ถ้าพูดถึงโปรแกรมหา Keyword คุณจะนึกถึงโปรแกรมอะไรกันบ้างครับ?
หลายคนอาจจะนึกถึง Google keyword planner หรือถ้าเป็นสายทำ SEO จริงจังก็อาจจะเป็น Ahrefs แต่สำหรับใครที่อาจจะเป็นมือใหม่ที่อยากได้ SEO Tool หน้าตาใช้งานง่าย แต่มีฟีเจอร์ครบนอกเหนือจากการหา Keyword เพียงอย่างเดียว บทความนี้ผมขอแนะนำให้ทำความรู้จักกับ Ubersuggest อีกหนึ่งเครื่องมือที่นักทำ SEO มือใหม่ก็ชอบ ส่วนมืออาชีพก็ถูกใจ มาดูกันว่า Ubersuggest คืออะไร ทำอะไรได้บ้างไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
Ubersuggest คืออะไร
Ubersuggest คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับทำ SEO ให้บริการโดย Neil Patel สำหรับฟีเจอร์หลักจะเป็นโปรแกรมหา Keyword สำหรับเว็บไซต์ แต่นอกจากนั้นจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยเรื่อง technical seo ในการวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์และประเมินคุณภาพการทำ SEO ของตัวเว็บไซต์ในด้านอื่นให้ด้วย เช่น ดู Traffic ทั้งหมดของเว็บไซต์ได้, ใช้ส่องคู่แข่งได้, ใช้ดู Backlink แบบหน้าต่อหน้าได้ เป็นต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อช่วยทำให้เว็บไซต์มีอันดับบน Google ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน (แน่นอนว่า การทำ SEO ไม่ได้โฟกัสแค่เรื่อง Keyword นะครับ แต่มีอักหลายเกณฑ์ที่ให้ความสำคัญเลย เช่น E-E-A-T Factor หรือ Core Web Vital ซึ่งก็ต้องขยันปรับปรุงเว็บไซต์ให้โดนใจ Google ในทุกๆ เรื่อง จึงจะส่งผลให้เว็บไซต์ติดอันดับดีๆ ตามที่ต้องการได้นั่นเอง)
Ubersuggest สามารถทำอะไรได้บ้าง [รีวิวข้อดี]
มาถึงการรีวิว Ubersuggest ว่ามีข้อดีอย่างไร สามารถทำอะไรได้บ้าง และมีฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ บ้างที่คนทำ SEO ต้องลองใช้ ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
Dashboard
Dashboard จะเป็นส่วนของภาพรวมของ SEO Performance โดยรวม เช่น
- Estimate Organic Traffic จะเป็นส่วนที่บอกว่า Organic Traffic โดยรวมในแต่ละเดือนจะอยู่ที่เท่าไหร่ โดยดึงข้อมูลมาจาก Google Analytics
- Keyword Ranking (อันดับของคีย์เวิร์ด) โดยรวมอยู่อันดับที่เท่าไหร่บ้าง ซึ่งจะแบ่งเป็น Top3, Top10, Top100 และ Not Ranking
- Estimated Traffic Value เป็นการบอกว่า Traffic ที่เข้ามาในเว็บไซต์มีมูลค่าเท่าไหร่ โดยจะคิดเป็นเงิน $
- ฺBacklink จะเป็นการบอกว่าได้ Backlink มาเท่าไหร่ ในช่วงเวลาไหน
Rank Tracking
Rank Tracking จะเป็นการรายงานผลของอันดับทั้งในภาพรวมและราย Keyword โดยมีสรุปให้เลยว่ามี Keyword ไหนที่ทำอันดับได้ดีขึ้นหรือแย่ลง
ซึ่งในส่วนด้านบนจะเป็นสรุป Average Position โดยรวมของทั้งเว็บไซต์ว่าอยู่ที่อันดับเฉลี่ยเท่าไหร่ มี Keyword ที่ติดอันดับอยู่บ้าง โดยแบ่งเป็น Top3, Top10, Top100 และ Not Ranking
ส่วนราย Keyword จะมีแสดงว่าแต่ละ Keyword อยู่ใน Position ที่เท่าไหร่ อันดับเปลี่ยนแปลงอย่างไร ไปจนถึงมี Search Volume ในแต่ละ Keyword เท่าไหร่ รวมถึงทำอันดับยากง่ายหรือไม่
