Home - Marketing - Marketing Funnel คืออะไร ? กลยุทธ์ทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพและเป็นขั้นเป็นตอน

Marketing Funnel คืออะไร ? กลยุทธ์ทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพและเป็นขั้นเป็นตอน

Marketing Funnel คืออะไร

ทำไม ไม่ทำ Marketing Funnel !!! เคยเป็นกันไหมครับ ลง Budget ไปมากมาย เพื่อโปรโมตแบรนด์หรือยิงโฆษณาไปยัง Target ที่คิดว่าใช่แน่ ๆ แต่สุดท้ายกลับ Convert มาเป็นลูกค้าตัวจริงได้ไม่เท่าไหร่ หรือถึงได้กำไรคืนมาก็ไม่คุ้มทุนอยู่ดี 

นั่นเป็นเพราะเมื่อเริ่มลงมือทำการตลาดออนไลน์ เรารู้ว่าจะขาย ‘อะไร’ หรือลูกค้าเป็น ‘ใคร’ แต่กลับไม่รู้ว่าจะเข้าหา ‘อย่างไร’ ด้วย ‘วิธีไหน’ ที่เหมาะสม ซึ่งประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับทฤษฎี Marketing Funnel เต็ม ๆ 

มาดูกันครับว่า Marketing Funnel เป็นอย่างไร เพื่อให้คุณทำความใจและรู้วิธีเข้าหาลูกค้าได้ถูกที่ ถูกเวลา แถมวางแผนทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

Marketing Funnel คืออะไร ? ทำไมถึงสำคัญ

ทุกครั้งที่ทำแคมเปญขึ้นมาสักแคมเปญหนึ่ง แน่นอนว่าพวกคุณมี Audiences และ Goal ของแคมเปญนั้นอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะครับว่าน้อยคนจะรู้วิธีไปให้ถึงเป้่าหมายของแคมเปญนั้นได้ เพราะกว่าจะไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของการ ‘ปิดดีล’ ได้สำเร็จนั้น มีหลายขั้นตอน 

ลองนึกถึงเวลาที่คุณจะซื้อรองเท้าสักคู่ คุณคงเสิร์ชหาในกูเกิ้ล คลิกเข้าเว็บไซต์ที่ขึ้นผลการค้นหามาอันดับแรก ๆ ยิ่งถ้าเป็นเว็บประเภท eCommerce ยิ่งเข้าทาง เพราะจะได้เปรียบเทียบราคาและสั่งซื้อทันที เมื่อเลือกของที่ต้องการได้เรียบร้อย ก็กด check out กรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อจ่ายเงิน บางที่ก็ต้องใส่รหัสยืนยันอีกรอบ เห็นไหมครับ กว่าจะไปถึงขั้นที่เรียกว่า ‘ปิดดีล’ ได้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนหลายอย่าง และบางครั้งคุณอาจกดปิดหน้าเว็บไซต์ไปเลยก็ได้ หากพบว่าเว็บโหลดช้า ใช้งานยาก งงหน้าตาเว็บ และต่าง ๆ อีกมากมาย

Marketing Funnel จะทำให้คุณวางขั้นตอนทำการตลาดที่ ‘ปิดดีล’ ได้ง่ายขึ้น


ทำความรู้จัก Marketing Funnel

Marketing Funnel คือ ขั้นตอนวางแผนทำการตลาดที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายตลอดจนสร้างยอดขาย เก็บ leads หรืออะไรก็ตามที่คุณตั้งใจให้เกิด Conversion โดย Marketing Funnel แต่ละขั้นตอน จะช่วยดึงดูด โน้มน้าว และทำให้ว่าที่ลูกค้าของคุณ Commit สิ่งที่คุณต้องการได้อย่างเป็นระบบแบบแผน

นอกจากนี้ Funnel หรือวิถีทำการตลาดย่อมมุ่งหา ‘ลูกค้าตัวจริง’ เท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณอาจจะมี Target หรือกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว แต่นั่นก็ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะการทำการตลาดแต่ละขั้นตอนจะคัดเฉพาะคนที่ใกล้เคียงหรือ ‘ใช่’ ที่สุดจริง ๆ

