด้วย แต่นอกจากค่า DA/PA แล้ว ต้องอย่าลืมดูว่า Referring Domain ที่เว็บไซต์เหล่านั้นได้มีมากน้อยเท่าไหร่ (เพราะถ้า Referring Domain มีน้อย แต่เว็บไซต์เหล่านั้นกลับมี Backlink จำนวนมาก จะแสดงถึงความไม่เป็นธรรมชาติ และถูกแบนจาก Google ได้)
  • ทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ โดยทำเป็น Original Content ที่ไม่ซ้ำใคร มีการทำ Internal Link และ External Link ในบทความอย่างเหมาะสม ซึ่งการทำคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยทำให้ได้รับ Backlink ที่ดีกลับมายังเว็บไซต์ได้ง่ายมากขึ้นด้วย
  • ทำ SEO Audit บ่อยๆ เพื่อใ​​ห้สามารถกลับมาติดอันดับบน Google โดยการปรับปรุง Keyword ให้มีคุณภาพมากขึ้น, แก้ Title และ Description ให้ถูกใจ Google, แก้ Heading Tag ให้มีประสิทธิภาพ, ทำ Alt Text ในรูปภาพ เป็นต้น

DA/PA ยิ่งสูงยิ่งทำให้ติดอันดับง่ายจริงไหม

ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะในบาง Keyword ที่ไม่ได้มีการแข่งขันสูงมากนัก เช่น เป็นธุรกิจที่ Niche มากๆ เว็บไซต์ก็ไม่จเป็นต้องพยายามสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการมีค่า DA/PA มากขนาดนั้นก็สามารถทำให้ติด Keyword นั้นๆ แต่ถ้าหากคุณอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง Keyword ที่ต้องการทำอันดับมีคู่แข่งจำนวนมาก และมีความต้องการใช้เว็บไซต์ติดอันดับ การทำให้ DA/PA ยิ่งสูงก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยทำให้ Google เห็นว่า เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพมากพอสำหรับการจัดอันดับขึ้นหน้าแรกมากยิ่งขึ้น

สรุป

DA/PA คือ หัวใจสำคัญสำหรับการวัดคุณภาพของเว็บไซต์ให้สามารถทำการแข่งขันในอันดับที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นสิ่งที่ Technical SEO ต้องทำโดยที่ใช้ SEO Tools ในการตรวจสอบความสามารถของเว็บไซต์อย่างละเอียด ซึ่งมีให้เลือกใช้ได้หลายเครื่องมือ เช่น MOZ, Ahrefs, Semrush เป็นต้น และเมื่อทำการตรวจสอบแล้วก็ควรที่จะทำการปรับปรุงให้ค่า DA/PA ดีมากยิ่งขึ้นโดยการทำ SEO Audit เช่น การทำ Backlink เพื่อส่งค่าพลังจากเว็บไซต์อื่นที่มีค่า DA/PA และ SEO KPIs ที่ดี รวมถึงมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ เพื่อเสริมให้ค่า DA/PA เว็บไซต์คุณดีขึ้นด้วย ฯลฯ

อ้างอิง

https://moz.com/learn/seo/domain-authority
https://explorekeywords.com/what-is-the-significance-of-da-and-pa-scores-in-seo/
https://smallseotools.com/blog/domain-authority-vs-page-authority/
https://seospyder.io/domain-authority-and-page-authority-checker/

หากต้องการหาบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพสามารถเข้ามาอ่านข้อมูลได้ดังนี้

ผู้เขียน

Picture of NerdOptimize Team
NerdOptimize Team
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

วิธีทำ seo

วิธีทำ SEO สำหรับมือใหม่ ทำยังไงให้ติดหน้าแรก Google อัปเดตล่าสุด

เปิดวิธีทำ SEO แบบจับมือทำ ต้องรู้อะไรบ้าง ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้แบบ Step by step รับรองว่า ช่วยทำให้คุณเข้าใจ และลงมือทำ SEO ด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ขั้นแรก

อ่านบทความ ➝

SEO Case Study : ธุรกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ เติบโตขึ้น 149.55%

โจทย์ที่ได้รับและความท้าท้ายของโปรเจ็กต์นี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าการทำ SEO ในหมวดหมู่สุขภาพหรือการแพทย์นั้น ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญ และมีความยากค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นหมวดที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คน ยิ่งลูกค้าเป็นโรงพยาบาลที่เป็นเครือระดับประเทศ ทุกขั้นตอนในการทำ SEO จึงต้องอาศัยการวางกลยุทธ์ที่ต้องละเอียด รอบคอบ และเห็นผลได้จริง  โดยจาก

อ่านบทความ ➝

Google Data Studio คืออะไร ? บทความนี้จะมาอธิบายทุกแง่มุมว่ามีข้อดีอะไรบ้าง

ชวนใช้งาน Google Data Studio เครื่องมือแปลงข้อมูลเชิงสถิติออกมาเป็นกราฟและแผนภูมิเพื่อทำ Report ได้ง่ายภายในไม่กี่นาที

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top