Home - Analytics - Google Data Studio คืออะไร ? บทความนี้จะมาอธิบายทุกแง่มุมว่ามีข้อดีอะไรบ้าง

Google Data Studio คืออะไร ? บทความนี้จะมาอธิบายทุกแง่มุมว่ามีข้อดีอะไรบ้าง

Google Data Studio คืออะไร ? บทความนี้จะมาอธิบายทุกแง่มุมว่ามีข้อดีอะไรบ้าง

ในยุคที่การทำธุรกิจสู้กันด้วย Data การทำรายงาน (Report) สำคัญขนาดไหน และ ‘Google Data Studio’ คืออะไร ? วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือที่ทั้ง ‘ฟรีและดี’ ให้รู้จักกัน

ก่อนจะทำความรู้จักกับเครื่องมือที่ชื่อว่า Google Data Studio เราอยากให้คุณนึกภาพลิ้นชักที่เต็มไปด้วยเอกสารและตัวเลขกระจัดกระจายเสียก่อน

กว่าจะดึงตัวเลขเหล่านั้นมาทำ Report เสนอลูกค้าและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธุรกิจก็เลือดตาแทบกระเด็น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม ? ตัวเลขจากข้อมูลต่างที่มาและรายละเอียดยิบย่อยดังกล่าว จำเป็นต้องถูกจัดระเบียบและแปลงเป็นกราฟที่นำเสนอแล้วเข้าใจง่าย สร้างความน่าสนใจในที่ประชุม เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

Google Data Studio คืออะไร

คลายข้อสงสัย Google Data Studio คืออะไร ?

Google Data Studio หรือบางคนเรียก GDS คือเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลดิบทั้งหมดที่คุณมีจากหลายแหล่งที่มา (เหมือนกับดึงไฟล์จากเอกสารหลายลิ้นชักมากองตรงหน้า) จากนั้นจึงจัดแสดงผลตัวเลขที่คุณเลือกให้เป็นข้อมูลชุดเดียว ผ่านการแปลงจากตัวเลขเป็นแผนภูมิรูปแบบต่างๆ มีการดีไซน์หน้า Presentation ให้สวยงาม อ่านง่าย สบายตา ปิดท้ายด้วยการแชร์ Report นี้ไปยังเพื่อนร่วมทีมและลูกค้าได้


สองฟันเฟืองที่ขับเคลื่อน Google Data Studio

ก่อนอื่นเลยต้องมี Google Account หรือ Gmail เสียก่อน จากนั้นจึงล็อคอินเข้าใช้งานผ่าน datastudio.google.com และเข้าสู่การใช้งานแบบง่ายๆ ขอเพียงเข้าใจสองฟันเฟืองสำคัญของเครื่องมือ ดังนี้

Google Data Studio สามารถ Connect ได้หลายแหล่ง
Data Sources

ฟันเฟืองชิ้นแรกของ Data Studio คือ Data Sources

คือ คลังเก็บข้อมูลที่ถูกดึงมาจากแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งนี้ Google พัฒนาระบบให้สามารถดึงมาได้เกือบทุกแพลตฟอร์มแล้ว ฉะนั้น Data Sources จึงเปรียบกับกระดานโล่งๆ ที่มี Post-it หลากสีซึ่งเป็นตัวแทนจากข้อมูลหลากที่มา มาแปะบนกระดานเต็มไปหมด เมื่อต้องการใช้งาน อยากนำข้อมูลไหนไปวิเคราะห์ต่อ ก็แค่มาที่กระดานนี้และดึง Post-it ไปใช้งาน

โดย Google Data Studio จะใช้เครื่องมือชื่อว่า Connectors เป็นตัวดึงข้อมูลแบบ Real Time ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics*, Google Ads, หรือตัวเลขจาก Facebook Ads ฯลฯ รวมๆ แล้วระบบสามารถดึงข้อมูลดิบได้มากกว่า 800 แหล่งที่มา รองรับการใช้งานของนักการตลอดแบบครอบคลุมแทบทุกแพลตฟอร์ม

ตัวอย่าง report ของ google data studio
ตัวอย่าง Report ของ Data Studio

ฟันเฟืองชิ้นที่สองของ Data Studio คือ Report

ขั้นตอนต่อมาคือ ดึงข้อมูลจาก Data Sources มาทำ Report อธิบายง่ายๆ เลยคือ ดึง Post-it ข้อมูลที่มีในคลังมาใช้งานโดยแปรสภาพเป็นกราฟแสดงผล

หลักการคือ ตั้งค่าข้อมูลให้ตรงกับโจทย์ที่คุณต้องการ คิดแบบง่ายๆ เลยว่า “อยากเห็นข้อมูลอะไร?” (Dimensions) และอยากโชว์ตัวเลขอะไรบ้าง ? (Metrics) ทั้งยังมีฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ให้คำนวณตัวเลขที่ซับซ้อนออกมาเป็นสถิติที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลังจากประมวลข้อมูลที่ต้องการแล้ว ก็ถึงขั้นตอนเลือกรูปแบบกราฟเพื่อแสดงข้อมูล อย่าลืมคำนึงถึงความเหมาะสมตามหลักการ Data Visualization ด้วยว่า ข้อมูลรูปแบบนี้ควรใช้กราฟแบบไหน จึงจะได้ Report ที่นำไปใช้งานต่อง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนใครที่ไม่มีไอเดียตกแต่งหน้า Dashboard ให้อ่านง่าย สวยงาม Google Data Studio ยังมีตัวอย่างงานดีไซน์รูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบสำเร็จแล้วให้ดึงไปใช้งานทั้งเทมเพลต ผ่านหัวข้อ Marketing Templates