SEO Opportunities
SEO Opportunities จะเป็นส่วนที่บอกว่าในแต่ละหน้าเว็บไซต์มีโอกาสทำอันดับใน Keyword อะไรบ้าง เหมาะสำหรับคนที่จะ Optimize หน้าเว็บไซต์เพื่อการทำ SEO
Site Audit
Site Audit จะเป็นส่วนวัดคุณภาพของเว็บไซต์โดยจะบอกถึงคะแนนของ On-Page SEO ไปจนถึงจำนวน Backlink ที่เว็บไซต์มีให้ แถมสรุปให้ด้วยว่าคะแนนต่างๆ เหล่านี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือยัง
นอกจากนี้ จะมีการบอกด้วยว่าเว็บไซต์มีปัญหาในด้านไหนบ้างที่ควรแก้ไข เช่น มีหน้าที่ลิงก์พังหรือลิงก์เสีย, หน้าที่ไม่มี Heading 1, หน้าที่เกิดการ Duplicate ต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้สามารถเข้าไปแก้ไขหน้าเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที
ส่วนสุดท้ายจะเป็น Site Speed ที่จะบอกว่าเว็บไซต์มีความเร็วที่ดีหรือไม่ ทั้งระยะเวลาที่ใช้ในการโหลด การตอบสนองต่อการใช้งาน และการแสดงผลในด้าน Layout
Keyowrds Research
Keyowrds Research จะแบ่งออกเป็น 6 องค์ประกอบ ดังนี้
Keyword Overview
Keyword Overview จะเป็นส่วนใช้ดูข้อมูล Keyword ที่เราต้องการทำอันดับ โดยอันดับแรกให้ใส่ Keyword ที่ต้องการลงไป เลือกภาษาที่ต้องการ และเลือกประเทศ หลังจากนั้นกด Search เมื่อผลลัพธ์ปรากฏขึ้นมาจะเห็นว่าคำที่เราค้นหานั้นมี Search Volume เท่าไหร่, มีความยาก-ง่ายในการทำอันดับหรือไม่ และสำหรับในฝั่งของ Ads เองก็มีการบอกด้วยว่าจำนวน CPC มีอยู่ที่เท่าไหร่ และ Bidding แข่งได้ยากหรือไม่
เลื่อนลงมาด้านล่างจะบอกเทรนด์การค้นหาเป็นกราฟ โดยในเวอร์ชันฟรีจะสามารถดูได้แบบจำกัด นอกจากนี้มีบอกเปอร์เซ็นต์ของยอดคลิก และอายุเฉลี่ยของคนที่ทำการค้นหา Keyword นั้นๆ มาให้ด้วย
ในหน้าสรุป Overview จะมีแสดงผลฟีเจอร์หน้าอื่นๆ ขึ้นมาให้ อย่าง Keyword Ideas ที่ช่วยแตกไอเดียการทำ Keyword มาให้เพิ่มด้วย
อีกส่วนคือ Content Ideas จะเป็นส่วนสรุปของหน้าเว็บไซต์ที่ติดอันดับใน Keyword นั้นๆ พร้อมบอกรายละเอียดที่จะช่วยทำให้วิเคราะห์วิธีการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Keyword Ideas
Keyword Ideas จะเป็นส่วนรายละเอียดของไอเดียคีย์เวิร์ด โดยบอกถึงจำนวน Search Volume (ปริมาณการค้นหา), CPC (Cost Per Click), PD (Paid Dufficulty), SD (SEO Dufficulty) และเวลาอัปเดตล่าสุด
และเมื่อทำการกดปุ่มคำว่า Search Results ก็จะมีเว็บไซต์ที่ติดอันดับใน Keyword นั้นๆ ขึ้นมาให้ โดยเรียงลำดับจากลิงก์อันดับ 1 ลงไปเรื่อยๆ พร้อมข้อมูลสำคัญๆ เช่น EST. Visits (ค่าเฉลี่ยการเข้าชมเว็บไซต์หน้านั้นๆ), Domain Authority (DR) เป็นต้น
Keyword Visualizations
Keyword Visualizations จะเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้คนทำ SEO มองเห็นความเชื่อมโยงกันของ Related Keyword ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย (แต่น่าเสียดายที่ยังไม่รองรับภาษาไทย) โดยวิธีการใช้งานให้พิมพ์คำ Keyword ที่ต้องการลงไป หลังจากนั้นให้ทำการเลือกภาษา และประเทศ หลังจากนั้นคลิก Search
