สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นทำ SEO และรู้สึกว่า การทำ SEO เป็นอะไรที่ทำยากใช่ไหมครับ บทความนี้ ผมเลยเขียนขึ้นเพื่อบอกให้ทราบกันครับว่า วิธีทำ SEO จริงๆ แล้วมีหลักการที่สามารถทำตามได้ และจะนำพาให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับผลการค้นหาบนหน้า Google ในอันดับที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน เพียงแต่คุณต้องปูพื้นฐานให้แน่น และทำความเข้าใจกับหลักการของ SEO ว่ามีเรื่องไหนที่สำคัญบ้าง ด้วยคู่มือที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ไปพร้อมๆ กันเลยครับ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ปูพื้นฐานจาก 0 ทำความเข้าใจกับเรื่องพื้นฐานของ SEO
- ทำ SEO สำหรับมือใหม่ยากขนาดไหน?
- จ้างบริษัทรับทำ SEO ดีไหม?
- จะเริ่มต้นทำให้เว็บไซต์ติดหน้า Google ได้ยังไง?
- เจาะลึกวิธีทำ SEO แบบ Step by Step
- สรุป
Chapter 1 : ปูพื้นฐานจาก 0 ทำความเข้าใจกับเรื่องพื้นฐานของ SEO
ในพาร์ทแรกจะเป็นการวางรากฐานความรู้สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักวิธีทำ SEO มาปูพื้นฐานกันตั้งแต่ขั้น 0 กันเลยดีกว่าครับ
SEO คืออะไร?
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า SEO คืออะไร ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ เลยก็คือ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์อย่างหนึ่ง เพื่อดันให้เว็บไซต์ของติดอันดับบนหน้า Search Engine อย่างเช่น Google ซึ่งทำให้ถูกพบเจอได้ง่าย ซึ่งก็ต้องอาศัยเทคนิคและองค์ประกอบต่างๆ ที่ทำแล้ว Search Engine มองว่า เว็บไซต์ของคุณดี มีคุณภาพและอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเข้าช่วยด้วย
ทำไมการทำ SEO จึงเป็นเรื่องสำคัญ?
จากสถิติในทุกวันนี้คนเราใช้ Search Engine หลักอย่าง Google ในการค้นหาสิ่งที่สนใจกว่า 5.6 พันล้านครั้งต่อวัน ซึ่งถ้าหากธุรกิจเข้าถึงคนจำนวนมากเหล่านี้ได้ก็ย่อมได้เปรียบ และยิ่งถ้าคนรู้จักคุณผ่านการค้นหาบน Search Engine ในอันดับต้นๆ ในเรื่องที่คุณเชี่ยวชาญ และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจได้ประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่น
- เพิ่มโอกาสในการสร้าง Traffic
เพราะคงไม่มีใครจะใช้เวลาทั้งวันในการค้นหาเรื่องที่สนใจบน Google จากผลลัพธ์การค้นหา (Search Result) เป็นล้านๆ เว็บไซต์ ดังนั้น หากธุรกิจของคุณสามารถทำให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ บนหน้า Search Engine ด้วยวิธีการทำ SEO แน่นอนว่า ก็จะทำให้ได้ Organic Traffic จำนวนมากจากการทำ SEO มาแบบฟรีๆ
[ux_image id=”37004″ image_size=”original” depth=”2″]- ช่วยสร้าง Brand Awareness และยอดขายให้กับธุรกิจ
การทำ SEO นับเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์หนึ่งให้กับเว็บไซต์ของธุรกิจได้ จากการเข้าถึงกลุ่มว่าที่ลูกค้าด้วยการทำ Keyword Research เฉพาะกลุ่ม ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ เลยก็คือ การที่คนค้นหาบางสิ่งบางอย่างบน google แสดงว่า เขาจะต้องมีความสนใจที่จะค้นหาข้อมูลหรือซื้อสินค้าหรือบริการอยู่ก่อนแล้ว จึงทำการค้นหา และถ้าเว็บไซต์ของคุณถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ แน่นอนว่า พวกเขาย่อมคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณเอง ซึ่งถ้าคุณทำเว็บไซต์ให้ดีพอที่จะนำเสนอสินค้าและบริการของธุรกิจได้ ย่อมทำให้ว่าที่ลูกค้ารู้จักคุณได้มากยิ่งขึ้น ต่อยอดไปจนถึงการสร้างยอดขายที่สามารถปิดการขายได้เลยบนเว็บไซต์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงทีม Sale เลยอีกด้วย
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
การที่สามารถค้นหาเว็บไซต์ของธุรกิจคุณเจอในคำค้นหา (Keyword) ที่เกี่ยวข้อง ย่อมทำให้ผู้ค้นหารู้สึกว่าธุรกิจของคุณน่าเชื่อถือเป็นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวนั้นๆ ในเชิงลึกให้เข้าใจ และสามารถวางใจที่จะใช้บริการได้
[divider] [scroll_to title=”ทำ SEO สำหรับมือใหม่ยากขนาดไหน?” link=”section2″]ทำ SEO สำหรับมือใหม่ยากขนาดไหน?
