ในปัจจุบันการทำ International SEO คือหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ให้เติบโต เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกประตูสู่โอกาสอันยิ่งใหญ่บนเวทีโลก ลองจินตนาการว่าจะดีแค่ไหนถ้าเว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของ Google ในภาษาต่าง ๆ ที่ช่วยดึงดูด Traffic จากลูกค้าได้ทั่วทุกมุมโลกเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้เป็นลูกค้าและขยายฐานธุรกิจของคุณอย่างไร้ขีดจำกัดเรื่องพรมแดน
บทความนี้ Nerd Optimize เลยขอมาอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจถึงหลักการทำงานของ International SEO ว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง แล้วทำไม การทำ SEO ให้เติบโตในต่างประเทศถึงต้องโฟกัสเรื่องนี้เป็นพิเศษ
International SEO คืออะไร?
International SEO คือ กระบวนการทำ SEO และปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณทั้ง On Page SEO และ Off Page SEO เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาในตลาดต่างประเทศ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา (SERPs) สำหรับ Keyword ที่เกี่ยวข้องในภาษาต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย เหมาะสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ การตลาดเว็บไซต์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ International SEO ?
International SEO นั้นเหมาะสำหรับธุรกิจ ‘ทุกประเภท’ ที่ต้องการขยายฐานการเติบโต หรือต้องการเพิ่มการเข้าถึง Brand Awareness ไปยังต่างประเทศ ทั่วโลก โดยในฝั่งของธุรกิจสามารถได้รับประโยชน์จาก International SEO มากมาย ดังนี้
- ต้องการขยายฐานลูกค้า: เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ในตลาดต่างประเทศ เพิ่มโอกาสในการขายและสร้างรายได้
- มีสินค้าหรือบริการที่เหมาะกับตลาดต่างประเทศ: สินค้าหรือบริการบางประเภท มีความต้องการสูงในต่างประเทศ การทำ International SEO ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุด
- ต้องการสร้างแบรนด์ระดับสากล: International SEO ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ในระดับสากล เพิ่ม Visibility และสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่กลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ
- ต้องการเพิ่มความได้เปรียบในการทำธุรกิจ: การทำ International SEO นั้นช่วยสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและเหนือกว่าคู่แข่งที่ไม่ได้ทำ International SEO ดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพ และสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจได้
โดยตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับการทำ International SEO มากที่สุดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจออนไลน์ ที่ต้องการสร้างการเติบโตให้มากกว่าแค่ในประเทศไทย ตัวอย่างธุรกิจเช่น
- ธุรกิจ E-Commerce: การทำ E-Commerce SEO สามารถขายสินค้าไปยังลูกค้าทั่วโลก ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าในประเทศที่เข้าถึง Google หรือ Serach Engine ตัวอื่น ๆ
- ธุรกิจบริการ: เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจการศึกษา สามารถดึงดูดลูกค้าจากต่างประเทศ เพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ
- ธุรกิจ SaaS (Software As A Service): สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศ เพิ่มรายได้และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
เรื่องที่ควรรู้เมื่อทำ International SEO
มาดูกันว่าในการจะทำ International SEO นั้นมีเทคนิคอะไรที่คุณต้องรู้ก่อนบ้าง เพื่อทำให้การทำ International SEO ของธุรกิจคุณประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โครงสร้างของ URL Structures สำหรับ International Sites
