Home - SEO - Content Hub กลยุทธ์สุดล้ำในการจัดหมวดหมู่เนื้อหา สู่การทำอันดับทั้งเว็บไซต์

Content Hub กลยุทธ์สุดล้ำในการจัดหมวดหมู่เนื้อหา สู่การทำอันดับทั้งเว็บไซต์

content hub

หากเว็บไซต์ของคุณยังทำอันดับได้ไม่ดี ลองกลับมาดูก่อนว่าการลงคอนเทนต์ในเว็บไซต์ของคุณยังดูไม่เป็นระเบียบอยู่หรือไม่? ถ้าใช่… ลองเริ่มใหม่ด้วยการทำ Content Hub จัดหมวดหมู่เนื้อหาอย่างเป็นระเบียบและเชื่อมโยงคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกัน ไม่แน่ว่าอันดับเว็บไซต์ของคุณอาจดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เนื้อหาคอนเทนต์เก่า ๆ มีจำนวน Traffic เพิ่มขึ้นอีกด้วย

Content Hub คืออะไร

Content Hub คือ การจับกลุ่มเนื้อหาคอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน มาอยู่รวมกัน โดยมี Hub page ที่เป็นหัวใหญ่สุด และมีการโยง Sub page ย่อย ๆ แตกแขนงออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งหน้าของ Hub page และ Sub page จะมีการเชื่อม Internal links กันและกัน เทคนิคนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทาง SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ไต่อันดับได้ง่ายขึ้น ซึ่งในจุดนี้เองที่สามารถทำประโยชน์ในด้าน SEO มากมาย ซึ่งจะขอไปพูดในหัวข้อถัดไป

Content Hub มีประโยชน์อย่างไรต่อการทำ SEO 

ทราบกันไปแล้วว่า Content Hub คืออะไร ในที่นี้เราจะมาทราบถึงประโยชน์ของ Content Hub ที่มีต่อการทำ SEO ว่ามีอะไรกันบ้าง

  1. Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น

Google Bot เป็นสิ่งที่ Google นำมาใช้เพื่อค้นหาและจัดเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ๆ ยิ่งข้อมูลภายในเว็บไซต์เราเป็นระเบียบและมีการเชื่อมลิงก์ในแต่ละหน้ามากเท่าไหร่ Google Bot ก็สามารถไต่ไปหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำ SEO สร้างอันดับที่ดีให้เว็บไซต์ของคุณได้เป็นอย่างมาก 

  1. ช่วยเพิ่มพลังให้กับ Core Topic และลิงก์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในเว็บไซต์

การที่ในหน้าเว็บไซต์ของคุณมี Content Hub และ Sub Hub ที่เป็นระเบียบ มีการเชื่อมลิงก์ระหว่างกัน จาก Content Hub ไปยัง Sub Hub และ Sub Hub ไปยัง Content Hub จะทำให้เกิดโครงข่ายที่แข็งแกร่ง สามารถดันหน้า Core topic ให้อยู่อันดับต้นได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้ Search Engine สามารถเข้าใจเนื้อหามากขึ้น

  1. ช่วยเพิ่มจำนวน Traffic ภายในเว็บไซต์

การที่มี Internal link ภายใน Content Hub และ Sub Hub จะช่วยให้ User สามารถอยู่ภายในเว็บไซต์และตามอ่านคอนเทนต์ที่สนใจต่อไปได้เรื่อย ๆ ทำให้จำนวนยอดเข้าชมภายในเว็บไซต์สูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คอนเทนต์เก่า ๆ ของคุณยังคงมี Traffic อยู่เรื่อย ๆ

  1. ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคอนเทนต์

หากเนื้อหา Content Hub ของคุณมีคุณภาพ อาจเพิ่มโอกาสให้เกิดการอ้างอิงเว็บไซต์อื่น ๆ มายังหน้า Content Hub ของคุณ (Backlink) ซึ่งจะส่งผลให้คอนเทนต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

  1. ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณผ่านเกณฑ์ EEAT

การที่ Google จะเลือกหน้าเว็บไซต์ไหนขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ นั้น จะต้องเป็นหน้าเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ซึ่งเกณฑ์ EEAT ถูกนำมาเป็นเครื่องมือไว้พิจารณาว่าเว็บไซต์นั้น ๆ มีคะแนนที่ดีหรือไม่ ซึ่งการทำ Content Hub จะทำให้คะแนนสำหรับเกณฑ์ EEAT สูงขึ้น

ขั้นตอนการสร้าง Content Hub เพื่อ SEO มีอะไรบ้าง [ฉบับเข้าใจง่าย] 

