รู้หรือไม่ว่าในการเขียนบทความ SEO ขึ้นมาให้กับเว็บไซต์นั้นไม่ควรใช้ Primary Keyword ที่ซ้ำกัน เพราะจะทำให้เว็บไซต์หรือหน้าบทความที่มี Primary Keyword เหล่านั้นเกิดการ ‘แย่งชิงอันดับกันเอง’ หรือที่เรียกว่า Keyword Cannibalization ซึ่งเป็นผลเสียต่อการทำ SEO โดยตรง และอาจทำให้การทำ SEO ของธุรกิจคุณไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
ดังนั้นในบทความนี้เราเลยขอมาอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เรียกว่า Keyword Cannibalization ว่าคืออะไร พร้อมแนะนำวิธีการตรวจสอบและแก้ไข สำหรับนักทำ SEO ทุกคน
Keyword Cannibalization คืออะไร ?
Keyword Cannibalization คือปรากฏการณ์ที่หน้าเว็บหลายหน้าในเว็บไซต์เดียวกัน แย่งชิงอันดับการค้นหาสำหรับ Keyword เดียวกัน ส่งผลให้หน้าเว็บไซต์เหล่านั้นต้องมาแข่งกันเอง ทำให้การจัดอันดับของทุกหน้าตกลงไป นำไปสู่การสูญเสียโอกาสในการได้รับ Traffic จากผู้ใช้งานจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพว่าเว็บไซต์ของคุณมี 2 หน้า
- หน้า A เกี่ยวกับ “รองเท้าวิ่ง”
- หน้า B เกี่ยวกับ “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง”
ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่าทั้งสองหน้ามีเนื้อหาเกี่ยวกับรองเท้าวิ่ง แต่หน้า B มุ่งเน้นไปที่รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่เมื่อใดก็ตามที่หากหน้า A และ B ทำ SEO หรือเขียนบทความโดยใช้ Primary Keyword คำว่า “รองเท้าวิ่ง” ทั้งคู่ จะทำให้ Google Algorithm เกิดความสับสนว่าหน้าไหนควรแสดงผลในอันดับต้น ๆ ของการค้นหาและส่งผลให้ประสิทธิภาพของการทำ SEO ของเว็บไซต์คุณนั้นลดลง
ทำไม Keyword Cannibalization ถึงสำคัญ ?
ต้องอธิบายก่อนว่าตามปกติแล้ว Google นั้นจะแสดงผลการค้นหาแค่ 1-2 เว็บเพจต่อ Keyword หนึ่งคำที่มาจากโดเมนเดียวกัน ซึ่งพอเว็บไซต์ของคุณเกิดสถานการณ์ Keyword Cannibalization ขึ้นมาเมื่อไร ก็จะส่งผลกระทบหลายอย่างต่อการทำ SEO ดังนี้
- ส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับในผลการค้นหา (SERP) เมื่อมีหลายหน้าเว็บไซต์แข่งขันกับคำค้นหาเดียวกัน จะทำให้พลังการจัดอันดับของทุกหน้าลดลง เนื่องจากหน้าเว็บเพจเหล่านั้นเกิดการแย่งชิงอันดับกันเอง ส่งผลให้การจัดอันดับของทุกหน้าลดลงตามไปด้วย
- สูญเสียโอกาสในการรับ Traffic และรายได้ เพราะการที่หน้าเว็บเพจต่าง ๆ ที่เกิดสถานการณ์ Keyword Cannibalization จะทำให้แต่ละหน้าเว็บเพจนั้นเกิดการแย่ง Traffic กันเองด้วย ทำให้สูญเสียโอกาสในการรับ Traffic จากผู้ใช้งานอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อรายได้ที่จะได้รับจากการทำ SEO จากการขายสินค้า/บริการ
- ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience) แย่ลง เมื่อผู้ใช้งานพบว่ามีหลายหน้าเว็บไซต์ให้ผลลัพธ์ที่ซ้ำซ้อนกันสำหรับ Keyword คำเดียวกัน จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสับสนและไม่พึงพอใจในประสบการณ์การใช้งาน
- เปลืองคน เปลืองแรงโดยใช่เหตุ เพราะการมีหน้าเว็บเพจหลายหน้าแข่งขันกันเองทำให้เกิดการสิ้นเปลืองทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งแรงคนเขียนบทความและ SEO Specialist, เปลืองงบประมาณและเวลา ไปอย่างไม่คุ้มค่า เพราะสามารถนำเวลาส่วนที่เราทำบทความที่มี Keyword ซ้ำกัน ไปใช้ในการทำ SEO สำหรับ Keyword คำใหม่ ๆ ที่คุณยังไม่เคยทำได้ และทั้งหมดนี้ยังไม่รวมเวลาสำหรับการแก้ปัญหาหากเว็บไซต์ของคุณเกิดสถานการณ์ Keyword Cannibalization ที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขพอสมควร
วิธีการตรวจสอบ Keyword Cannibalization ทำได้อย่างไรบ้าง ?