สำหรับผลลัพธ์ที่เห็นจะเป็นวงล้อ Topic และ Keyword ที่เกี่ยวข้องขึ้นมาให้ โดยแตกจาก Cluster ที่เป็นคำถามซึ่งคนนิยมพิมพ์ค้นหากัน เช่น Can, How, Where, What ฯลฯ
Keyword by Traffic
Keyword by Traffic คือ ฟีเจอร์สำหรับค้นหา Keyword จากโดเมนเว็บไซต์ มีประโยชน์ในการใช้ส่องดูว่าเว็บไซต์นั้นๆ ใช้ Keyword อะไรบ้าง
ซึ่งในแต่ละหน้าอาจจะติดได้หลาย Keyword ทำให้เห็นว่าในแต่ละหน้าได้ Traffic อยู่ที่เท่าไหร่
Similar Website
Similar Website จะเป็นส่วนของการวิเคราะห์ว่าเว็บไซต์ไหนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันกับคุณที่มี Keyword ใกล้เคียงกัน โดยจะบอกว่าแต่ละเว็บไซต์ใช้ Keyword อะไรบ้าง พร้อมมีบอกจำนวน Traffic และ Backlink ให้ครบ เพื่อให้คุณสามารถหยิบ Keyword เหล่านี้ไปทำอันดับต่อได้
Content Ideas
Content Ideas จะเป็นผลลัพธ์ที่บอกว่าใน Keyword นั้นๆ มีเว็บไซต์ไหนที่ติดอันดับอยู่บ้าง และมียอดผู้เข้าชมโดยเฉลี่ยประมาณเท่าไหร่ รวมถึงได้ Backlink ทั้งหมดเท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้ดูเป็นไอเดียหัวข้อคอนเทนต์ที่จะทำแข่งขันใน Keyword นั้นๆ รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ที่จะใช้เอาชนะได้ด้วย
Traffic Estimatetion
Traffic Estimatetion จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
Traffic Overview
Traffic Overview จะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยบอกว่าเว็บไซต์ที่ทำการค้นหานั้นมี Traffic โดยรวมอยู่ที่เท่าไหร่ มีติด Keyword รวมแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ มี Domain Authority เท่าไหร่ รวมถึงมี Backlink จำนวนเท่าไหร่ด้วย ซึ่งจะแสดงผลออกมาทั้งในรูปแบบของตัวเลขและกราฟเฉลี่ยในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
SEO Keyword Ranking
นอกจากนี้ มีการสรุป SEO Keyword Ranking ให้ด้วยว่าในแต่ละเดือนเว็บไซต์ติดอันดับ Keyword ในอันดับใดบ้าง โดยจะเฉลี่ยให้ดูเป็นรายเดือนในรูปแบบของกราฟแท่ง
Top SEO Pages
มีฟังก์ชันที่บอกด้วยว่าหน้าไหนคือ Top SEO Pages ของเว็บไซต์ขึ้นมาให้ โดยสรุปจากยอด Visits ที่คนเข้าเว็บไซต์แบบเฉลี่ยมาให้
SEO Keywords
SEO Keywords จะเป็นการสรุป Keyword มาให้ว่าเว็บไซต์นั้นๆ ติด Keyword อะไรบ้าง ได้ Volume เท่าไหร่ มีคนเข้าชมเท่าไหร่ รวมถึงติด Keyword นั้นๆ ในตำแหน่งอะไรบ้าง
Backlink
Backlink จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
Backlink Overviews
Backlink Overviews จะบอกเกี่ยวกับคุณภาพการทำ Off-Page SEO ของเว็บไซต์นั้นๆ ว่า ทำได้ดีแค่ไหน โดยบอกรายละเอียดมาให้ ดังนี้
- Domain Authority : ค่าความน่าเชื่อของเว็บไซต์
- Referring Domains : เว็บไซต์ที่ลิงก์มายังเว็บที่กำลังถูกพูดถึง
- Backlinks : จำนวน Backlink ที่เข้ามายังเว็บไซต์
ส่วนต่อมาจะเป็น Backlinks Over Time ที่บอกว่าในแต่ละช่วงได้จำนวน Backlink เท่าไหร่ และมี Referring Domains เท่าไหร่