ลองมาดูรูป Funnel ข้างล่างนี้กันครับ

Marketing Funnel Image

ที่มา: Pixabay

อย่างที่บอกไปครับว่า Marketing Funnel จะคัดเอาคนที่ใช่ที่สุดมาเท่านั้น รูป Funnel ข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นถึงวิถีทำการตลาดที่คล้ายกรวยซึ่งกรองเอาแต่น้ำบริสุทธิ์มาให้ในตอนสุดท้าย เริ่มแรกคุณอาจจะได้กลุ่มเป้าหมายลักษณะกว้างเป็นจำนวนมาก ขั้นต่อ ๆ ไป ก็จะคัดเอาคนที่เข้าข่ายหรือใกล้เคียง ‘ว่าที่ลูกค้า’ มากที่สุดให้เหลือน้อยลงเรื่ิอย ๆ จนมาถึงขั้นสุดท้ายที่คุณจะได้ ‘ลูกค้า’ ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ โดย Funnel แต่ละขั้นก็มีรายละเอียดซึ่งจะอธิบายในหัวข้อต่อไปครับ


Marketing Funnel สำคัญต่อการตลาดอย่างไร ?

ช่วยวางแผน Customer Journey ได้ง่าย แบรนด์และนักการตลาดจะคิดแคมเปญ โปรโมชั่น หรือกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้ว่าขั้นตอนไหนต้องทำอะไร จัดสรรงบประมาณในแต่ละกิจกรรมเท่าไหร่ เพราะคุณมองเห็นภาพรวมของแผนการตลาดแต่ละขั้นอย่างชัดเจน รวมทั้งรู้ว่าว่าที่ลูกค้าจะตัดสินใจ Commit เพื่อสร้าง Conversion ได้ตอนไหน

อ่านต่อ : Customer Journey คือ ? แล้วจะช่วยให้คุณวางแผนโฆษณาได้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง !!

ประยุกต์ใช้กับเป้าหมายธุรกิจได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณวาง Conversion ของแคมเปญไว้ว่าอยากให้ลูกค้ากดลงทะเบียน โทรจอง กดสั่งซื้อสินค้า ดาวน์โหลดอีบุ๊ก หรืออื่น ๆ อีกมากมาย Marketing Funnel ก็จำเป็นครับ โดยจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าถึงว่าที่ลูกค้าง่ายขึ้น และเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าตัวจริงได้ในที่สุด

วัดผลและปรับใช้กลยุทธ์ได้จริง นอกจากรู้วิธีเข้าหาลูกค้าแล้ว ก็ต้องรู้ด้วยว่าลูกค้าหายไปไหน ทำไมถึงไม่เกิด Conversion วิธี Marketing Funnel จะช่วยติดตามข้อมูลตามโครงสร้าง Funnel ที่วางไว้ วิเคราะห์ผลลัพธ์ของแคมเปญแบบเห็นได้จริง ทำให้คุณมองเห็นว่าจุดไหนที่ว่าที่ลูกค้่าหลุดจาก Funnel รวมทั้งสามารถคิดแผนปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าคุณได้


Marketing Funnel มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง ?

Marketing Funnel ก็เปรียบเหมืิอนการสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์ครับ ต้องเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป หล่อเลี้ยงให้เกิดความน่าเชื่อถือ แล้วจึงตกลงตัดสินใจ ‘ซื้อ’ ในตอนสุดท้าย มาดูกันครับว่า Marketing Funnel มีขั้นตอนอะไรบ้าง

ตัวอย่าง Marketing Funnel

ที่มา: Ahrefs

Funnel ในขั้น Awareness

ขั้นแรกของการเข้าหาลูกค้าคือต้องทำให้เขา ‘รู้จัก’ คุณ แต่ใช่ว่าจะโปรโมตหรือโฆษณาอะไรไปก็ได้นะครับ เพราะคุณต้องทำให้พวกเขายอมเปิดรับ ทำความรู้จักแบรนด์ของคุณในฐานะคนที่เข้ามาแก้ปัญหาของเขาได้ ไม่ว่าคุณจะยิง Ads เข้าไปหาโดยตรง หรือนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์เมื่อเขาต้องการค้นหาคำตอบของเรื่องนั้น ๆ