การทำ SEO นั้นยากหรือง่ายนั้นมีหลายปัจจัยเป็นตัวประกอบ ถ้าหากคุณวางแผนวิธีทำ SEO มาดี ทำเว็บไซต์มีคุณภาพ เรียนรู้เกณฑ์การตัดสินของ Google ว่ามีอะไรบ้างที่ใช้ในการพิจารณาให้คะแนนเว็บไซต์ อย่างเกณฑ์ E-A-T Factor รวมถึงจำนวนของคู่แข่งในตลาดเองว่า มีจำนวนมากยากหรือง่ายที่จะเอาชนะ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้การทำ SEO ในแต่ละธุรกิจมีความยาก-ง่ายแตกต่างกันนั่นเอง
[divider] [scroll_to title=”จ้างบริษัทรับทำ SEO ดีไหม?” link=”section3″]จ้างบริษัทรับทำ SEO ดีไหม?
ซึ่งถ้าคุณคิดว่า การลงมือทำเองเป็นเรื่องยาก การจะจ้างบริษัท รับทำ SEO ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ต้องเลือกให้ดี โดยรู้ว่าบริษัทแบบไหนที่จะสามารถทำงานตามที่รับมอบหมายได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยที่คุณไม่ถูกหลอก เช่น
- ดูว่าบริษัทนั้นถนัดอะไร เหมาะกับประเภทธุรกิจที่คุณทำมาก-น้อยแค่ไหน และจะสามารถให้คำปรึกษาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญได้ดีหรือไม่
- มีผลงานและข้อมูลของบริษัททำ SEO ที่เชื่อถือได้
- หากเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ต้องให้คำแนะนำ หรือให้คำตอบในสิ่งที่คุณไม่รู้ได้
- ตรวจสอบวิธีการทำงานได้
- มีรีพอร์ตให้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ควรจ้างบริษัทที่จะเน้นไปที่การทำ SEO สายขาวที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ในระยะยาวได้ดีกว่าการใช้เทคนิคสายเทาหรือดำที่ช่วยทำให้ติดอันดับไวแต่ไม่ยั่งยืน
[divider] [scroll_to title=”จะเริ่มต้นทำให้เว็บไซต์ติดหน้า Google ได้ยังไง?” link=”section4″]จะเริ่มต้นทำให้เว็บไซต์ติดหน้า Google ได้ยังไง?
อ่านมาถึงตรงนี้คุณรู้แล้วว่า วิธีการทำ SEO นั้นทรงพลังและมีประโยชน์มากขนาดไหนสำหรับโลกของการทำการตลาดออนไลน์ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นทำยังไงให้ติดหน้า Google ก่อนอื่นเลยเราอยากให้คุณเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจใน 3 ส่วนที่เป็นภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO ดังนี้
- มีการวางแผน SEO ที่ดี
โดยคุณควรที่จะรู้ว่า วิธีการทำ SEO ทั้งหมดนั้นมีขั้นตอนอะไรที่ต้องรู้บ้าง โดยอาจจะศึกษาจากบทความ เหล่านี้ เพื่อนำไปวางแผนการลงมือทำ SEO ให้ครอบคลุมได้ต่อไป
- สอน SEO ฟรี – ศูนย์กลางเรียน SEO WordPress ชนิดทำคอร์สได้เลย
- Keyword Research คืออะไร สอนวิธีหาคีย์เวิร์ด วิเคราะห์เชิงลึก สำหรับผู้เริ่มต้นทำ SEO
- Sitemap คืออะไร ? ศึกษาความสำคัญของ Sitemap อีกหนึ่งองค์ประกอบของการทำ SEO
- Link Building คืออะไร แตกต่างกับการทำ Backlink แบบปกติอย่างไร ?