หากเว็บไซต์ของคุณเกิดสถานการณ์ Keyword Cannibalization ขึ้นแล้ว ไม่ต้องตกใจไป เพราะเราได้รวบรวมวิธีในการแก้ไขปัญหา Keyword Cannibalization บนเว็บไซต์แบบเข้าใจง่ายมาให้คุณแล้ว ดังนี้
- กำหนดหน้าเนื้อหาหลักให้ชัดเจน (Content Prioritization) วิเคราะห์ Keyword หรือทำการ Keyword Research แล้วกำหนดให้แต่ละ Keyword มีหน้าเว็บเพจเนื้อหาหลักเพียงหนึ่งหน้าเท่านั้น เป็นหน้าที่จะถูกเน้นให้จัดอันดับดีที่สุดสำหรับ Keyword นั้น ๆ
- รวมหรือลบหน้าเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน หากมีหน้าเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนกันเกินความจำเป็น ให้รวมเนื้อหาทั้งหมดเข้าไว้ในหน้าหลัก หรือลบหน้าเนื้อหาที่สำคัญน้อยกว่าออกไป เพื่อไม่ให้เว็บไซต์คุณเกิดการแย่งชิงอันดับกันเอง
- ปรับการกระจาย Keyword หรือการทำ Keyword Mapping เพื่อวางแผนการกระจาย Keyword ไปยังหน้าเนื้อหาต่าง ๆ ให้เหมาะสม ไม่ซ้ำซ้อนกัน (หรือเป็นการวางแผนการทำ On Page SEO ในส่วนของ Internal Link) หรืออาจจะลองสร้าง Content Sheet ขึ้นมาเพื่อบันทึกช่วยจำไว้ว่าตอนนี้เราทำบทความด้วย Keyword คำว่าอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ Keyword Cannibalization
- ใช้การ Redirect 301 สำหรับหน้าที่ถูกรวมหรือลบ ให้สร้างการ Redirect 301 ไปยังหน้าเนื้อหาหลักที่คุณต้องการทำอันดับ เหมือนเป็นการส่ง Traffic ไปยังเว็บเพจที่เดียวกัน แม้จะกดเข้ามาจาก URL ที่ต่างกัน เพื่อไม่ให้สูญเสีย Click Rate และอันดับ
- ต้องทำการ Site Crawlers หรือ SEO Audit อย่างสม่ำเสมอ หลังจากแก้ไขปัญหา Keyword Cannibalization แล้ว ต้องติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องผ่านการใช้ SEO Tools ต่าง ๆ เช่น Ahrefs, Screaming Frog ,Ubersuggest, SEMRush ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีกในอนาคต
การแก้ไขด้วยวิธีที่เราแนะนำมานี้ จะเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหา Keyword Cannibalization ที่เกิดขึ้นให้กับเว็บไซต์คุณได้ และทำให้คุณไม่ต้องเจอกับปัญหานี้อีกในอนาคต สร้างการทำ SEO ที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างยั่งยืน
สรุป
จากทั้งหมดที่เราได้อธิบายมาในบทความนี้ ต้องบอกเลยว่า Keyword Cannibalization เป็นสิ่งสำคัญที่คนทำ SEO ต้องห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะหากละเลยในส่วนนี้ไปอาจทำให้ผลลัพธ์ของการทำ SEO ของคุณไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อให้การทำ SEO เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรวางแผนและจัดการ Keyword ของเว็บไซต์อย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อป้องกันปัญหา Keyword Cannibalization ที่จะเกิดขึ้นกับการทำ SEO ของคุณ