แบรนด์หรือนักการตลาดต้องหา Pain Point กลุ่มเป้าหมายให้ได้ ทำให้พวกเขาเห็นว่าเรื่องดังกล่่าวสำคัญอย่างไร ทำไมต้องได้รับการแก้ไข รวมทั้งโยงจุดขายของแบรนด์ตัวเองเข้ากับปัญหานั้น ชูให้เห็นว่าถ้าลูกค้าใช้สินค้าหรือบริการของคุณแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ชีวิตดีขึ้นมาได้แค่ไหน

Funnel ในขั้น Interest

ขั้นต่อมาของการเข้าหาลูกค้า คือทำให้พวกเขาสนใจและอยากติดตามหรือทำความรู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้น หากกลุ่มเป้าหมายรู้สึกสนใจแบรนด์ของคุณแล้ว จากที่เคยเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการอย่างกว้าง ๆ พวกเขาจะเริ่มเจาะจงรายละเอียดมากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งที่เสิร์ชหานั้นก็มักเกี่ยวโยงกับแบรนด์คุณด้วยครับ 

เมื่อกลุ่มเป้าหมายรู้แล้วว่าตัวเองกำลังมีปัญหาและต้องการแก้ไขปัญหานั้น ซ้ำยังพอรู้ว่า ‘อะไร’ หรือวิธีไหนที่จะช่วยพวกเขาได้ หน้าที่ของแบรนด์และนักการตลาดคือนำเสนอตัวเองเข้ามาแก้ปัญหาให้ ทำให้เห็นว่าสินค้าหรือบริการที่ขายนั้นตอบโจทย์และช่วยพวกเขาได้อย่างไร

Funnel ในขั้น Consideration

เมื่อกลุ่มเป้าหมายรู้จักว่าคุณคือใคร ทำอะไร และช่วยแก้ปัญหาพวกเขาได้อย่างไรแล้วนั้น นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะ ‘ซื้อ’ กลายมาเป็นลูกค้าตัวจริงของคุณทันทีนะครับ อย่าลืมว่ามีแบรนด์อีกมากมายที่ทำธุรกิจเดียวกันกับคุณ แก้ปัญหาที่คุณเคลมว่าทำได้เหมือนกับคุณด้วย พวกเขาจึงต้องคิด ทบทวน เปรียบเทียบซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนจะตัดสินใจจริง ๆ

เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดจึงต้องคิดหากลยุทธ์ต่าง ๆ แบบจัดเต็ม เพื่อโน้มน้าว จูงใจ และทำให้ว่าที่ลูกค้าของคุณเชื่อให้ได้ว่า คุณคือ ‘ตัวจริง’ คุณสามารถแก้ปัญหาให้ได้ พวกเขาจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Funnel ในขั้น Conversion

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่แบรนด์รักมากที่สุด ก็คือการสร้าง Conversion หรือ ‘ปิดดีล’ นั่นเอง แม้จะดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ ก็ต้องอาศัยลูกเล่นกันสักหน่อยครับ โจทย์ของคุณในขั้นนี้คือตัดบทจบให้ได้ ซึ่งต้องเป็นการหาทางลงที่จบสวยด้วยนะ คุณต้องกระตุ้นให้ว่าที่ลูกค้ายอม Commit โดยอาจหาเหตุผลหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ มาช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ชี้ชัดไปเลยว่าถ้าลูกค้าเลือกจะได้อะไร แล้วถ้าไม่ซื้อตอนนี้จะเสียประโยชน์อะไร


เทคนิคทำ Marketing Funnel สำหรับนักการตลาดมือใหม่

1. Awareness – วางช่องทางโปรโมตแบรนด์

ใครที่พอรู้จักและเข้าใจหลักการ Marketing Funnel แล้ว แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เรามีเทคนิคง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นทำ Marketing Funnel มาฝากกันครับ นักการตลาดสายแข็ง มือโปร จะลองนำเทคนิคนี้ไปประยุกต์ใช้ด้วยก็ได้นะครับ เพราะเทคนิคที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องพื้นฐานของการทำการตลาดที่เวิร์กอยู่ โดยจะเล่าถึงเทคนิคแต่ละแบบไล่ตาม Funnel ไปเลย