อันดับแรกของการทำ International SEO คือต้องรู้เกี่ยวกับการปรับแต่งโครงสร้าง URL Structure (และ Site Structure) สำหรับ International Sites หรือก็คือการทำให้ Google Bot สามารถเข้าใจ URL ของเว็บไซต์แต่ละหน้าได้อย่างเต็ม 100% ซึ่งควรใช้เป็นภาษาอังกฤษในการตั้งชื่อ URL แต่ละหน้า ตั้งแต่ชื่อ Domain หลัก ไปจนถึง Subdomain, Subdirectories หรือ Country Code Top-Level Domains (ccTLDs) และใช้สิ่งที่เรียกว่า Hreflang Tag (Hypertext Reference Language) ที่เป็นแท็ก HTML เพื่อบอก Google เกี่ยวกับภาษาและภูมิภาคเป้าหมายของเนื้อหา ช่วยให้ Google แสดงผลลัพธ์การค้นหาที่ตรงกับภาษาและภูมิภาคของผู้ใช้
โดยการวางโครงสร้าง โครงสร้างของ URL Structures สำหรับ International Sites ถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพของ International SEO ช่วยให้ Google เข้าใจภาษาและภูมิภาคเป้าหมายของเนื้อหาแต่ละหน้า ส่งผลดีต่ออันดับใน SERP ในประเทศที่คุณต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมาย
การปรับ Language-target your website (or website pages)
ส่วนต่อมาคือการปรับ Language-target your website หรือการกำหนดภาษาและภูมิภาคเป้าหมาย สำหรับเว็บไซต์ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้ Google Bot เข้าใจคอนเทนต์ภายในเว็บไซต์ได้ง่ายมากขึ้นและช่วยในการแสดงผลลัพธ์การค้นหาที่ตรงกับภาษาและภูมิภาคของผู้ใช้
ซึ่งในการทำ Language-targeting ให้กับเว็บไซต์นั้นสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การแปลเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ให้เป็นภาษาต่าง ๆ ที่เราต้องการทำ SEO เจาะไปหา, สร้าง sitemap แยกสำหรับภาษาต่าง ๆ หรือใช้ Hreflang Tag เพิ่มแท็ก hreflang ลงใน header ของทุกหน้าเว็บ ระบุภาษาและภูมิภาคเป้าหมาย ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการเจาะ Target ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการค้นหาข้อมูล ก็ต้องใส่Hreflang Tag ใน HTML ให้เป็นประมาณนี้ : <link rel=”alternate” href=”http://example.com/fr” hreflang=en-us/> (en-us คือภาษาอังกฤษ)
การปรับเนื้อหาให้รองรับกับ International SEO
หลังจากที่เราได้ทำการปรับแต่งส่วนการทำ Technical SEO แล้วขั้นตอนต่อมาคือการ ปรับเนื้อหาให้รองรับกับ International SEO ซึ่งไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ให้คุณปรับคอนเทนต์ภายในเว็บไซต์ให้เป็นภาษาที่คุณต้องการเจาะตลาดเพื่อทำ SEO เพราะบางประเทศไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการค้นหาข้อมูลบน Google เพราะฉะนั้นต้องตรวจสอบก่อนด้วยว่าประเทศนั้น ๆ ใช้ภาษาอะไรเป็นภาษาในการสื่อสาร หรือการค้นหาข้อมูล โดยในส่วนนี้คุณสามารถทำ Keyword Research โดยการใช้ SEO Tools ต่าง ๆ เป็นตัวช่วยในการค้นหา Keyword Search Volume ได้เลย
ทำระบบ Content Delivery Network (CDN)
การทำระบบ Content Delivery Network (CDN) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อการทำ International SEO อธิบายให้เข้าใจก่อนว่า Content Delivery Network (CDN) เป็นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ทำหน้าที่จัดเก็บและส่งมอบเนื้อหาเว็บไซต์ เช่น ไฟล์ HTML, CSS, JavaScript, รูปภาพ, วิดีโอ ฯลฯ ไปยังผู้ใช้งานเว็บไซต์
ยกตัวอย่างเช่นหากธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์และจดทะเบียน Web Hosting อยู่ในประเทศไทย เมื่อมีผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศไทยกดเข้าเว็บไซต์ ก็จะสามารถเข้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร แต่ถ้าคุณเกิดอยากทำ International SEO ขึ้นมา อยากให้คนในประเทศแถวโซนยุโรปกดเข้าเว็บไซต์ จะเกิดปัญหาทันทีเพราะเว็บไซต์ที่ไม่ได้ทำระบบ Content Delivery Network (CDN) เมื่อมีคนกดเข้ามาจากประเทศอื่น เว็บจะโหลดช้า โหลดนาน ส่งผลต่อประสบการณ์ที่ไม่ดีในการใช้งานได้
ดังนั้นการทำระบบ Content Delivery Network ไว้จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้เพราะ CDN เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ผู้ใช้ที่สุดและจะส่งมอบเนื้อหาเว็บไซต์ไปยังผู้ใช้ได้อย่างไม่มีสะดุดแถมเว็บไซต์ที่โหลดได้เร็ว ก็จะมีอันดับที่ดีขึ้นในหน้า SERP เรียกว่าเป็นประโยชน์ 2 ต่อของการทำ SEO เลยก็ว่าได้
ขั้นตอนการทำ International SEO มีอะไรบ้าง ?