New & Lost Referring Domains จะเป็นส่วนที่บอกว่า เว็บไซต์ของคุณเสียและได้ Referring Domains เท่าไหร่ในแต่ละเดือน
สำหรับ Referring Domains by DA จะเป็นการบอกว่า Referring Domains ที่ส่งมามีเรตของ Authority อยู่ที่เท่าไหร่ และมี Anchor Text ที่เป็น Backlink กลับมาใน Keyword ไหนบ้าง และส่งกลับมาในปริมาณเท่าไหร่
Backlink Opportunities
Backlink Opportunities จะเป็นการเปรียบเทียบ Backlink ของเว็บไซต์ 2 เว็บไซต์ โดยให้คุณทำการใส่โดเมนของเว็บไซต์ที่ต้องการเปรียบเทียบ Backlink ลงไปแล้วก็กด Search
หลังจากนั้นจะเห็นว่ามีเว็บไซต์ไหนที่คุณน่าจะนำมาทำ Backlink ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้บ้าง และในแต่ละเว็บไซต์มี Domain Authority อยู่ที่เท่าไหร่ด้วย
Lab
Lab จะมี 2 ฟังก์ชันให้ใช้งานคือ Keywords Generator และ AI Writer โดยมีรายละเอียดการใช้งาน ดังนี้
- Keywords Generator
Keywords Generator จะใช้ค้นหา Keyword ที่เหมาะสมโดยทำการค้นหา Keyword จากเว็บไซต์ของคุณและคู่แข่ง แล้วจะแสดงผลออกมาเป็น Keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณให้ โดยขั้นแรกให้คุณพิมพ์โดเมนของเว็บไซต์คุณลงไปแล้วกด Next
หน้าต่อมาให้เลือกภาษาและประเทศที่ตั้ง แล้วกด Next ต่อ
ทำการกรอกเว็บไซต์ของคู่แข่งลงไป แล้วกด Next
สุดท้ายจะมี Target Keywords ที่ Algorithm ของ Ubersuggest แนะนำมาให้ ซึ่งคุณสามารถนำมาใช้ได้เลย
- AI Writer
และสุดท้ายเป็นฟีเจอร์ที่ชื่อว่า AI Writer ที่จะช่วยนำ Keyword มาเขียน Title ให้เป็นไอเดียตัวอย่าง ซึ่งคุณสามารถเลือก Title เหล่านี้ไปเป็นชื่อบทความได้เลย
Ubersuggest ใช้ฟรีได้ไหม ราคาเท่าไหร่
Ubersuggest สามารถเข้าใช้งานได้ฟรี แต่ก็จะมีรูปแบบการใช้งานที่จำกัด เช่น มองเห็นข้อมูลบางส่วนไม่ครบ (แต่สามารถที่จะกดทดลองใช้งานฟรีได้ 7 วัน) ส่วนใครที่ต้องการใช้งาน Ubersuggest รูปแบบเสียเงินก็มีหลายแพ็คเกจให้เลือก ดังนี้
- Individual ราคาประมาณ $12 /เดือน จะใช้ได้ 1 เว็บไซต์
- Business ราคาประมาณ $20 /เดือน จะใช้ได้ 2-7 เว็บไซต์
- Enterprise ราคาประมาณ $40 /เดือน จะใช้ได้ 8-15 เว็บไซต์
Ubersuggest ใช้กับภาษาไทยได้ไหม
Ubersuggest ใช้กับภาษาไทยได้ในฝั่งของการทำ keyword research คือ สามารถกำหนดพื้นที่ให้คนหาเฉพาะในประเทศไทยและภาษาไทยให้โดยเฉพาะ เครื่องมือนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ทำ SEO และต้องการหาเครื่องมือที่ใช้ค้นหาในภาษาไทยได้แบบแม่นยำ แนะนำให้ลองใช้เลยครับ
สรุป
Ubersuggest คือ เครื่องมือสำหรับใช้ค้นหา Keyword, ตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ ไปจนถึงใช้ดู Backlink ได้ ข้อดีคือหน้าตาใช้งานได้ง่าย มีฟังก์ชันหลากหลาย แถมบางฟังก์ชันยังเปิดให้ใช้งานได้ฟรีแบบไม่เสียเงินด้วย (แต่ก็มีจำกัดการใช้อยู่นะครับ ไม่ได้ใช้ได้แบบเต็มๆ เหมือนเวลาเสียเงินซื้อ) ซึ่งในภาพรวมผมคิดว่าเป็น SEO Tools ที่ดีตัวหนึ่งเลย เพราะมีฟีเจอร์ให้ใช้หลากหลาย ครบ จบ ในที่เดียว สำหรับบริษัทรับทำ SEO ยังไงก็ลองเข้าไปใช้งานดูได้เลยครับที่ https://app.neilpatel.com/en/dashboard