Social Media

ที่มา: Pixabay

Google ตัวช่วยทุกเรื่องที่เราต้องการ ใคร ๆ ก็สามารถถูกค้นเจอได้ แต่ถ้าอยากให้ผลการค้นหาติดอันดับ คุณจำเป็นต้องวางแผนเรื่อง Keyword ไม่ว่าคุณจะลงเงินทำ Google Ads หรือสร้าง Organic Traffic ด้วยวิธี SEO การวางแผนคีย์เวิร์ดถือเป็นเรื่องจำเป็นครับ 

ยิ่งหากคุณกำลังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และอยากสร้างฐานลูกค้าไว้จริง ๆ ควรลงทุนลงแรงทำคอนเทนต์ดี ๆ ให้ติดอันดับ SEO ไปเลย เพราะจะช่วยสร้างโอกาสให้กลุ่มเป้่าหมายพบคุณ เข้ามาดู เข้ามาเสพเรื่องราวแบรนด์คุณอยู่เรื่อย ๆ ที่สำคัญ เดี๋ยวนี้มี SEO Tools ฟรี ให้เลือกใช้มากมายด้วยครับ

YouTube วิดีโอถือเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่คนนิยมเสพมาก แต่การทำคอนเทนต์วิดีโอสร้าง Awareness ลงยูทูปนั้น ไม่ได้มีแค่วางสตอรี่โดน ๆ หรือโปรดักชั่นแจ่ม ๆ เท่านั้น หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ Keyword อีกนั่นแหละครับ หากคุณเลือกคีย์เวิร์ดกว้าง ๆ มี Volum การค้นหาสูง ย่อมมีโอกาสถูกค้นเจอได้สูงเช่นกัน

นอกจากนี้ การทำคอนเทนต์แบบอิงคีย์เวิร์ดยังช่วยให้คุณนำเสนอประเด็นที่คนค้นหาได้อย่างตรงจุด คุณอาจวิเคราะห์จากคีย์เวิร์ดนั้นว่าคนที่ค้นหาคำดังกล่่าวกำลังมองหาอะไร คอนเทนต์อื่นที่ใช้คีย์เวิร์ดนี้นำเสนออะไรบ้าง แล้วยังขาดอะไร รวมทั้งถ่ายทอดออกมาแบบไหนให้ดึงดูดผู้คนได้มากกว่าของเดิม

Online Community การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลที่สนใจกัน หรือปรึกษา ถาม-ตอบเรื่องราวต่าง ๆ ได้แบบตัวต่อตัว ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย รวมทั้งทำให้พวกเขารู้จักกันมากขึ้น การสร้างกรุ๊ปหรือกลุ่มออนไลน์ในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ช่วยให้คุณมองเห็นได้ชัดว่าว่าที่ลูกค้าของเราเป็นคนอย่างไร จะเข้าหาอย่างไร สื่อสารด้วยท่าทีไหนถึงจะเวิร์ก

นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างการรับรู้ตัวตนของแบรนด์เข้ากับสินค้าและบริการที่พวกเขามองหาได้ เช่น กรุ๊ป Thai Content Creator ในเฟซบุ๊ก ซึ่งก่อตั้งโดยทีมงาน Rainmaker ที่รวมคนสายคอนเทนต์ให้มาร่วมแบ่งปันเทคนิคหรือคอนเทนต์ดี ๆ นั้น ก็เป็นช่องทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์คอนเทนต์ของแบรนด์เองด้วย หรือกรุ๊ป STEP LIFE RUNNER ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้ พูดคุยเรื่องวิ่ง รวมทั้งโปรโมต Podcast และอีเวนท์งานวิ่ง STEP LIFE ซึ่งจัดขึ้นโดย The Standard ก็สะท้อนตัวตนของสื่อหัวนี้ว่ามุ่งนำเสนอเรื่องราวที่เป็นประโยชน์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตผู้คนในปัจจุบัน

Influencer นอกจากหาลูกค้าเองแล้ว การขยายฐานลูกค้่าไปยังแบรนด์อื่นก็น่าสนใจไม่น้อย Influencer ได้ถือฐานลูกค้าที่ว่าไว้แล้ว โดยการเลือกคนดังมาช่วยโปรโมตแบรนด์นั้น จำเป็นต้องเลือกคนที่มีผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ รวมทั้งต้องเป็นคนที่รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่เราจะโปรโมตด้วย