กำหนดกลุ่มเป้าหมายดูตลาดต่างประเทศ
อันดับแรกของการทำ International SEO คือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายดูตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่การ วิเคราะห์คู่แข่ง ศึกษาคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ วิเคราะห์กลยุทธ์ SEO จุดแข็ง จุดอ่อน, เลือกตลาดเป้าหมาย ที่ต้องเลือกตลาดประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นลูกค้า เหมาะกับสินค้า/บริการของธุรกิจคุณ ,วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ศึกษาข้อมูล พฤติกรรมการใช้ Google ของ Target แต่ละประเทศ และเลือกภาษาและ Keyword ที่จะใช้ในการทำ SEO ไปยังประเทศตลาดเป้าหมาย
โดยคุณสามารถใช้ SEO Tools อย่าง Ahrefs, MOZ, Ubersuggest ในการดูปริมาณการค้นหาหรือ Search Volume ของ Keyword ที่คุณต้องการว่ามีปริมาณการค้นหามากน้อยเพียงใด และอย่าลืมหากคุณใช้ SEO Tools เหล่านี้ในการทำ Keyword Research ต้องปรับ Filter แสดงผลการค้นหาของแต่ละประเทศที่เป็นเป้าหมายด้วย เพื่อให้ได้ตัวเลขปริมาณการค้นหาที่แม่นยำที่สุด
ทำ Map Keyword ที่จะทำ Content ลงเว็บไซต์
การทำ Map Keyword คือการจำแนกกลุ่มของ Keyword สำหรับการทำ Content ลงเว็บไซต์เพื่อให้รู้ว่าใน Keyword ที่คุณเลือกมาใช้ มี Secondary Keyword หรือ Relevant Keyword (Keyword ที่เกี่ยวข้อง) เป็นคำว่าอะไรบ้าง เพื่อให้การทำ Content ลงไปยังเว็บไซต์เพื่อการทำ International SEO เห็นผลลัพธ์ได้มากที่สุด โดยเราขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ในการทำ Keyword Mapping ดังนี้
- ค้นหา Keyword : ค้นหาKeywordที่เกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการ ภาษา ตลาดเป้าหมาย
- วิเคราะห์Keyword : วิเคราะห์ Search Volume ความยากง่าย และโอกาสการแข่งขันและทำอันดับ
- เลือก Keyword ที่ต้องการ : เลือก Keyword ที่มีศักยภาพ เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
- จัดกลุ่ม Keyword : จัดกลุ่ม Keyword ตามประเภท ความยากง่าย และความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ
เขียน Content ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
ขั้นตอนต่อมาก็คือการเริ่มเขียน Content ตามกลยุทธ์หรือตาม Keyword ที่เราได้เลือกกันไว้ แนะนำว่าในการเขียนบทความ SEO ในเคสของ International SEO ควรต้องมีการเขียนบทความให้ถูกต้องตามหลักของ EEAT Factor ที่เป็นการเขียนที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านและเป็นสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญมาก ๆ ในการจัดอันดับของเว็บไซต์ ซึ่งต้องเขียน Content ที่ตรงกับความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมาย มีการใช้ Keyword อย่างเป็นธรรมชาติ และต้องอย่าลืมการปรับแต่ง Content ให้เหมาะกับภาษา วัฒนธรรม ของตลาดเป้าหมายด้วย
ทำ Outreach Content ให้ตรงกับภาษาประเทศ
หลังจากที่เขียน Content ตามแผนที่เราวางไว้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการทำ Outreach Content ให้ตรงกับภาษาในประเทศที่คุณต้องการทำ SEO เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์หรือแจ้งให้กลุ่มเป้าหมายในประเทศนั้น ๆ รับรู้ถึงการทำธุรกิจของคุณ เช่นการทำ Guest Post หรือใช้กลยุทธ์ในการทำ Backlink เผยแพร่บนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
วัดผลลัพธ์โดยจำแนกตามประเทศ
หากการทำ International SEO ของคุณ มีการเจาะกลุ่มเป้าหมายหรือมีการทำงานที่มากกว่า 1 ประเทศขึ้นไป เราแนะนำให้คุณวัดผลลัพธ์โดยจำแนกตามประเทศต่าง ๆ โดยใช้การติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์อย่าง Google Analytics หรือ Google Search Console ที่เป็นเครื่องมือที่ให้คุณเห็น Metrics ต่าง ๆ ที่สำคัญต่อการทำ SEO ที่สามารถจำแนกผลลัพธ์ตามประเทศ และใช้ในการวิเคราะห์ผลลัพธ์ ดูว่ากลุ่มเป้าหมายมาจากประเทศไหน ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดอะไร จะช่วยให้คุณวางแผนการทำ SEO ให้ตรงตามความแตกต่างของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
ขั้นตอนในการทำ International SEO เหล่านี้เป็นเพียงภาพรวมคร่าว ๆ ที่เรายกมาอธิบายให้คุณเข้าใจการทำงานของกลยุทธ์นี้ ซึ่งในการทำ International SEO จริง ๆ ก็จะรายละเอียดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสินค้า/บริการ และตลาดเป้าหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม International SEO นั้นก็ถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ใช้ใหม่ เพิ่มยอดขาย และสร้างการรับรู้แบรนด์ของคุณ