- มีเว็บไซต์ที่ดี
การทำ SEO เป็นสิ่งที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้า Google ได้ แต่ถ้าหาก Google ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเว็บไซต์มีอยู่บนโลกใบนี้ก็คงจะเข้ามาเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณเพื่อทำการจัดอันดับต่อไปไม่ได้ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำ SEO ที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ เลยก็คือ การทำ Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์ที่จะเข้ามาช่วยให้ Search Engine Bot ในการสำรวจเว็บไซต์แบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
[ux_image id=”37005″ image_size=”original” depth=”2″]นอกจากนี้ ในด้านของการสร้าง User Experience เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ Google เองก็ให้คะแนนเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
- การให้ความสำคัญกับเรื่อง Core Web Vitals ซึ่งเป็นการให้คะแนน UX สำหรับเว็บไซต์ โดยมีองค์ประกอบ 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ Largest Contentful Paint (LCP) First Input Delay (FID) และ Cumulative Layout Shift (CLS)
- การให้ความสำคัญในเรื่อง Mobile First โดยเว็บไซต์จะต้องสามารถแสดงผลได้ดีบนอุปกรณ์ Mobile หรือที่เรียกว่า “Mobile Responsive”
- มีการทำคอนเทนต์ที่ดี
เพราะคอนเทนต์เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้ Google มองว่า เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพหรือไม่ เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนกำลังค้นหาหรือเปล่า ซึ่งในเบื้องต้น ถ้าอยากจะทำคอนเทนต์ให้ติดหน้า Google แบบระยะยาวด้วยวิธีการทำ SEO แนะนำให้ลองทำ Evergreen Content ซึ่งเป็นประเภทบทความบนเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสดใหม่สำหรับผู้อ่านอยู่เสมอ เข้ามาอ่านทีไรก็ยังทันสมัย ยกตัวอย่างการทำคอนเทนต์ประเภทนี้ เช่น การทำ Pillar Page, การทำคอนเทนต์ fundamental, การทำคอนเทนต์รีวิว เป็นต้น
[divider] [scroll_to title=”Chapter 2 : เจาะลึกวิธีทำ SEO แบบ Step by Step” link=”section5″]Chapter 2 : เจาะลึกวิธีทำ SEO แบบ Step by Step
คราวนี้เรามาลงลึกถึงรายละเอียดของวิธีทำ SEO ให้มากยิ่งขึ้น โดยผมจะขอแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อด้วยกัน โดยมีรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ ดังนี้ครับ
-
การทำ Keyword Research
การทำ Keyword Research หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ เลยคือ การวางแผนและหา Keyword ที่เหมาะสมให้กับเว็บไซต์ ยิ่งถ้าหากคุณรู้ว่าธุรกิจของคุณนั้นควรใช้ Keyword อะไร กลุ่มว่าที่ลูกค้านั้นเขาใช้คำไหนในการค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการติดหน้า Google ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการทำ Keyword Research จะยังเป็นตัวช่วยในการกำหนดแผนการทำ SEO ในเรื่องต่างๆ อีกหลายเรื่องด้วย เช่น การปรับแต่ง On-Page, การทำ SEO Content, การวางโครงสร้างเว็บไซต์ (site structure), การโปรโมตคอนเทนต์, การทำ Link Building, การเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์, การเพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจ เป็นต้น
ซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดของการทำ Keyword Research แบบละเอียดซึ่งผมเคยเขียนสอนไว้ให้แล้วได้เลยที่ Keyword Research คืออะไร สอนวิธีหาคีย์เวิร์ด วิเคราะห์เชิงลึก สำหรับผู้เริ่มต้นทำ SEO [ 2022 ]
[ux_image id=”37006″ image_size=”original” depth=”2″]ส่วนวิธีการเริ่มต้นวางแผนทำ Keyword Research นั้นไม่ยากเลยครับ คุณไม่ต้องไปเดาว่า คนจะค้นหาคำว่าอะไรเอง แต่คุณสามารถใช้โปรแกรมหา Keyword ในการเข้ามาช่วยตามหา Keyword ที่กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้ามีการค้นหามากที่สุด ซึ่งก็มีทั้งรูปแบบฟรีและเสียเงินให้ลองเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น…