ที่สำคัญ คอนเทนต์ที่ทำนั้นต้องมีคุณค่า ตรงประเด็น และสื่อสารในเรื่องที่กลุ่มคนเหล่านั้นสนใจหรืออยากเสพ การเลือกช่องทางโปรโมตด้วย Influencer ถึงจะประสบความสำเร็จ

2. Interest – สร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ

คอนเทนต์ที่ดีต้องฮุคคนได้ โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์เรามักใส่ใจเรื่องเกี่ยวกับตัวเองก่อนเสมอ ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขามองหาด้วยแล้ว ไม่ยากเลยที่จะดึงให้พวกเขามาสนใจ คุณอาจเริ่มต้นทำคอนเทนต์คุณภาพแบบง่าย ๆ อย่างนี้ก่อนก็ได้ครับ

สร้างสรรค์ความรู้ความบันเทิง หลายคนคงเคยได้ยิน Content Marketing กันมาใช่ไหมครับ การนำเสนอคอนเทนต์ที่ไม่ได้มุ่งโฆษณาสินค้าหรือบริการ เรียกง่าย ๆ คือไม่ขายจ๋า แต่เป็นคอนเทนต์ที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อคนเสพ จะช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ทำให้ลูกค้ามาซื้อของ รวมทั้งเป็น Brand Royalty อีกด้วย คุณอาจเริ่มทำ Research ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร และหยิบเรื่องนั้นขึ้นมาพูดในเชิงให้ความรู้ อธิบายคำตอบในสิ่งที่พวกเขามองหา แต่ไม่ลืมเนียน ๆ โฆษณาไปในตัวว่าสินค้าหรือบริการของคุณตอบโจทย์พวกเขาได้ง่ายขึ้นกว่าอย่างไรด้วย

เล่าในสิ่งที่เขาอยากฟัง ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากขาย อย่างที่บอกไปว่ามนุษย์เรามักสนใจเรื่องตัวเองก่อน คุณจึงไม่ควรอวดอ้างสรรพคุณของสินค้าหรือบริการตัวเองว่าดีอย่างไร แต่ต้องอธิบายให้เขารับรู้ได้ว่าจะแก้ปัญหาพวกเขาได้อย่างไร เปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง และพวกเขาจะได้รับอะไรเมื่อเลือกแบรนด์ของคุณ

หล่อเลี้ยงให้พวกเขาติดตาม นอกเหนือจากสร้างช่องทางการติดตามที่เข้าถึงได้ง่ายแล้ว คุณควรอัปเดตคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งนำเสนอคอนเทนต์ที่ถูกต้อง เป็นความจริง เพื่อแสดงให้เห็นความตั้งใจและจริงใจในการเข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ รวมทั้งอยากช่วยแก้ปัญหาพวกเขา ไม่ได้มุ่งหวังขายของอย่างเดียว

3. Consideration – เสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์

ไม่ใช่แค่แบรนด์คุณแบรนด์เดียวที่แก้ปัญหาเดียวกันให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ นั่นหมายความว่าคุณอาจเป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกของแบรนด์อีกมากมาย การทำให้พวกเขาหันมาเลือกคุณนั้น ต้องอาศัยกลยุทธ์โน้มน้าวใจพอสมควร ก่อนอื่นคุณต้องหาให้ได้ว่า ‘จุดเด่น’ ที่จะนำมาขายได้ของคุณคืออะไร จุดเด่นที่ว่านั้นต้องเป็นสิ่งที่

  • แบรนด์อื่นขาดหรือไม่โดดเด่นด้านนั้น
  • แบรนด์คุณเชี่ยวชาญและรู้จริงที่สุด

ลักษณะทั้งสองนี้จะช่วยทำให้แบรนด์ของคุณมี Signature มากขึ้น และถ้าจุดเด่นนั้นใกล้เคียงหรือตรงความต้องการกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ คุณก็มีสิทธิถูกเลือกเพิ่มขึ้นด้วยนอกจากนี้ การทำ Messenger Marketing & Chatbot ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกรอง Potential Customer หรือว่าที่ลูกค้าที่เวิร์กเหมือนกัน เพราะคุณสามารถออกแบบ Funnel ส่งคอนเทนต์ให้กลุ่มเป้าหมายที่สนใจและมีแนวโน้มปิดการขายได้โดยเฉพาะ รวมทั้งคัดคนที่ไม่ได้สนใจคอนเทนต์ของแบรนด์ออกไปเอง