ตัวอย่าง Template ที่ Google Data Studio มีให้
ตัวอย่าง Template ที่ Google Data Studio มีให้

สามารถเข้าไปเลือกใช้งานได้ที่ https://datastudio.google.com/gallery?category=marketing

และทาง NerdOptimize เราก็มี Template แจกฟรีที่ Custom แล้วเพื่อง่ายต่อการใช้ในการทำตลาดในประเทศไทย

แจกฟรี Template datastudio
  • GA – Shopping Behavior : เหมาะกับ Website E-com
  • Page – Content – Engagement : เอาไว้ดู Performance ของ โพสใน Facebook เพศไหน Target ไหน Engage กับโพสแบบไหนมากที่สุด
  • Google Shopping – GA ตัวนี้เป็นข้อมูลของ Google ที่แอดลองดึงมาวิเคราะห์ใส่ Data Studio ดูครับ เอาไปปรับใช้ได้

สามารถรับฟรีได้ที่ https://m.me/nerdoptimize?ref=freetemplate

หลังจากสร้าง Report เรียบร้อยแล้วสามารถกดแบ่งปันชิ้นงานนี้ไปยังทีมงานและลูกค้าได้ทันที วิธีการก็ง่ายแสนง่ายเหมือนกับแชร์ไฟล์ Google Sheet นั่นเอง


ทำไม Google Data Studio จึงตอบโจทย์นักการตลาด

  • เพราะ Google Data Studio นำข้อมูลทั้งหมดไปใช้งานอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด : ไม่ว่าจะมาจากแหล่งข้อมูลใดก็ตาม ระบบจะขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเพื่อนำมาคำนวณและจัดแสดงข้อมูลอย่างง่ายดาย
  • เพราะ Google Data Studio คิดแทนคุณแบบเสร็จสรรพ : ระบบจะแปลงข้อมูลให้เป็นกราฟรูปแบบต่างๆ ที่จำเป็นในการสร้าง Report ทั้งยังมี Dashboard ที่อ่านง่ายสบายตา สามารถแปลงข้อมูลตัวเลขเป็นกราฟได้ทันทีอย่างไม่ต้องมานั่งดราฟทีละจุด
  • เพราะ Google Data Studio นำเสนอตามโจทย์ที่ต้องการ : คุณสามารถสร้างแผนภูมิและกราฟที่มีประสิทธิภาพ โดยปรับแต่งทุกอย่างตั้งแต่เฉดสี เพิ่มรูปร่าง แทรกรูปภาพ ทั้งยังแบ่งปัน Dashboard ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น
  • เพราะ Google Data Studio รู้ว่าผู้ใช้งานต้องทำงานเป็นทีม : ดังนั้นจึงสามารถเชิญเพื่อนเข้ามาแก้ไข เพิ่มความคิดเห็นใน Report ทำงานบน Dashboard เดียวกันแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญยังกำหนดว่าใครสามารถเข้าถึงชิ้นงานได้ ผ่านการให้สิทธิ์เข้าถึง ปิดท้ายความเจ๋งคือบันทึกการทำงานทั้งหมดแบบอัติโนมัติ ไม่ต้องกลัวว่างานจะหายอีกต่อไป

สุดท้าย! บทเรียน Google Data Studio ที่มือใหม่ห้ามพลาด

นอกจากนี้ Google เขาใจดีมีบทเรียนออนไลน์แบบภาษาอังกฤษให้ลงเรียนฟรีผ่านทาง Google Analytics Academy ซึ่งหลังจากเข้าเรียนคุณสามารถได้ Certificate การันตีจาก Google ส่วนตัวเราลงเรียนจนจบ และได้ Certificate หน้าตาแบบนี้ด้วยเช่นกัน

ตัวอย่าง google data studio certification

อันนี้ของแอดมินเอง ช่วยให้คุณสามารถเอาไปยื่นเป็นพอร์ทสมัครงานหรือใช้เพิ่มความน่าเชื่อถือได้ หรือจะเข้าไปดูที่ link ก็ได้นะครับ https://analytics.google.com/analytics/academy/certificate/H2_sfCjeSjii5FXoY4yeJQ

สุดท้ายเราหวังว่า Google Data Studio และบทความนี้จะช่วยให้เหล่านักการตลาดประหยัดเวลาทำ Report และเพิ่มเวลาให้คุณคิดต่อยอดสร้างแคมเปญการตลาดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อไปนะครับ 🙂

ผู้เขียน

Picture of NerdOptimize Team
NerdOptimize Team
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

keyword density คืออะไร

เจาะลึก keyword density คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO 2024

Keyword density คือ เป็นศัพท์ทางเทคนิค ที่ถูกนักทำ SEO ตั้งขึ้นมาครับ ซึ่งความหมายของมัน ก็คือ การกระจายตัวของ Keyword บนหน้าเว็บไซต์ นั่นเองครับ

อ่านบทความ ➝

Title Tag คืออะไร เขียนอย่างไรให้ถูกใจ Google ดูวิธีทำแบบละเอียด!

Title Tag คืออะไร ทำไมต้องทำ และจะเขียน Title Tag ให้ดีต่อการทำ SEO มาดูตัวอย่างการแสดงผล วิธีการเขียน ไปจนถึงข้อควรระวังในการเขียน Title Tag ได้ที่นี่

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top