- Google Keyword Planner
- Google Trends
- Ubersuggest
- Keywordtool.io
- Ahrefs
- Moz
- SEMrush
- KWFinder
โดยแต่ละเครื่องมือนั้นจะช่วยคุณค้นหาและวางแผนการทำ SEO Keyword ได้ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะแสดงข้อมูลที่คุณต้องรู้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ต่อ แต่ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่า ข้อมูลไหนคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น
- Search Volume คือปริมาณที่ผู้ใช้ค้นหาคีย์เวิร์ดในแต่ละเดือน
- Cost Per Click คือ ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับคีย์เวิร์ดเพื่อให้แสดงผลในหน้า SERP (search engine result pages)
- Keyword Difficulty คือค่าที่แสดงความยากง่ายของคีย์เวิร์ดแบบ Organic Keyword
- Search Result แสดงเว็บไซต์ที่ติดอันดับของคีย์เวิร์ดคำนั้น
-
การวาง Website Structure
การวาง Website Structure เป็นการออกแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดีต่อการทำ SEO เพื่อให้ Bot (โปรแกรมเก็บข้อมูล) สามารถเข้ามาสำรวจเว็บไซต์เพื่อเก็บข้อมูลได้อย่างสะดวก ซึ่งช่วยทำให้ Search Engine เข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายว่า เกี่ยวกับอะไรและแต่ละ Page เชื่อมโยงถึงกันอย่างไร ทำให้มีแนวโน้มได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น
นอกจากนี้โครงสร้างของเว็บไซต์นั้นควรที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน โดยจะต้องหาข้อมูลที่ต้องการง่าย จัดกลุ่มเนื้อหาอย่างเป็นระเบียบ จากการจัด Category หรือหมวดหมู่ของเนื้อหาเดียวกันเข้าไว้ด้วยกัน และเนื้อหาเหล่านั้นจะต้องสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานด้วย เช่น คุณรู้ว่าผู้ใช้งานมีปัญหาในเรื่องอะไร การจัดกลุ่มหรือนำเสนอข้อมูลก็ควรบอกเขาได้ว่า สินค้าหรือบริการของเราแก้ไขปัญหาให้เขาได้อย่างไร
[ux_image id=”37007″ image_size=”original” depth=”2″]จากภาพจะเป็นตัวอย่างของ Site Structure ของเว็บไซต์ด้านการทำการตลาดออนไลน์ โดยมีการวาง Website Structure ให้ง่ายเริ่มต้นจากหน้าแรกของเว็บไซต์ (Homepage) ซึ่งจะเชื่อมโยงตรงไปยังเว็บเพจสำคัญ นั่นคือหน้า Category ที่จัดหมวดหมู่เนื้อหาออกเป็น 3 อย่าง ได้แก่ Services About และ Blog เพื่อนำเสนอเนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์ และทำการเชื่อมโยงเว็บเพจต่างๆ ด้วยการทำ Internal Link ถึงกันอย่างเป็นระบบ
-
การทำ On-Page SEO
On-Page SEO (หรือ On-Site SEO) จะเป็นการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ในหน้าที่ต้องการทำอันดับ SEO ให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพดีขึ้นทั้งจากฝั่งผู้ใช้งาน พวกเขาจะค้นหาหน้าเว็บไซต์ของคุณเจอได้ไวขึ้น ทั้งจากการตั้งชื่อ SEO Title, การทำ Description, การเขียน URL ที่อ่านออก ฯลฯ ซึ่งช่วยทำให้ผู้ใช้งานรู้ได้ว่า เว็บไซต์ของเรามีคำตอบที่เขาต้องการอยู่จริงๆ หรือเปล่าจากการอ่านชื่อ และคำอธิบายจากผลลัพธ์การเสิร์ชที่พบ
นอกจากนี้ยังช่วยบอก Bot ว่าหน้าแต่ละหน้าบนเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง มีความเกี่ยวข้อง (Relevance) กับเว็บไซต์ และมีคุณภาพ (Quality) มาก- น้อยแค่ไหน หรือเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (User Friendly) หรือไม่ ทำให้มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการทำ SEO ได้ง่ายมากขึ้น ส่วนวิธีการทำ SEO On-Page พื้นฐานก็ง่ายมากครับ จะมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้
- เลือกใช้ Keyword ให้เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่
- ปรับปรุงหรือสร้างคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น…