การทำ Messenger Marketing ทาง NerdOptimize ใช้ของ Manychat อยู่เพราะว่าเป็นตัวที่นิยมันดับต้นๆของโลกตอนนี้และหน้าตา UI ก็ง่ายต่อการออกแบบ Flow ด้วย > [Case Study] Manychat คืออะไร? รวมเทคนิคการใช้ Chatbot มาทำการตลาด 

4. Conversion – กระตุ้นให้ลูกค้า Commit

นอกจากได้รับประโยชน์หรือความพึงพอใจจากการใช้สินค้าหรือบริการแล้ว สิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้า Commit นั้น ก็คือสิ่งที่พวกเขาจะได้ ‘นอกเหนือ’ จากเดิม คุณต้องทำให้พวกเขารู้สึก ‘คุ้มค่า’ ที่จะเสียเงินสั่งซื้ิอของหรือเสียเวลาลงทะเบียนแลกข้อมูลสำคัญกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มค่าด้านมูลค่าอย่างการให้ดีล ส่วนลด หรือโปรโมชั่นที่ถูกลงกว่าเดิม หรือจะเป็นความคุ้มค่าทางความรู้สึก อย่างข้อเสนอทดลองใช้ฟรี หรือระยะเวลาหมดเขต

Upsell ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่น่าสนใจ คุณจะเพิ่มราคาของสินค้าหรือบริการให้มากกว่าเดิมได้ โดยมอบสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับเพิ่ม และรู้สึกคุ้มค่าที่จะเสียเงินมากขึ้นด้วย ถ้านึกไม่ออก ลองนึกถึงเวลาคุณไปกินอาหารที่ร้านฟาสต์ฟู้ดนะครับ คุณเลือกสั่งอาหารชุด A ซึ่งมีไก่ทอด เบอร์เกอร์ และน้ำอัดลม ราคา 100 บาท แต่ถ้าคุณเพิ่มเงินอีก 40 บาท ก็จะได้เฟรนช์ฟรายด์กล่องใหญ่มาทานเพิ่มด้วย ถึงอย่างนั้น ก็ต้องดูด้วยว่าข้อเสนอ Upsell นั้น ตอบโจทย์ความต้องการหรือไม่นะครับ


ทำ Marketing Funnel อย่างไร? ให้ได้ผลตอบลัพธ์ดีที่สุด

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงอยู่แล้วครับ ไม่ว่าคุณจะวางแผนการตลาดมาดีแค่ไหน ย่อมต้องเกิดโอกาสผิดแผนแน่นอน แต่จะทำอย่างไรให้เสี่ยงผิดแผนหรือเกิดปัญหาน้อยที่สุด นอกจากเดินเกมส์ตาม Funnel ที่วางไว้แล้ว ลองหาตัวช่วยเสริมมาใช้ เพื่อทำให้ Marketing Funnel ของคุณเป็นไปตามเป้าหมายธุรกิจครับ

1. ทำ Retargeting

Conversion ไม่ได้เกิดขึ้นภายในหนเดียวเท่านั้น กลุ่มเป้าหมายอาจให้ความสนใจแบรนด์คุณ เดินตาม Funnel มาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ Convert ทุกรายไป คุณจึงต้องมีแผนสำรองตามไปเก็บว่าที่ลูกค้าเหล่านั้นอีกครั้ง Retargeting จึงเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ โดยวิธีดังกล่าวคือการเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาก่อนแต่ไม่ได้ Convert มาเป็นลูกค้าตัวจริง