หากคุณอยากจะให้เว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ เข้าเกณฑ์ EEAT และสามารถทำอันดับบน Search Engine ได้ดีขึ้น การทำ Content Hub จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่คุณต้องไม่พลาด ซึ่งในหัวข้อนี้จะมาเล่าถึงขั้นตอนการสร้าง Content Hub เพื่อ SEO มีอะไรบ้าง แบบเข้าใจง่าย ๆ 

Keyword Research

แน่นอนว่าเวลาเราต้องการค้นหาอะไรใน Search Engine อย่างเช่น Google เราจะมีการค้นหาในลักษณะของ Keyword สั้น ๆ ซึ่งผลลัพธ์จากการค้นหา Keyword นี้เองที่จะแสดงหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ Google มองว่ามีความเกี่ยวข้อง 

โดยอันดับแรกก่อนที่จะปรับปรุงผังเว็บไซต์ เราจะต้องมีการทำ Keyword Research เสียก่อน ด้วยการใช้ Keyword Research Tools ในการหา Keyword ซึ่งสิ่งที่คุณจะต้องทำคือการคัดเลือก Keyword ที่มียอดค้นหาสูง แต่มีการแข่งขันต่ำ และจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณอีกด้วย นอกจากนี้ Keyword ที่เลือกมาควรจะต้องเป็น Keyword ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ได้เท่านั้น เพื่อให้คุณได้ผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตรงกับธุรกิจของคุณ

กำหนด Core Topic เนื้อหาหลัก 

เมื่อได้ Keyword ที่เหมาะสมแล้ว ต่อมาจะต้องมีการพิจารณาว่า Keyword ตัวไหนควรจะมาเป็น Content Hub และมี Keyword ตัวไหนบ้างที่สามารถมาเป็น Sub Hub อันดับแรกคุณควรจะต้องกำหนด Core Topic ด้วยการวางหัวข้อคอนเทนต์ที่ความสามารถในการสร้างแรงจูงใจให้กับ User และตรงกับ Search Intent ที่คุณต้องการ 

โดย Content Hub จะต้องมีเพียงหน้าเดียวเท่านั้น ในส่วนของ Sub Hub จะมีกี่หน้า หรือแตกแยกย่อยออกไปอย่างไรก็ได้ แต่มีข้อแม้คือจะต้องสามารถสร้าง Internal link กลับไปมาระหว่างกันได้ 

วางแผนการทำ Content Pillar หรือ Content Hub

เมื่อได้ Keyword สำหรับ Content Hub และ Sub Hub แล้ว ต่อมาคือการเริ่มวางโครงสร้าง Content Pillar หรือ Content Hub ในเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ ซึ่งจะต้องจัดว่า Keyword Content Hub ตัวนี้จะต้องมี Keyword Sub Hub ตัวไหนบ้าง และทำการวางแผนการลำดับเนื้อหาภายในคอนเทนต์ให้เหมาะสม เพื่อทำ Internal links เชื่อมระหว่าง Content Hub และ Sub Hub ให้ได้ 

และเพื่อให้คุณไม่หลงประเด็นไป แนะนำว่าให้เริ่มทำคอนเทนต์หลักหรือ Content Hub ก่อน แล้วจึงค่อยลงไปทำคอนเทนต์ Sub Hub ต่อไป

สร้างหน้าเนื้อหาย่อย (Cluster Content)

ทำ Keyword Research เรียบร้อยแล้ว วางแผนโครงสร้างและเริ่มสร้างคอนเทนต์ Content Hub ก็แล้ว ต่อมาคือขั้นตอนการลงมือทำส่วนของเนื้อหาย่อย Sub Hub หรือ Cluster Content ซึ่งในส่วนนี้คุณจะต้องนำ Keyword ที่วางไว้ว่าจะนำมาเป็น Sub Hub มาสร้างคอนเทนต์ที่สามารถแทรก Internal link กลับไปยังหน้า Content Hub และอาจเชื่อมไปยัง Sub Hub อื่น ๆ เป็นโครงข่ายอยู่ภายในเว็บไซต์ 

สรุป Content Hub 

หากกล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ การทำ Content Hub นับเป็นอีกเทคนิคหนึ่งของการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถทำอันดับใน Search Engine อย่าง Google ได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเนื้อหาคอนเทนต์ของคุณมีคุณภาพ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ Google เลือกหน้าเว็บไซต์ของคุณมาแสดงผลเป็นอันดับแรก ๆ และทำให้การทำ SEO ในธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ 

ดังนั้น หากคุณมีคอนเทนต์ดี ๆ อยู่ในมือ แต่ยังทำอันดับได้ไม่ดี ลองจัดระเบียบคอนเทนต์ด้วย Content Hub ดู อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกดันขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ก็ได้

ผู้เขียน

Picture of tan
tan
Tag:

แชร์บทความนี้:

บทความที่คุณ อาจสนใจ

Scroll to Top