- การใส่ Title tags และ Meta Description ให้ตรงกับ Keyword
- การปรับแต่ง URL ให้เป็นมิตร และควรใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับหน้านั้นๆ
- การทำ Heading <H1, H2, H3> เพื่อบ่งบอกความสำคัญของคำหรือประโยค ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณแสดงผลบน Featured Snippets ได้
- การทำ Image Title และ Image Alt Text ให้รูปภาพในหน้าเว็บไซต์
- การทำ Internal Link ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ Google เข้าใจความเกี่ยวข้องของเพจต่างๆ บนเว็บไซต์มากขึ้น
- เพิ่ม LSI Keyword ซึ่งเป็น Keyword แวดล้อมที่เกี่ยวข้องหรือพ้องความหมายในคอนเทนต์ให้มากขึ้น
-
การทำ Off-Page SEO
การทำ Off-page หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในแง่ของการทำ Link Building และ Backlink ซึ่งเป็นวิธีการทำ SEO โดยอาศัยปัจจัยภายนอก จุดประสงค์ในการทำก็เพื่อมุ่งเน้นที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ จากการได้เป็นเว็บอ้างอิงปลายทางของเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องนั่นเอง
ส่วนวิธีการทำนั้น ผมจะขอให้คุณไล่อ่านขั้นตอนและทำความรู้จักกับวิธีทำ SEO ด้วยกลยุทธ์การทำ Off-page โดยเริ่มต้นจากขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงสิ่งที่เป็น Tips เล็กน้อยที่ควรรู้ ดังนี้
บทความนี้จะปูพื้นฐานให้กับคุณในเรื่องของการทำ Link Building ว่าคืออะไร จะเริ่มต้นทำอย่างไร
บทความนี้ผมได้รวบรวมทุกเทคนิคของการทำให้ได้มาซึ่ง Backlink คุณภาพจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง มาดูกันว่า Backlink ที่ดีนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรและจะหาจากที่ไหนได้บ้างในบทความเดียว
ส่วนใครที่กำลังมองหาทางลัดในการสร้าง Backlink บทความนี้ผมจะมาบอกวิธีการสร้าง Backlink ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องสุ่มเดา เลือกทำแบบไหนถึงเหมาะกับ Algorithm ในยุคปัจจุบันบ้าง
-
การทำ Technical SEO
อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นแล้วนะครับว่า Google มีหลักเกณฑ์การตรวจสอบและให้คะแนนเว็บไซต์อยู่ อย่างเช่นเกณฑ์ E-A-T Factor, Core Web Vitals ดังนั้น Technical SEO จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องศึกษา เพราะนี่คือกระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงกับปัจจัยที่ Google มองว่าสำคัญ ซึ่งผมได้เขียนเทคนิค Technical SEO ที่จำเป็นในด้านการทำเว็บไซต์เอาไว้ด้วยกันหลายเรื่องเลยครับ ซึ่งคุณสามารถนำเทคนิค เครื่องมือ และองค์ความรู้เหล่านี้ไปปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ ลองดูนะครับว่า มีเรื่องอะไรที่คุณยังไม่ได้ลงมือทำบ้าง ยังไงก็รีบไปแก้ไขให้ถูกต้องจะดีที่สุดนะครับ
- 404 Not Found คืออะไร แก้ยังไง ดูวิธีการเช็กหน้า Error และความหมาย
- กันอันดับร่วง! ด้วยการทำ Redirect 301 [สอนขั้นตอนการทำแบบละเอียดที่นี่]
- HTTPS คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO ในปัจจุบัน
- Domain ภาษาไทย มีผลต่อการทำ SEO มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
- Yoast SEO คืออะไร ทำความรู้จักตัวช่วยในการทำ SEO แบบละเอียด
- เช็คอันดับเว็บไซต์ ทำอย่างไร? แนะนำเว็บและเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์ [อัปเดตล่าสุด]
สรุป
วิธีทำ SEO นั้นมีขั้นตอนมากมายหลายอย่าง ทั้งหมดนี้คือเรื่องพื้นฐานที่ผมอยากจะให้ทุกคนได้ศึกษาและปูพื้นไว้ให้แน่น เพราะผมเชื่อว่า รากฐานที่ดีจะนำไปสู่การต่อยอดที่ดีเช่นกัน ดังนั้น ถ้าคุณสนใจจะลงมือทำ SEO ไม่ว่าจะทำด้วยตัวเองหรือจ้างบริษัทรับทำ SEO สักเจ้า เรื่องเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณเข้าใจและดำเนินการทำ SEO ได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ติดอันดับต้นๆ ของ Search Engine ได้อย่างแน่นอนเลยครับ
[/col] [/row]