การ Retargeting

ตัวอย่างเช่น มีคนคลิกเข้า Banner Ads ลิงก์มาที่หน้าเว็บไซต์คุณ เพราะสนใจโปรโมชั่น แต่สุดท้ายกลับปิดหน้าเว็บไป ไม่ได้กรอกข้อมูลตามที่คุณต้องการให้ Commit แต่หากคุณติดตั้ง JavaScript หรือพิกเซลในหน้าเว็บไซต์นั้น คุณก็จะเก็บรายชื่อพวกเขาสำหรับทำ Retargeting ได้ เพราะเมื่อกลุ่มเป้าหมายคลิกเข้าเว็บคุณ หน้าเบราส์เซอร์ของพวกเขาจะถูก cookies ติดตามไปทุกที่ ไม่ว่าจะเข้าเว็บไซต์ไหน คุณก็สามารถยิง Banner Ads ไปยังกลุ่มเป้าหมายเดิมซ้ำได้ 

สิ่งสำคัญก็คือ ต้องหาให้ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ Commit คอนเทนต์คุณขาดอะไร และกลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร เพื่อจะได้นำไปปรับให้ตอบโจทย์ความต้องการจริงก่อนยิง Retargeting อีกครั้ง

2. เริ่มใช้ Chatbot หรือ Messenger Marketing

แม้กลุ่มเป้าหมายจะตัดสินใจซื้อและกำลังจะกด Call-to-Action แล้ว แต่ว่าที่ลูกค้าของคุณก็อาจหลุด Funnel ไปได้ ในกรณีที่เกิดปัญหาขัดข้องขึ้นมาแล้วไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือแก้ไขทันที หรือแม้คุณจะวางแผนช่องทางโปรโมตไว้ทุกทาง ผลิตคอนเทนต์คุณภาพเต็มที่ ก็อาจ Convert มาเป็นลูกค้าไม่ได้ หากไม่ได้รับการตอบกลับเมื่อแชทถามข้อสงสัยกับแบรนด์โดยตรง

Chatbot คือหนึ่งเครื่องมือที่เข้ามาช่วยคุณจัดการเรื่องเหล่านี้ให้เป็นระบบ โดยส่วนมาก Chatbot จะมีคำสั่ง Automation ให้คุณกำหนดและสร้างชุดคำสั่งอย่างเรื่องการถามตอบประเด็นที่มักถูกถามบ่อยไว้ได้ นอกจากจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ลูกค้าไว้ได้แล้ว ยังช่วยลดภาระงานได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ


เมื่อเริ่มทำแคมเปญหรือสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจสักอย่างหนึ่ง แผนการตลาดที่ดีได้พาคุณไปถึงเป้าหมายครึ่งทางแล้ว การวาง Marketing Funnel อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่สร้างการรับรู้ ดึงดูด โน้มน้าวใจ ตลอดจนปิดการขาย จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายกลายเป็นลูกค้าตัวจริงได้ ที่สำคัญ การใช้กลยุทธ์เสริมหรือเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์อื่นเข้ามาช่วยอย่างเหมาะสม จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิดแผนได้

ผู้เขียน

Picture of NerdOptimize Team
NerdOptimize Team
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

PageRank คืออะไร

PageRank ตัวชี้วัดค่าความสำคัญเว็บไซต์จาก Google ที่คนทำ SEO ต้องรู้จัก!

Google PageRank หรือ PR คืออัลกอริทึมที่ใช้วัดค่าความสำคัญที่ Google ใช้เพื่อจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าการค้นหา (SERPs) เรื่องสำคัญที่นักทำ SEO ทุกคนต้องรู้!

อ่านบทความ ➝
Google Trends คืออะไร

Google Trends คืออะไร พร้อมวิธีใช้เพื่อหาไอเดียทำการตลาดออนไลน์

Google Trends คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง ดูวิธีการใช้ และประโยชน์ของ Google Trend เหมาะสำหรับนักการตลาด คนทำธุรกิจ และคนทำคอนเทนต์มือใหม่

อ่านบทความ ➝
International SEO คืออะไร?

International SEO คืออะไร? เผยทุกขั้นตอนการทำ SEO สำหรับการทำธุรกิจที่ต้องการลูกค้าจากต่างประเทศ

international seo คืออะไร แตกต่างกับการทำ SEO แบบปกติอย่างไร เรียนรู้เทคนิคและขั้นตอนการทำ SEO สำหรับเจาะตลาดต่างประเทศ ฉบับละเอียด

อ่านบทความ ➝
Scroll to Top